บท
ตั้งค่า

บทที่ 10 เก็บสมุนไพรกับมิติ

“ก็ไม่ถือว่าบ่อยนักหรอก จะขึ้นประมาณเดือนละสองหน ขึ้นเขาแต่ละครั้งก็เจ็ดแปดวันกว่าจะลงเขา”

ซ่งซื่อพูดอย่างมีน้ำโห "พวกบ้านลุงหลัวห้าก็ทำเกินไป เมื่อก่อนสัตว์ป่าที่ชิงอวี่ล่ามาได้ เงินที่ขายได้มาก็เอาเข้าส่วนกลางหมด พอเขาเกิดเรื่อง พวกเขากลับทำเรื่องแบบนี้ได้ลงคอ"

หลังจากนิ่งไปพักหนึ่ง นางก็หันกลับไปมองมู่จิ่วเยว่ "จิ่วเยว่ ชิงอวี่เป็นคนดีจริงๆ นะ ตอนนี้อาจจะลำบากหน่อย แต่เขาจะไม่เอาเปรียบเจ้าแน่นอน"

มู่จิ่วเยว่พูดอย่างใจเย็น "ข้าเข้าใจความหมายของพี่สะใภ้นะ ไม่ต้องห่วง ตอนนี้เขาเป็นสามีของข้าแล้ว ข้าจะดูแลเขาอย่างดี"

ทั้งสองคนได้เจรจาข้อตกลงกันเรียบร้อยแล้ว ไม่มีคำว่าเอาเปรียบหรือเสียเปรียบ

“เจ้ารักษาขาของชิงอวี่ได้จริงเหรอ?” เห็นได้ชัดว่าก่อนหน้านี้ซ่งซื่อก็ได้ฟังบทสนทนาระหว่างนางกับหลัวชิงอวี่มาบ้าง

มู่จิ่วเยว่มองนางต่ไม่พูดอะไร เรื่องบางเรื่องไม่สามารถทำให้คนเชื่อได้เพียงเพราะคำพูด

“ข้าไม่ได้มีเจตนาอื่น เพียงแต่ขาของชิงอวี่บาดเจ็บหนัก ขนาดหมอยังรักษาไม่ได้ ดังนั้น...”

“พี่สะใภ้ ข้าเข้าใจ” มู่จิ่วเยว่ไม่ได้อธิบายให้มากความ นางได้กลิ่นยาสมุนไพรดีๆ แล้ว

เมื่อเห็นการกระทำของนาง ซ่งซื่อก็แปลกใจเล็กน้อย “จิ่วเยว่ เจ้าเก็บยาสมุนไพรเป็นจริงๆ เหรอ?”

หมอหญิงที่สามารถเก็บยาได้ หากรายงานต่อทางการก็จะได้รับงานหน้าที่สำคัญ

ต่อให้ไม่แจ้งต่อทางการ แค่เก็บยาสมุนไพรขายก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพไร้ที่อยู่อาศัยจนต้องถูกขายหลายต่อหลายครั้ง ถึงขนาดถูกขายในราคาถูกแบบนี้?

มู่จิ่วเยว่ชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วขุดหาสมุนไพรต่อไป

“ตอนเด็กเคยจำมาจากปู่ของข้าบ้าง แต่ข้าไม่เคยมีโอกาสได้แสดงออกมาเท่านั้น”

เรื่องนี้นางอธิบายมากไม่ได้ เพราะเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเสียงเลื่องลือแบบนั้น แม้ว่านางจะเพิ่งมา ทุกคนยังไม่รู้จักคุ้นเคยกับนาง แต่พูดมากก็ยิ่งผิดมาก

ซ่งซื่อได้ยินน้ำเสียงของนางก็รีบหุบปากอย่างชาญฉลาดทันที แล้วพูดว่า "ยังมีอะไรอีก เดี๋ยวข้าช่วยขุด"

“ไม่ต้องหรอกจ้ะพี่สะใภ้ พี่ยุ่งหาของพี่ไปเถอะจ้ะ”

แค่ซ่งซื่อสามารถขึ้นเขามาเป็นเพื่อนนางก็รู้สึกขอบคุณมากแล้ว แม้ว่าบางทีนางอาจจะตั้งใจมาคอยจับตาดูมากกว่าก็เถอะ

แต่ไม่ว่าอย่างไร ซ่งซื่อผู้นี้ นางยินดีที่จะคบค้าสมาคมด้วย

นางขึ้นมาบนเขา ก็น่าจะอยากหาของอร่อยอย่างอื่น เพราะในยุคสมัยนี้ ไม่ว่าชีวิตใครก็ลำบากกันทั้งนั้น

“ก็ได้ มีอะไรก็เรียกข้านะ” ซ่งซื่อไม่ได้พูดอะไรอีก หลังจากกำชับไว้แล้วนางก็เดินไปอีกทาง

มู่จิ่วเยว่เน้นเก็บยาสมุนไพรสำหรับตัวเองและหลัวชิงอวี่เป็นหลัก และเก็บยาสมุนไพรบางอย่างขายแลกเงินด้วยก็น่าจะดี

ในตำราสืบทอดของหมอเทวดามีสูตรยาอยู่มากมาย หนึ่งในนั้นมีสูตรยาไว้สำหรับให้นางแช่อาบโดยเฉพาะ ซึ่งว่ากันว่าจะทำให้ร่างกายสงบและขจัดสิ่งสกปรกออกจากร่างกาย

ตอนนี้สภาพร่างกายของนางอ่อนแอมาก หากไม่ใช่เพราะมีพลังและความแข็งแกร่งที่ข้ามเวลาตามนางมาด้วย อย่าว่าแต่ปีนเขาเก็บสมุนไพรเลย มีแรงเดินไหวก็ไม่เลวแล้ว

แม้ว่าจะไม่มีตำราสืบทอดของหมอเทวดา นางก็ต้องปรับสภาพร่างกายนี้ใหม่อยู่ดี

นอกจากนี้หลัวชิงอวี่นอนติดเตียงไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ แถมบาดแผลมีแนวโน้มที่จะอักเสบ ดังนั้นจะต้องรีบเปลี่ยนใส่ยาโดยด่วน

ตอนนี้ในเรือนทรุดโทรมหลังนั้นไม่มีอะไรเลย ข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตนางต้องหาซื้อ อย่างน้อยก็ต้องซื้อเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนใส่สักชุดสองชุด

ยิ่งได้กลิ่นเหงื่อเหม็นเปรี้ยวตามร่างกายของนางแล้ว นางรู้สึกว่าคืนนี้นางคงจะนอนไม่หลับแน่ๆ

“เอ๊ะ? นี่กล้วยไม้หวาย? แถมยังมีไม่น้อยเลยด้วย” มู่จิ่วเยว่แหวกพุ่มไม้เล็กๆ ออก เมื่อเห็นกล้วยไม้หวายเล็กๆ จำนวนมากนางก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา

ในภพชาติก่อนราคาของกล้วยไม้หวายดีมาก เชื่อว่าตอนนี้ก็คงจะไม่ต่างกัน

หลังจากเก็บกล้วยไม้หวายบางส่วนแล้ว จู่ๆ มู่จิ่วเยว่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าภายในเตายาของนางมีห้วงเวลาอยู่ ไม่รู้ว่าในห้วงเวลานั้นจะปลูกยาสมุนไพรได้หรือเปล่า

เมื่อคิดถึงเรื่องนั้น จู่ๆ นางก็รู้สึกว่าเบื้องหน้าสั่นไหว เมื่อมองอย่างพินิจอีกครั้งก็พบว่ามาอยู่ในพื้นที่ห้วงเวลาที่เต็มไปด้วยกลุ่มหมอกแล้ว

ไม่รู้ว่าพื้นที่ในห้วงเวลานั้นกว้างใหญ่แค่ไหน นางเหลือบมองไม่เห็นที่สิ้นสุด มันถูกซ่อนเร้นไว้ภายใต้หมอกสีเทา แต่ที่นางมองเห็นอยู่ในตอนนี้ ขนาดอย่างน้อยก็หลายหมู่ ตรงกลางมีพื้นดินสีดำ

บนพื้นแห้งไม่มีอะไรเลย ห่างออกไปไกลสามารถมองเห็นน้ำพุและสระน้ำเล็กๆ อยู่ไกลๆ

“ที่นี่คือในห้วงเวลาเหรอ อากาศมีหมอกหนา แถมยังสบายมาก ไม่เลวเลย”

มู่จิ่วเยว่ตื่นเต้นมาก ที่นี่จะเป็นพื้นที่ส่วนตัวของนาง แม้ว่านอกจากพื้นดินและน้ำพุแล้ว นางจะยังไม่ค้นพบอะไรก็ตาม

แต่นางก็ยังคงตื่นเต้นมาก เพราะที่นี่สามารถเพาะปลูกอะไรอีกหลายอย่างได้ และยังสามารถเก็บของมากมายเอาไว้ที่นี่ได้ ต่อไปหากนางต้องจากที่นี่ไปก็ไม่ต้องกลัวว่าจะหิวอีกแล้ว

เมื่อนึกได้ว่าตนยังอยู่บนภูเขา มู่จิ่วเยว่ก็ไม่ได้อยู่นาน เพียงชั่วอึดใจนางก็ออกมาจากห้วงเวลา

คราวนี้ นางขุดกล้วยไม้หวายอย่างระมัดระวัง และย้ายมันไปไว้ในห้วงเวลา ส่วนที่เหลือก็เก็บเอาไปไว้ขายเป็นเงิน

“จิ่วเยว่ ทางนั้นเป็นยังไงบ้าง?” เสียงของซ่งซื่อดังมาแต่ไกล “อยากจะมาดูทางด้านนี้ไหม ทางนี้มีมันป่าอยู่ จะมาเก็บหน่อยไหม?”

มู่จิ่วเยว่เพิ่งจะเก็บกล้วยไม้หวายเสร็จพอดี เมื่อได้ยินเสียงเรียกนางก็เดินไปอย่างไม่ลังเล

ของที่นี่ขุดไปพอสมควรแล้ว แต่ยาของหลัวชิงอวี่ยังขาดไปบางส่วน นางต้องค้นหาต่อ

จุดที่ซ่งซื่ออยู่ มีเครือเถาวัลย์ที่มีมันสีน้ำตาลอมม่วงขนาดเล็กรูปร่างแตกต่างหลายขนาดอยู่

“จิ่วเยว่ มาเร็ว มันป่าพวกนี้ต้มสุกก็กินได้ แถมยังอร่อยเลยทีเดียว”

ซ่งซื่อยังคงเก็บต่อไปไม่หยุด ปากก็พูดกับนางว่า "เจ้าอย่ามองว่ามันเล็ก เจ้าเด็กน้อยสองตัวของฉันชอบมันมากเลยล่ะ"

มู่จิ่วเยว่ฉีกยิ้ม "จ้ะ!"

นี่ไม่ใช่มันป่าอะไรหรอก ใต้เถาวัลย์มีซานเย่าอยู่ ในภพชาติก่อนแถวชนบททางใต้บางแห่งจะเรียกมันว่าฮวยซัว และมันไม่ใช่แค่อาหารชั้นเลิศเท่านั้น แต่ยังเป็นยาบำรุงอย่างหนึ่งด้วย

แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะขุดฮวยซัว ต้องรอให้เถาวัลย์เหล่านี้เหี่ยวเฉาแล้วถึงจะสามารถขุดได้

หลังจากที่ทั้งสองคนเป็นมันหัวค่อนข้างใหญ่หมดแล้ว มู่จิ่วเยว่ก็ตามหาสมุนไพรที่ยังหาไม่พบอีกสองชนิดอยู่สักพัก

แต่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปแล้ว หากไม่ลงเขาตอนนี้ กลางคืนจะไม่มีแสงสว่างและจะทำอะไรลำบาก

ทั้งสองรีบลงจากภูเขา และเมื่อกลับถึงบ้าน หลัวต้าหย่งก็ไม่อยู่แล้ว เขาน่าจะพาเด็กๆ กลับไปแล้ว

มู่จิ่วเยว่บอกลาซ่งซื่อ แล้วกลับไปที่บ้านแสนทรุดโทรมหลังนั้น

นางเข้าไปในห้องของหลัวชิงอวี่ก่อน และดูเหมือนว่าชายหนุ่มจะยังคงหลับสนิทอยู่

นางตักข้าวออกมาล้างเพื่อต้มโจ๊ก จากนั้นนำสมุนไพรที่ขุดกลับมาเมื่อตอนบ่ายออกมา

แม้ว่านางจะหาสมุนไพรได้ไม่ครบทั้งหมด แต่นางก็เอาสมุนไพรออกมาล้างให้สะอาด ขานเรียกเตายาออกมาแล้วเอาสมุนไพรใส่ลงไปบดให้ละเอียด

ตั้งแต่อยู่ในภพชาติก่อน นางก็ค้นพบแล้วว่ายาที่ผ่านเตายาอันนี้จะได้ผลที่ดีกว่ายาธรรมดาทั่วไปมาก

จากนั้นนางก็เข้าไปในห้องของหลัวชิงอวี่และค่อยๆ นำสมุนไพรที่บดละเอียดแล้วประคบลงที่ขาที่หักทั้งสองข้างของหลัวชิงอวี่

ตอนนี้บาดแผลของเขาบวมแดงและมีหนอง ไม่ว่าจากนี้จะรักษาเขาอย่างไรก็ต้องรักษาปากแผลให้หายดีก่อนถึงจะทำต่อได้

หลังจากใส่ยาเข้าไป นางเห็นได้ชัดว่ากล้ามเนื้อขาหลัวชิงอวี่เริ่มจะสั่นเทา

“เจ้าทำอะไร” หลัวชิงอวี่พูดด้วยเสียงแหบแห้งที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดที่ซ่อนอยู่

“ใส่ยาให้เจ้าไง เจ้าอดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็จะสบายขึ้น” มู่จิ่วเยว่กล่าวโดยไม่เงยหน้าขึ้นมอง

หลัวชิงอวี่มุมปากกระตุก นางแน่ใจหรือว่ากำลังรักษาบาดแผลให้เขา ไม่ได้กะจะฉวยโอกาสเอาชีวิตเขา?

ความเจ็บปวดแสนสาหัสเช่นนี้ ต่อให้เป็นตอนที่เขาเพิ่งจะได้รับบาดเจ็บครั้งแรก มันก็ไม่น่ากลัวขนาดนี้

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel