บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 น่าอายเป็นที่สุด

มู่จิ่วเยว่รู้สึกว่าตัวเองน่าจะรู้ความจริงแล้ว

แต่แล้วนางกลับลังเล

ในภพก่อนนางยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์ แม้ว่าในร่างนี้จะดวงกินผัวฆ่าผู้ชายไปสามสี่คนแล้วก็ตาม แต่นางก็ยังเป็นหญิงสาวบริสุทธิ์

จะให้นางพาชายหนุ่มที่มีอายุมากกว่าเข้าห้องส้วม ไม่ว่าจะคิดยังไงมันก็น่าอึดอัดใจ

แต่เมื่อนึกไปว่าต่อจากนี้พวกเขาต้องใช้ชีวิตร่วมกันไปอีกพักใหญ่ มันก็เป็นเรื่องที่ไม่อาจเลี่ยงได้

นางจึงเดินเอื่อยไปที่ห้องของหลัวชิงอวี่อีกครั้ง สุดท้ายนางก็หยุดอยู่หน้าประตู

หลังจากลังเลอยู่พักหนึ่ง นางก็ถามออกไปด้วยท่าทีแปลกๆ ว่า "เจ้าอยากเข้าห้องส้วมใช่ไหม?"

“ตูม!” เมื่อหลัวชิงอวี่ที่กำลังพยายามอั้นอย่างทรมานอยู่บนเตียงได้ยินคำพูดของนาง ในหัวสมองของเขาก็ระเบิดทันที...

นางยังเป็นผู้หญิงอยู่หรือไม่? เหตุใดถึงถามเรื่องแบบนี้ออกมาหน้าตาเฉยเช่นนี้?

ยิ่งกว่านั้น เมื่อคืนนางไม่ได้ฉวยโอกาสหนีไปเหรอ?

แม้ว่าหลัวชิงอวี่จะไม่พูดอะไร แต่มู่จิ่วเยว่ก็สามารถอ่านเข้าใจความหมายได้จากสีหน้าของเขา

นางหัวเราะลั่นทันที พร้อมเดินเข้าไปในห้องช้าๆ “โถ่ สามี หากต้องการความช่วยเหลือเจ้าก็พูดออกมาดังๆ สิ ข้าไม่ใช่พยาธิตัวกลมในท้องของเจ้านะ จะไปอ่านความคิดของเจ้าได้อย่างไร”

หลัวชิงอวี่หน้าเขียวปั๊ด หนีบสองขาไว้แน่นพลางขยับเข้าไปด้านในสุดของเตียงอย่างยากลำบาก “เจ้าคิดจะทำอะไร”

แค่ประโยคเดียวก็ราวกับถูกเขาเค้นเสียงพูดออกมา

มู่จิ่วเยว่ยิ้มเหมือนหมาป่าเจ้าเล่ห์ "สามี ตอนนี้เจ้าบาดเจ็บสาหัสนอนติดเตียง ข้าจะไปทำอะไรได้ นอกจากปรนนิบัติพาเจ้าไป ——เข้า ——ห้อง ——ส้วมไง!"

คำว่าเข้าห้องส้วมสามคำหลัง มู่จิ่วเยว่จงใจลากเสียงยาว แถมเน้นน้ำเสียงหนักแน่น

ใบหน้าหล่อเหลาของหลัวชิงอวี่ที่แดงระเรื่ออยู่แล้ว ตอนนี้เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เขาจ้องไปที่มู่จิ่วเยว่ และเค้นคำพูดออกมาคำเดียวว่า "ออกไป!"

ผู้หญิงคนนี้มาจากสถานที่แบบนั้นหรือไร? ทั้งน้ำเสียงทั้งการหยอกเย้าล้อผู้ชายฟังแล้วสะอิดสะเอียนหู

แต่หัวใจเจ้ากรรมดันเต้นแรงอย่างไม่เอาไหน แถมยังเขินอายไปทั้งเนื้อทั้งตัว

“สามี ตอนนี้เจ้าบาดเจ็บหนัก จะให้ออกไปได้อย่างไรเล่า เชื่อข้า เดี๋ยวข้าจะอุ้มเจ้าไปห้องส้วมเอง!”

มู่จิ่วเยว่เข้ามาหาด้วยรอยยิ้มร้ายๆ คิดไม่ถึงเลยว่าหนุ่มรูปงามสมัยโบราณเนี่ยจะเต๊าะนิดเต๊าะหน่อยไม่ได้เลย

จู่ๆ นางก็รู้สึกว่า การอยู่ในโลกอีกใบของนางคงไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อเสียทีเดียว

วันไหนรู้สึกเบื่อ ก็พูดเต๊าะพูดจีบสามีรูปงามขี้หวาดระแวงผู้นี้ ก็น่าสนุกดีเหมือนกัน

นางเดินไปที่เตียง โน้มตัวลงกะจะอุ้มเขา

ไม่รู้ว่าหลัวชิงอวี่ไปเอาแรงมาจากไหน รีบผลักนางออกอย่างแรง ก่อนตัวเขาจะขยับเข้าไปด้านในอีกเล็กน้อย มือสองข้างกอดอกมองนางอย่างหวาดระแวง

ท่าทางแบบนั้นมันเหมือนหญิงสาวตัวน้อยที่ถูกรังแก และกำลังเผชิญหน้ากับหมาป่าเจ้าเล่ห์ยังไงอย่างนั้น

“เจ้า เจ้าไปตามต้าหย่งมา” เขามองนางอย่างระแวดระวัง ก่อนจะกัดฟันพูดออกมาประโยคหนึ่ง

มู่จิ่วเยว่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “สามี เจ้าอย่ามองว่าข้าตัวเล็กผอมบาง ข้าแข็งแรงมากเลยนะ ข้าอุ้มเจ้าได้แน่ และไม่มีทางทิ้งเจ้าลงกลางทางด้วย”

หลัวชิงอวี่ถลึงตาใส่นาง หากสายตานั้นสามารถฆ่าคนได้ มู่จิ่วเยว่คงถูกฆ่าไปร้อยครั้งพันครั้งแล้ว

เมื่อเห็นว่าเขากำลังใกล้จะระเบิดออกมาแล้ว มู่จิ่วเยว่จึงยอมหยุด แล้วหันหลังเดินออกไป

ไม่งั้นอาจจะไม่ได้ตายเพราะดวงกินผัว แต่เป็นเพราะโมโหตายแทน ถ้าเป็นแบบนั้นแย่เลย?

หลัวต้าหย่งนอนไม่หลับแทบทั้งคืน เขาคอยฟังเสียงจากข้างนอกอย่างระแวดระวัง เพราะกลัวว่ามู่จิ่วเยว่จะขโมยเงินของหลัวชิงอวี่แล้วหนีไปกลางดึก

ขณะที่กำลังสะลึมสะลือ จู่ๆ ก็มีคนเคาะประตูจากด้านนอก

“ใคร!” จู่ๆ เขาตกใจตื่น รีบคว้าชุดคลุมยาวมาสวม ก่อนจะเดินไปที่ประตูใหญ่

ประตูถูกเปิดออกอย่างแรง มู่จิ่วเยว่ยกมือชะงักค้าง ก่อนจะดึงกลับอย่างเป็นธรรมชาติ "ชิงอวี่เรียกหาเจ้า"

หลังจากพูดจบนางก็หันหลังเดินจากไปทันที

เมื่อวานผู้ชายคนนี้ไม่ยอมทำหน้าดีๆ กับนาง ดังนั้น นางเองก็ย่อมไม่เกรงใจเขาเหมือนกัน

หลัวต้าหย่งไม่ชอบท่าทีของนางมากๆ แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่นางพูดแล้วเขาก็ไม่สนใจที่จะติดใจเรื่องท่าทีของนางตอนนี้จึงรีบหันไปสั่งความกับคนข้างในบ้านแล้วรีบเดินไปที่เรือนข้างๆ ทันที

เดิมทีเคยมีชาวบ้านจำนวนมากอาศัยอยู่ใกล้กับเชิงเขาแห่งนี้ แต่เนื่องจากมีสัตว์ร้ายลงมาจากภูเขามาทำลายข้าวของบ่อยๆ ชาวบ้านจึงทยอยย้ายไปอยู่ใจกลางหมู่บ้านกันหมด ทำให้พื้นที่แถวนี้ค่อยๆ กลายเป็นที่รกร้าง

บ้านเก่าของตระกูลหลัวก็ถูกทิ้งร้างไว้ตั้งแต่ตอนนั้นเช่นกัน

เดิมทีมีเพียงหลัวต้าหย่งเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นี่กับภรรยาและลูก ๆ ของเขา ตอนนี้หลัวชิงอวี่ย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วจึงถือเป็นเพื่อนบ้านกัน

หลัวต้าหย่งเข้าไปในห้องของหลัวชิงอวี่ มู่จิ่วเยว่ก็ไม่ได้เดินตามเข้าไป

นางมองบ้านที่ทรุดโทรม ในเมื่อหลังจากนี้ต้องพักอยู่ที่นี่ไปอีกสักระยะ เรื่องความปลอดภัยของบ้านหลังนี้ต้องได้รับการปรับปรุงใหม่

เรื่องซ่อมแซมบ้านก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับนาง เพราะในภพชาติที่แล้วนางอาศัยอยู่กับปู่ และปู่ของนางอายุมากแล้ว เรื่องงานทั้งในและนอกบ้านนางก็เป็นคนจัดการหมด

ตอนนี้พวกผนังกำแพงที่ผุพังของห้องอื่นๆ เอาไว้ก่อน ตอนนี้ต้องทำหญ้าสำหรับมุงหลังคาสองห้องนี้ให้เรียบร้อยก่อน

ที่เชิงเขาใกล้ๆ มีหญ้าคาอยู่ นางมองไปรอบๆ แต่ก็ไม่พบมีดใหญ่ๆ เลยสักด้ามเดียว

ตระกูลหลัวตระหนี่ถี่เหนียวเสียจริงๆ แม้แต่มีดใหญ่ๆ สักเล่มยังไม่ยอมให้พวกเขาติดตัวมาเลย

มันก็จริง ในยุคสมัยนี้มีดเล่มใหญ่คงไม่ใช่ราคาถูกๆ อะไรประหยัดได้ ตระกูลหลัวก็คงไม่มีทางให้มาแน่นอน

วัชพืชภายในลานบ้านถูกนางถอนกำจัดแล้วย้ายออกไปไว้ข้างๆ อย่างรวดเร็ว หลังจากตากแดดให้แห้งสักสองสามวัน ต่อไปก็สามารถนำมาทำฟืนไว้จุดตอนกลางคืนได้

เมื่อเห็นหลัวต้าหย่งปรนนิบัติหลัวชิงอวี่เสร็จแล้วเดินออกมา นางก็ยืดตัวขึ้นแล้วพูดขึ้นว่า "ขอยืมมีดเล่มใหญ่ของเจ้ามาใช้เดี๋ยวสิ"

หลัวต้าหย่งมองนางอย่างระแวดระวังอยู่ครู่หนึ่ง “จะยืมมีดไปทำไม?”

มู่จิ่วเยว่โมโหจนแทบจะหลุดขำออกมา คนพวกนี้คิดอะไรอยู่? กลัวนางเอามีดมาฆ่าหลัวชิงอวี่แล้วหนีงั้นหรือ?

“เรือนนี้ทรุดโทรมเช่นนี้ ข้าจะยืมมีดไปตัดหญ้าคามาไว้มุงซ่อมหลังคาแค่นี้ผิดด้วยหรือ?”

สื่อสารกับคนโบราณพวกนี้มันเหนื่อยจริงๆ!

หลัวต้าหย่งมองนางขึ้นลงอย่างพิจารณา แล้วพูดอย่างดูถูกว่า “อย่างเจ้าเนี่ยนะ ทำได้เหรอ”

มู่จิ่วเยว่พูดอย่างโมโห “เจ้าพูดมาคำเดียว ให้ยืมหรือไม่ให้ยืม?”

แม่เจ้าโว้ย เงินหนึ่งอัฐสร้างความลำบากให้วีรบุรุษ? แค่มีดเล่มเดียวดันมาสร้างความยุ่งยากให้คนอย่างมู่จิ่วเยว่ได้

หลัวต้าหย่งมองดูวัชพืชในบริเวณลานบ้านที่เพิ่งถูกกำจัดออกไปหมาดๆ ในแววตาเขาดูประหลาดใจมากไม่น้อย

เขาพูดด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียวว่า "รอเดี๋ยว"

ไม่นานหลัวต้าหย่งก็เดินมาพร้อมกับมีดสองเล่ม หลังจากมอบให้มู่จิ่วเยว่ไปหนึ่งเล่ม ตัวเขาก็เดินนำไปทางไหล่เขา

ความคิดของมู่จิ่วเยว่ที่มีต่อเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างผู้ชายคนนี้กับหลัวชิงอวี่น่าจะไม่เลว

หลัวต้าหย่งตัดหญ้าคา พลางแอบสังเกตการเคลื่อนไหวของมู่จิ่วเยว่

มู่จิ่วเยว่ทำงานขยันขันแข็ง ความรวดเร็วก็ไม่น้อยหน้าไปกว่าเขา

วินาทีที่ดวงอาทิตย์ขึ้น ทั้งสองคนก็ตัดหญ้าสำหรับมุงหลังคาได้กองโตแล้ว

หลังจากขนหญ้าคากลับมาที่ลานบ้าน มู่จิ่วเยว่ก็ไปต้มโจ๊กก่อน

ตอนนี้เจ้าหมาบ้านั่นสุขภาพไม่ดี จะปล่อยให้หิวไม่ได้ ตอนนี้ตัวนางเองยิ่งปล่อยให้หิวไม่ได้ ต้องกินให้อิ่มท้อง

มู่จิ่วเยว่ไม่สนใจว่าหลัวต้าหย่งจะอยู่หรือจะกลับไป นางต้มโจ๊กพลางทำความสะอาดผักป่าที่เพิ่งเก็บมาตอนออกไปตัดหญ้า

“โอ๊ะ? นังตัวซวย เมื่อคืนไม่ได้ฉวยโอกาสหนีเอาตัวรอดเหรอ?” น้ำเสียงคลุมเครือของเฉินซื่อดังมาจากประตูเรือนครัว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel