บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 ดูแลคนป่วย

หลัวต้าหย่งเดินออกมาข้างนอกเห็นมู่จิ่วเยว่กำลังนั่งกินโจ๊กอยู่หน้าเรือนครัว เขาจึงเดินเข้าไปหา

“เจ้ากินเสร็จแล้วก็รีบต้มยาให้ชิงอวี่ซะ ต้องเฝ้าดูจนกว่าเขาจะดื่มมันจนหมด”

มู่จิ่วเยว่ไม่พูดอะไร เอาแต่ก้มหน้าก้มตากินโจ๊ก

“เอ๊ะ นางผู้นี้ เจ้าได้ยินที่ข้าพูดหรือไม่”

“หรือว่าเจ้าอยู่ดูแลเขาที่นี่ดีหรือไม่” มู่จิ่วเยว่พูดด้วยน้ำเสียงเคืองๆ

แม้ว่านางจะไม่ใช่คนดีอะไร แต่ตอนนี้นางผูกตัวติดกับหลัวชิงอวี่แล้ว หากเขาตายคงไม่เป็นผลดีกับนางแน่

ไม่ว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร อย่างน้อย ในวันที่นางไม่ได้จากไปไหน หลัวชิงอวี่จะตายไม่ได้

ในภพชาติเดิมนางไม่ใช่หมอ แต่นางตามปู่เก็บยาสมุนไพรตั้งแต่เล็กจนโต ทั้งยั้งท่องจำตำราการแพทย์ที่บรรพบุรุษสืบทอดมารุ่นต่อรุ่นได้ขึ้นใจ หากนางบอกว่าหลัวชิงอวี่ตายไม่ได้ เขาก็จะไม่ตาย

“เจ้า...” หลัวต้าหย่งถูกนางสวนกลับจนพูดไม่ออก สุดท้ายก็ได้แต่ทิ้งคำเตือนด้วยน้ำเสียงดุดันแล้วเดินจากไป

เขาเกรงว่าหากอยู่ต่อไป ก่อนที่หลัวชิงอวี่จะตายเพราะดวงกินผัว เขาคงได้โมโหตายไปเสียก่อน

หลังจากมู่จิ่วเยว่กินโจ๊กหมดไปสองชาม นางก็รู้สึกมีแรงขึ้น

นางลุกขึ้นแล้วเดินไปที่ห้องพัก ชามโจ๊กยังวางอยู่บนโต๊ะเช่นเดิม ชายหนุ่มนอนหลับตาอยู่บนเตียงโดยไม่มีท่าทีที่จะกินโจ๊กชามนั้นเลย

“เจ้าอยากจะตายให้สมความปรารถนาพ่อแม่และพี่ชายเจ้าขนาดนั้นเชียวหรือ?” มู่จิ่วเยว่ยืนอยู่ที่ประตู หันหลังให้แสงสว่างมองชายหนุ่มที่นอนอยู่บนเตียง แล้วพูดใส่ด้วยน้ำเสียงเสียดสีเหน็บแนม

ร่างกายของชายหนุ่มกระตุกสั่นอย่างรุนแรงขึ้นสองครั้ง เขาลืมตาขึ้นกะทันหัน แววตาเต็มไปด้วยแสงแห่งความมืดมน

“ไสหัวไป! เจ้าออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้! ข้าไม่ต้องการให้เจ้าดูแล!”

“ยังอารมณ์เสียได้อยู่ แสดงว่ายังไม่ถึงขั้นเก็บตัวเงียบสินะ”

มู่จิ่วเยว่พยักหน้าพลางเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะกัดฟันพูดขึ้นว่า “สามี เจ้าพูดอะไรเช่นนั้น ข้าเป็นภรรยาของเจ้า เจ้าอยู่ที่ใดข้าก็ต้องอยู่ที่นั่น จะให้ไปที่ใดเล่า”

“เจ้าไม่ต้องห่วง ในฐานะภรรยาจากนี้ไปข้าจะดูแลเจ้าอย่างดีแน่นอน ตอนนี้ข้าปรนนิบัติเจ้ากินโจ๊กก่อนดีกว่า”

นางกล่าวพลางเดินเข้าไปชิดขอบเตียง แล้วหยิบชามโจ๊กบนโต๊ะขึ้น

หลัวชิงอวี่เบิกตากว้างและมองนางอย่างระแวดระวัง "ออกไป! อย่าเข้ามาใกล้ข้า!"

“ไม่ต้องห่วง ไม่ช้าก็เร็วเดี๋ยวข้าก็ไป แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”

มู่จิ่วเยว่ไม่สนใจใบหน้าบูดบึ้งของเขา พลางบ่นพึมพำเบาๆ

จากนั้นนางก็นั่งลงข้างเตียง พยุงร่างส่วนบนของเขาขึ้นอย่างหยาบคาย ใช้แขนทั้งสองข้างหนีบไว้แน่น แล้วนำชามโจ๊กมาจ่อไว้ตรงหน้าเขา

“สามี เจ้าอยากให้ข้าป้อน หรือเจ้าจะกินเอง?”

หลัวชิงอวี่หันกลับมาหวังจะถลึงตาใส่นาง แต่กลับลืมไปว่าตอนนี้ตนถูกหญิงสาวคอยพยุงอยู่ ทันทีที่หันกลับมาก็ปะเข้ากับซาลาเปาคู่ของนางที่อยู่ตรงหน้าทันที

เขารีบเบือนหน้ามองไปทางอื่น และพูดด้วยความรังเกียจ "นี่เจ้ายังเป็นผู้หญิงอยู่หรือไม่?"

“ข้าเป็นผู้หญิงหรือเปล่าไม่เกี่ยวอะไรกับเจ้า แต่ข้าสามารถเปลี่ยนเจ้าให้เป็นผู้หญิงได้ สามีอยากจะลองดูหรือไม่” นางเน้นคำว่าสามีมากเป็นพิเศษ

“เจ้า...” หลัวชิงอวี่ถูกคำพูดไร้ยางอายของนางทำเอาโมโหหนักกว่าเดิม พยายามออกแรงหวังจะผลักนางออก

มู่จิ่วเยว่ออกแรงกดแขนทั้งสองข้างของเขาไว้แน่น มือที่จับชามหลบเป็นมุมโค้งแล้วส่งมาใกล้ปากของเขาอีกครั้ง

นึกย้อนไปถึงสมัยตอนที่นางอยู่ในหมู่บ้าน หัวโจกของหมู่บ้านที่ปีนเขาปีนต้นไม้ ลงน้ำจับปลา และสามารถขว้างก้อนหินด้วยมือเดียวใส่นกที่กำลังบินอยู่บนฟ้าตกลงมา ชายหนุ่มที่ขาหักสองข้างได้แต่นอนติดเตียงอย่างเขามีเหรอจะเป็นคู่ต่อสู้ของนางได้?

“ทางที่ดีอย่าทำให้มันน่าเกลียดเกินไปจะดีกว่า มิเช่นนั้นคนที่เสียเปรียบก็คือเจ้า” นางกัดฟันข่มขู่เขาอย่างดุดัน

เจ้าหมาบ้า กระทบกระเทือนจิตใจเกินไป อยากจะตายงั้นหรือ?

แม้ว่านางไม่กล้าอ้างตัวว่าเป็นหมอเทวดา แต่หากนางสามารถรักษาชีวิตเขาเอาไว้ได้ถึงยามห้า แม้แต่ยมบาลก็ยังต้องหลีกทางให้

ร่างสูงใหญ่ของหลัวชิงอวี่กระตุกสั่นอย่างรุนแรง สุดท้ายเขาก็เหมือนจะสู้เองยอมแพ้เอง ยอมอ้าปากไปทางชามข้าวที่นางยื่นเข้ามาใกล้ปาก แล้วกินโจ๊กหมดภายในสามคำโดยไม่สนว่ามันยังร้อนอยู่

จากนั้นเขาก็พูดด้วยสีหน้าเหมือนตายทั้งเป็นว่า “จะปล่อยข้าได้หรือยัง”

มู่จิ่วเยว่ไม่ได้พูดอะไร แต่นางก็ไม่ได้วางตัวเขานอนราบลงเช่นกัน แต่กลับจับใต้รักแร้ของเขาด้วยมือทั้งสองข้าง ลากตัวเขาขึ้นไปเล็กน้อย แล้วหยิบนวมสำลีเก่าๆ วางหนุนไว้ที่แผ่นหลังของเขา ให้เขานั่งพิงอยู่แบบนั้น

“นั่งรออยู่ตรงนี้ดีๆ ข้าจะไปต้มยามาให้เจ้า”

พูดจบนางก็ลงจากเตียง มองซ้ายมองขวาก็ไม่เห็นห่อยาของเขาเลย

“ยาของเจ้าล่ะ”

หลัวชิงอวี่หันหน้าไปทางด้านในพลางหลับตาแน่น และไม่สนใจนางอีก

มู่จิ่วเยว่ก็ไม่ได้คาดหวังอะไรจากเขาอีก จึงไปค้นหาในกองข้าวของที่วางอีเหละเขละขละอยู่แถวนั้น

โชคดีที่ข้างของของเขามีไม่มาก เพียงไม่นานนางก็หยิบห่อยาและขวดยาออกมา

กระทั่งนางจากไป หลัวชิงอวี่จึงหันกลับมาเหม่อมองไปทางประตู

ไม่มีใครเห็นว่าใบหน้าหล่อเหลาของเขามีสีแดงระเรื่อเปื้อนแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นซีดเซียว เขาหลับตาลงอีกครั้ง แล้วนั่งพิงอยู่ตรงนั้นอย่างน่าสงสาร

“มีแต่ยาสลายเลือดคลั่ง ลดบวมทั่วไป จะว่าไม่เข้ากับอาการก็ไม่ได้ แต่ก็ไม่อาจกล่าวได้ว่ามีประโยชน์ต่อเขามากนัก”

มู่จิ่วเยว่ค้นดูห่อยาสมุนไพรแล้วพึมพำกับตัวเอง แม้ว่านางจะไม่เห็นบาดแผลของเขา แต่ขาหักทั้งสองข้าง มีเพียงยาเหล่านี้ จึงไม่เป็นประโยชน์ต่อเขามากนัก

นางเงยหน้าขึ้นมองภูเขาที่อยู่ข้างๆ ดูเหมือนว่าคงต้องพึ่งทักษะเก่าของนางซะแล้ว

เพิ่งจะมาใหม่ แถมยังไม่คุ้นเคยหนทาง ร่างนี้ยังเป็นนังตัวซวยที่ชื่อเสียงเรียงนามไม่ดีใครเห็นใครก็รังเกียจอีก

หากนางยังอยากมีชีวิตรอดในต่างที่ต่างถิ่นแบบนี้ คงต้องพึ่งพาหลัวชิงอวี่ไปชั่วขณะ

หลัวชิงอวี่ยังตายไม่ได้!

สำหรับชื่อเสียงเรื่องดวงกินผัว? นางไม่เชื่อเรื่องพวกนั้นหรอก

ขณะต้มยา มู่จิ่วเยว่ก็ครุ่นคิดว่าจากนี้ไปนางจะใช้ชีวิตอย่างไร

นางไม่มีทักษะพิเศษอะไร แต่เติบโตมาบนภูเขา สถานที่แห่งนี้จึงเป็นเหมือนโลกของนางอย่างไม่ต้องสงสัย

เมื่อคิดเช่นนั้นนางก็เริ่มจะคันไม้คันมือ อยากจะขึ้นไปบนเขาแล้ว

เงินหกตำลึงที่ได้มามันไม่เพียงพอสำหรับค่ายาของหลัวชิงอวี่ด้วยซ้ำ นางต้องขึ้นเขาไปหายา

น่าเสียดายที่เตายาที่เป็นมรดกสืบทอดของนางไม่ได้ติดตามนางมาด้วย ไม่เช่นนั้นยาที่ต้มออกมาจากเตายานั้นจะต้องรักษาหายจากอาการเจ็บไข้ได้แน่นอน

เมื่อเหลือบมองขวดยาสีดำคลับ มู่จิ่วเยว่ก็เริ่มคิดถึงเตายาประจำตระกูลของนางเมื่อภพชาติที่แล้ว

ขณะที่นางกำลังครุ่นคิด จู่ๆ นางก็รู้สึกร้อนวูบวาบบริเวณหน้าท้องราวกับมีบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว

นางสะดุ้งแล้วรีบถลกเสื้อของตัวเองขึ้น และแล้วตรงหน้าท้องของนางกำลังเปล่งแสงประกาย

“อะไรวะเนี่ย” นางพึมพำเบาๆ ก่อนจะเห็นเตายาเล็กๆ โผล่ออกมาจากท้องของนาง และหล่นลงบนพื้นตรงหน้านาง

“นี่มัน... เตายา? แกมาอยู่ในท้องฉันตั้งแต่เมื่อไหร่? ไม่สิ แกข้ามภพมากับฉันด้วยเหรอเนี่ย?”

มู่จิ่วเยว่หยิบเตายาบนพื้นขึ้นมาแล้วมองซ้ายแลขวาเพื่อยืนยันว่าเป็นเตายาประจำตระกูลที่นางมักจะพกติดตัวตลอดเวลาในภพชาติก่อนจริงๆ

เตายาแผ่ความร้อนออกมาจางๆ มู่จิ่วเยว่ประหลาดใจไม่น้อย เมื่อยี่สิบปีก่อนนางไม่เคยรู้เลยว่าเตายานี่จะสามารถแผ่ความร้อนได้ด้วย

“อะไรกัน? แกได้ยินที่ฉันพูดด้วยเหรอ?” มู่จิ่วเยว่พูดอย่างประหลาดใจ นางมีความรู้สึกบางอย่างแปลกๆ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel