บท
ตั้งค่า

บทที่ 9 สามีเขินแล้ว

ชายหนุ่มมองนางโดยไม่พูดอะไร นางถามทั้งๆ ที่รู้อยู่แล้วชัดๆ!

“เจ็บก็ทนไว้” หลังจากพูดจบ มู่จิ่วเยว่ก็เริ่มทำความสะอาดเศษสมุนไพรตกค้างอยู่บนบาดแผลเขาอย่างระมัดระวัง

หลัวชิงอวี่เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนางอย่างตั้งใจ ตอนนี้ผู้หญิงที่กำลังทำความสะอาดบาดแผลของเขาอยู่ไม่มีท่าทีแยกเขี้ยวยิงฟันและท่าทางแปลกๆ เหมือนอย่างเคย แถมยังดูนิ่งและสงบมากด้วย

ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยมองนางอย่างพินิจมาก่อน แต่พอได้มองดีๆ แล้วถึงพบว่าจริงๆ แล้วนางเป็นคนที่สวย

ใบหน้ารูปไข่เรียวบางมีเสน่ห์ คิ้วโค้งเรียวดุจใบหลิว ตรงระหว่างคิ้วเหมือนจะมีไฝสีแดงเล็กๆ อยู่ซึ่งมันถูกบดบังไปด้วยเส้นผม มองไม่ค่อยชัดเท่าไรนัก

จมูกเล็กๆ ของนางถูกปกคลุมไปด้วยเม็ดเหงื่อเล็กๆ ทำให้เพิ่มเสน่ห์ให้กับนางขึ้นมาก

ผู้หญิงแบบนี้ หากไม่ใช่เพราะข่าวลือพวกนั้น เกรงว่าคงไม่ได้มาดูแลคนพิการอย่างเขาอยู่ในที่แบบนี้หรอก?

มู่จิ่วเยว่รู้สึกได้ว่าถูกมองจึงเงยหน้าขึ้นมองกลับ ชายหนุ่มรีบเบือนหน้าหนี ใบหูก็แดงระเรื่อขึ้นมาเล็กน้อย

แต่เหมือนว่ามู่จิ่วเยว่จะไม่ทันสังเกตเห็นอะไรพวกนี้ หลังจากทำความสะอาดเศษยาสมุนไพรแล้ว นางก็มองบริเวณที่เป็นหนองพลางขมวดคิ้วแน่น

เรือนโทรมๆ หลังนี้เข็มแม้แต่เล่มเดียวก็ไม่มี แต่อยากจะช่วยเจาะหนองออกให้เขายังต้องคิดหาวิธีอื่น

นางหันหลังเดินออกไปพร้อมกับน้ำสกปรก เมื่อเช้าตอนไปตัดหญ้า นางเห็นว่าแถวนั้นมีต้นเตยทะเลอยู่สองสามต้น (คนในชนบทจะเรียกกันว่าลำเจียก)

หลังจากเทน้ำสกปรกทิ้ง นางก็เดินไปฉีกเอาหนามจากต้นเตทะเลมาจำนวนหนึ่ง แล้วเทน้ำร้อนยกเข้าไปอีกครั้ง

ใช้หนามแทงหนองออกจากแผล แล้วค่อยๆ ทำความสะอาด

มู่จิ่วเยว่ทำทุกขั้นตอนอย่างระมัดระวัง แต่การกระทำของนาง เอาจริงก็ไม่นับว่าอ่อนโยนนัก

ตั้งแต่ต้นจนจบ หลัวชิงอวี่ไม่ได้ส่งเสียงร้องเลยสักแอะ แต่กลับมีเหงื่อเปียกโชกไปทั่วร่างกาย ใบหน้าหล่อเหลาก็บูดเบี้ยวไปหมด

มู่จิ่วเยว่เงยหน้าขึ้นมองเขา ก็ทำเอาแปลกใจเล็กน้อย บาดเจ็บหนักขนาดนี้ยังทนไหว มิน่าถึงได้อารมณ์ฉุนเฉียวรุนแรงแบบนั้น

“เจ้าพักผ่อนเถอะ บ่ายๆ ข้าจะขึ้นเขาไปหาเก็บสมุนไพรมาใส่ให้”

ยาที่หมอสั่งมาให้ก่อนหน้านี้ไม่เป็นผลต่ออาการบาดเจ็บของเขาเท่าไรนัก

ในทางกลับกัน อากาศตอนนี้ร้อนอบอ้าว พันเอาไว้แบบนั้นแผลยิ่งอบอ้าวยิ่งอักเสบได้ง่าย

พูดจบนางก็ปรายตามองเขาปราดหนึ่ง สุดท้ายก็หันตัวเดินออกไป แล้วตักน้ำร้อนเข้ามาอีกรอบ

“เดี๋ยวข้าช่วยเช็ดตัวให้”

“ไม่ต้องหรอก!” หลัวชิงอวี่พูดเสียงแหบแห้ง

“แบบนี้เจ้าจะยิ่งป่วยเอาง่ายๆ นะ ขาก็เจ็บขนาดนี้แล้ว หากปากแผลอักเสบแล้วเป็นไข้ขึ้นมา เจ้าอาจจะตายได้เลยนะ”

มู่จิ่วเยว่วางอ่างลงบนโต๊ะและจะช่วยถอดเสื้อผ้าให้เขา

หลัวชิงอวี่ปกป้องเสื้อผ้าของตัวเองไว้แน่น "ผู้หญิงอย่างเจ้า เหตุใดจึงไม่มีความละอายบ้างเลย?"

ท่าทางอย่างกับสาวน้อยที่กำลังจะถูกข่มขืน

มู่จิ่วเยว่หัวเราะ "ตอนนี้ข้าเป็นภรรยาของเจ้าแล้ว สามีไม่ต้องอายไปหรอก?"

“ออกไป! ให้ต้าหย่งเข้ามา” หลัวชิงอวี่เบือนหน้าหนีไม่มองนาง น้ำเสียงแหบแห้งทุ้มต่ำแถมฟังดูเขินอายเล็กน้อย

มู่จิ่วเยว่ขยับเข้าไปใกล้เตียงเขาอีกครั้ง ทำเอาหลัวชิงอวี่ตกใจกลัวจนหดตัวเข้าไปด้านใน ทำเอามู่จิ่วเยว่รู้สึกดีสุดๆ นางหัวเราะชอบใจก่อนจะเดินออกไปข้างนอก

ด้านนอก หลัวต้าหย่งสองสามีภรรยาช่วยกันซ่อมหลังคาฝั่งห้องของนางเสร็จเรียบร้อยแล้ว เมื่อเห็นนางออกมา หลัวต้าหย่งจึงเดินเข้าไป

ซ่งซื่อเดินเข้ามาหานางและขยิบตาให้นาง "จิ่วเยว่ เจ้านี่สุดยอดจริงๆ ชิงอวี่ถูกเจ้าจัดการซะอยู่หมัดเลย"

มู่จิ่วเยว่เกิดอยากรู้อยากเห็นจึงลดเสียงเบาลงแล้วถามว่า "หรือว่าเมื่อก่อนเขาก็ทำตัวเย็นชามากเหรอ?"

“จะว่าอย่างไรดีล่ะ ปกติเขาไม่ค่อยพูด แต่เจ้าไม่ต้องห่วงนะ เขาเป็นคนซื่อและทำงานเก่งมากๆ ถ้าไม่ใช่เพราะร่างกายเป็นแบบนี้ เจ้าได้แต่งงานกับเขาคงจะมีความสุขมากแน่ๆ”

มู่จิ่วเยว่กลอกตามองบน นางเพียงแค่อยากรู้นิสัยใจคอของเขาเมื่อก่อนก็เท่านั้น ไม่ได้อยากฟังนางพูดอวดพูดชมความดีของเขา

ผู้ชายที่อยู่ตรงหน้านางตอนนี้ทั้งดูน่ากลัวและเย่อหยิ่ง ซึ่งไม่ตรงกับความซื่อที่นางพูดมาเลยสักนิด

หรือว่าเบื้องหลังของคนซื่อมักจะมีอีกด้านหนึ่งเสมอ?

ในแววตาของซ่งซื่อเต็มไปด้วยความขี้ซุบซิบ “จิ่วเยว่ เมื่อคืนเจ้านอนที่นี่เหรอ? ปล่อยสามีรูปงามทิ้งไว้แต่กลับมานอนบนพื้นคนเดียว?”

มู่จิ่วเยว่เองก็เป็นคนพูดจาแข็งกร้าว แต่ก็ยังอึ้งกับคำพูดของซ่งซื่อเข้าจนได้ เพราะอย่างไรเสียนางก็เป็นสาวโบราณพื้นเมืองคนหนึ่ง?

หรือว่าผู้หญิงสมัยโบราณต่างตรงไปตรงมาแบบนี้กันทุกคน?

“พี่สะใภ้ เขาเป็นแบบนั้น ข้าจะทำอะไรได้อีกล่ะ”

“แม้ว่าจะทำอะไรไม่ได้เลย นอนกอดก็นับว่าเป็นเรื่องดีนะ”

ดูเหมือนว่าสิ่งที่นางพูดจะมีเหตุผลมากไม่น้อย

“พี่สะใภ้ ข้าขอยืมจอบกับตะกร้าบ้านพี่หน่อยได้ไหม แล้วก็ขอยืมมีดอีกเล่มด้วย ไว้ตอนเย็นข้าจะเอาไปคืน” นางรีบเปลี่ยนเรื่องทันที

“เจ้าจะทำอะไรรึ” ซ่งซื่อมองนางอย่างพิจารณาและถามด้วยความสงสัย

นางได้ยินมาจากหลัวต้าหย่งว่าตอนที่เรือนเฒ่าแก่หลัวแยกเรือน เหมือนจะไม่ได้จัดสรรที่นาให้พวกเขา? แล้วนางจะเอาจอบไปทำอะไร?

“ข้า ข้าอยากจะขึ้นไปดูบนเขา ตอนนี้ที่บ้านเป็นแบบนี้ อย่างไรข้าก็ต้องออกไปหาของกินมาไว้บ้าง”

มู่จิ่วเยว่ก้มหน้าลงด้วยท่าทีไม่สบายใจ

ซ่งซื่อตบไหล่นางเบาๆ แล้วพูดว่า "ได้สิ เจ้าจะใช้เมื่อไหร่ เดี๋ยวข้ากลับไปหยิบให้ "

“ข้าอยากได้ตอนนี้เลย ถือโอกาสตอนที่ยังเช้าอยู่ขึ้นไปเดินดูบนเขาเสียหน่อย”

“เจ้าไปคนเดียวเหรอ ให้ข้าไปเป็นเพื่อนไหม ตอนนี้มีต้าหย่งอยู่บ้านพอดีให้เขาดูแลลูกสองคนไป”

ซ่งซื่อเป็นคนนิสัยใจร้อน พูดจบนางก็ขานบอกหลัวต้าหย่งที่อยู่ข้างในทันที พูดจบก็หันตัวเดินออกไป แล้วเดินกลับมาพร้อมแบกตะกร้าบนหลังและเอาอีกใบยื่นให้มู่จิ่วเยว่

“ไปเถอะ ข้าคุ้นเคยกับภูเขาแถวนี้มากกว่า เจ้าอยากจะหาอะไรเดี๋ยวข้าพาไป”

เมื่อเห็นท่าทางกระตือรือร้นของนาง มู่จิ่วเยว่ก็ปริปากยิ้ม ดูเหมือนว่าจะไม่ได้สุดโต่งไปเสียทุกคน อย่างคู่สามีภรรยาของหลัวต้าหย่งรู้สึกว่านิสัยไม่เลวเลย

ดูจากสถานการณ์ตอนนี้ของนางกับหลัวชิงอวี่แล้วพวกเขาก็ยังเต็มใจที่จะช่วยเหลือ แสดงว่านิสัยของพวกเขาไม่ได้แย่

“ขอบคุณนะพี่สะใภ้!”

“พูดอะไรแบบนั้น? จากนี้ไปเราก็เป็นเพื่อนบ้านกันแล้ว ปกติข้าก็ไม่ค่อยมีคนไว้คุยด้วย ต่อไปเจ้าจะหาว่าข้าน่ารำคาญไม่ได้นะ” ซ่งซื่อบอกยิ้มๆ

มู่จิ่วเยว่ก็ยิ้มตอบ แล้วเดินขึ้นภูเขาโดยไม่พูดอะไร

ภูเขาที่อยู่ข้างๆไม่สูงนัก แต่ด้านหลังยังมีภูเขาทอดยาวต่อเนื่องไปเรื่อยๆ ยิ่งลึกเข้าไปก็ยิ่งสูงชัน

“อย่าเข้าไปลึกมากนะ มีสัตว์ดุร้ายตัวใหญ่อยู่ข้างใน ข้าได้ยินมาว่าเมื่อก่อนพวกมันจะลงมาจากภูเขาไปรบกวนชาวบ้าน จนไม่มีใครกล้าอาศัยอยู่ใกล้ๆ แถวนี้”

ซ่งซื่อพามู่จิ่วเยว่ขึ้นภูเขาอย่างชำนาญ เดินไปคุยไป

บนภูเขาลูกนี้ ปกติก็น่าจะมีชาวบ้านขึ้นมาขุดผักป่า ตัดฟืน บนพื้นดินนอกจากจะมีหญ้าขึ้นสูงประมาณหัวเข่าแล้ว ยังมีพุ่มไม้สูงประมาณครึ่งตัวคนกับพวกต้นสนอีกด้วย

หลังจากปีนขึ้นไปถึงยอดเขาแล้ว ด้านหลังเชื่อมต่อกับภูเขาลูกใหญ่ บนเขามีพุ่มไม้หนาทึบและวัชพืชอยู่ทั่วภูเขา

หากเป็นมู่จิ่วเยว่ในภพชาติก่อน ปีนเขาแค่นี้แค่เด็กๆ

แต่ตอนนี้สภาพร่างกายของนางไม่ค่อยดีนัก เพิ่งจะปีนเขามาได้สักพักก็กระหืดกระหอบแล้ว

ซ่งซื่อชี้ไปที่ถนนเล็กๆ ด้านข้าง แล้วพูดว่า "ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่ต้าหย่งกับชิงอวี่มักจะเดินออกมาเวลาออกไปล่าสัตว์ป่าในเขา"

“ไปกันเถอะ อยากจะหาของอร่อย ก็ต้องเดินเข้าไปข้างในอีก” ขณะที่พูด นางก็เดินนำตามเส้นทางเล็กๆ ไป

มู่จิ่วเยว่เองก็มีความคิดเช่นนั้นเหมือนกัน จึงเดินตามเข้าไปในภูเขาต่อไป "พวกชิงอวี่ไปล่าสัตว์บนภูเขาบ่อยหรือ?"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel