บทที่ 8 ได้เวลาเอาคืน
คณะกรรมการผู้บริหารหลายคนที่เริ่มลนลาน หลังจากจบการประชุม เขามุ่งหน้าไปที่ห้องทำงาน ไป๋ลู่ชิงเดินกับอันอันเดินตามไม่ห่าง
“อันอัน คุณช่วยส่งข้อมูลเหล่านี้ไปให้นักข่าวที”
“คะ” เธอรับเอกสารมา พร้อมกับทำหน้างง ไม่เข้าใจความคิดของเจ้านายคนนี้เลย “ทำไมคะ” เธอถามออกไป
“เรื่องนี้ต้องเผยแพร่” เขาบอก
ลู่ชิงนั่งลงที่โซฟามองเขาอย่างไม่เข้าใจ การกระทำทุกอย่างของเขาในวันนี้ เธอไม่เคยเห็น เขาดูจริงจังและทำทุกอย่างอย่างเด็ดขาด
“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายใน”เธอพูด
“ผมรู้”เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ “แต่เรื่องนี้เราต้องทำ ธุรกิจของเราเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ มีชื่อเสียงระดับประเทศ หากคุณแก้ไขไม่ได้ คุณจะถูกประณามและเผยแพร่ออกไปเช่นกัน หากเราต้องการจับตัวกลาง เราต้องทำวิธีนี้เท่านั้น” เขาอธิบาย
“ยังไง?” เธอยังไม่เข้าใจ
“เผยแพร่ข่าวออกไป ให้สื่อและสังคมช่วยกดดันคนทำผิด และผมเชื่อว่าหัวหน้าฝ่ายบัญชีที่หนีไป จะเดินเข้ามาติดกับดักเราเอง ชื่อเสียงของเขาจะถูกเผยแพร่ออกไป จะไม่มีบริษัทไหนกล้ารับคนที่โกงบริษัทเข้าทำงาน เขาจะถูกตามล่าจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และถือว่าเป็นนักโทษหรือผู้ต้องสงสัยคนหนึ่ง”
ลู่ชิงมองเขาอย่างเหลือเชื่อ ความคิดของเขาลึกล้ำจริง ๆ นี่เหรอสามีที่เธอปฏิเสธมาตลอด? เขาทั้งเก่งและดูดีมาก เธออมยิ้ม และคิดในใจ “ฉันเข้าใจแล้ว” เธอรู้สึกตกหลุมรักกับลุคแบบนี้ของเขา
ผ่านไปแค่หนึ่งชั่วโมง ข่าวของตานผิง หัวหน้าฝ่ายบัญชีของบริษัทไป๋อ้ายซือกรุปก็แพร่สะพัด หัวข้อข่าวก็คือ ตอนนี้ทางบริษัทไป๋อ้ายซือกำลังจัดระเบียบคณะผู้บริหารใหม่ เนื่องจากมีพนักงานหัวหน้าฝ่ายบัญชีชื่อตานผิง เธอได้ร่วมมือกับผู้บริหารบริษัทในบริษัทหลายคนเพื่อทำการยักยอกเงินของบริษัทไปหลายสิบล้าน แต่ตอนนี้กำลังหลบหนี ทางบริษัทกำลังดำเนินการตามกฎหมายเพื่อให้คนพวกนี้ได้รับบทลงโทษ
ข่าวนี้ไปถึงหูของเฟยเถาและเฟยหลินอย่างรวดเร็ว ตานผิงก็ติดต่อมาหาพวกเขาสองแม่ลูก ตอนนี้ทุกคนที่ร่วมมือกันกำจัดไป๋ลู่ชิงให้ถูกปลดออกจากตำแหน่ง ต่างก็กังวลกันทุกคน กลัวว่าจะติดร่างแหและถูกดำเนินคดีไปด้วย
อันอันเปิดประตูเข้าไปในห้องทำงานของเฉิงเยว่อีกครั้ง เมื่อเวลาพึ่งผ่านไปได้ไม่นาน ตอนนี้มีคนมาขอเข้าพบเขาแล้ว
"ประธานหยางคะ มีคนมาขอพบค่ะ" อันอันบอก
เขาคาดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนั้น "ให้เข้ามา" เขาบอก แต่มือยังถือปากกากับเอกสาร
มีกรรมการผู้บริหารเข้ามาด้วยกัน 8 คน ในแปดคนนี้บอกว่า แค่รับเงินค่าจ้างคนละหนึ่งแสนเพื่อช่วยโหวตเสนอปลดตำแหน่งของลู่ชิงเท่านั้น ส่วนเรื่องการยักยอกเงิน พวกเขาไม่มีส่วนรู้เห็น
เฉิงอี้คิดว่าการกระทำแบบนี้ถือว่าผิด แต่เขาอยากให้โอกาสคนพวกนี้สักครั้ง เพียงเท่านี้เขาก็รู้แล้ว ว่าคนพวกนี้รู้สึกผิดและกล้ายอมรับความจริงได้ เขาเลยปล่อยไป ส่วนคนอื่นที่รู้เห็นเรื่องนี้ แต่ไม่กล้ามาสารภาพความจริงกับเขา เขาจะจัดการให้ถึงที่สุด
"ผมรู้แล้ว ออกไปได้" เขาบอก ก่อนที่จะก้มหน้าทำงานต่อ
บริษัทนี้ ปู่ทวดของเขาไม่ได้เป็นคนก่อตั้ง แต่สุดท้ายก็ต้องตกเป็นของตระกูลหยางอยู่ดี เพราะปัจจุบันที่เขาอยู่นั้น บริษัทนี้ได้เปลี่ยนเป็นชื่อปู่ทวดของเขาแล้ว เพียงแต่ในยุคนี้ยังต้องจัดการอะไรอีกหลายอย่าง เขาก็ไม่รู้รายละเอียดอะไรมากเหมือนกัน
จากที่เคยอ่านประวัติของบริษัทและประวัติปู่ทวดของเขา เขาก็รู้แค่บางส่วนเท่านั้น แต่ขั้นตอนทุกอย่างไม่ได้ระบุไว้ในนั้น เขาต้องแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง
ผ่านไปสองสัปดาห์ ตานผิงหัวหน้าฝ่ายบัญชีก็ถูกกดดันทางสังคมมากขึ้น เธอไม่สามารถอยู่ที่บ้านของตัวเองได้ เนื่องจากคนแถวนั้นรู้ข่าวกันไปทั่ว เธอต้องหนีไปอยู่ที่อื่น ไปในที่ที่ไม่มีคนรู้จักเธอ แต่เธอก็ต้องหางานใหม่ทำด้วย
แต่เนื่องจากข่าวที่แพร่สะพัดนั้น ไม่มีบริษัทไหนรับเธอเข้าทำงาน ความเครียดและความกดดันทุกอย่างจึงตกมาที่เธอ เธอติดต่อไปหาเฟยเถา แต่เฟยเถาก็ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือ
หากเธอยังอยู่แบบนี้ คงไม่พ้นถูกหมายจับ และถูกส่งเข้าคุกเป็นแน่ ทางเดียวที่ทำได้ก็คือ การไปยอมรับสารภาพ
อันอันต่อสายโทรศัพท์เข้าไปในห้องทำงานของเฉิงเยว่
"ท่านประธานคะ ตานผิงติดต่อมาค่ะ"
"โอนสายเข้ามา" เข้าบอก นี่แหละที่เขากำลังรอ
ตานผิงรีบกล่าวทักทาย "สวัสดีค่ะท่านประธานหยาง ฉันตานผิงนะคะ"
"คุณมีเรื่องอะไรก็พูดมา"
"ค่ะ วันนี้ฉันจะเล่าความจริงทุกอย่าง"
ตานผิงอธิบายว่า เธอถูกเฟยเถาหลอกมาตั้งแต่ต้น เฟยเถาเอาเอกสารบิลชำระเงินมาเบิกที่เธอ โดยเอกสารนั้นมีลายเซ็นของลู่ชิงอย่างชัดเจน เธอไม่ได้เอะใจ เพราะคิดว่าในบิลนั้นระบุว่าเป็นค่าใช้จ่ายที่ตระกูลไป๋ต่องใช้ เฟยเถาบอกว่าลู่ชิงไม่สะดวกมาเอง เฟยเถาจึงบอกให้เธอออกเช็คเงินสดให้
ตานผิงพึ่งมารู้ตัวอีกทีว่าถูกหรอกก็ตอนที่คณะกรรมการรวมตัวกันเข้าประชุมเพื่อปรึกษากันเรื่องปลดลู่ชิง เธอเลยโทรไปหาเฟยเถาว่าเรื่องมันเป็นยังไง เพราะไม่งั้นเธอต้องมีความผิดด้วย เฟยเถาจึงจ่ายค่าปิดปากให้เธอ และบอกให้เธอลาออกไป เธอทำอะไรไม่ได้ แล้วก็กลัวความผิดด้วย จึงตัดสินใจลาออกกะทันหัน
"เรื่องที่คุณพูดมาทั้งหมด เป็นความจริงใช่ไหม" เฉิงอี้ถาม หลังจากฟังจบ
"ค่ะ ฉันไม่กล้าโกหกท่านประธานหรอกค่ะ"
"งั้นคุณต้องไปสารภาพเรื่องนี้ที่สถานีตำรวจอีกครั้ง แล้วผมจะไม่เอาเรื่องคุณ" เขาบอก เพราะเขาต้องการตัวการที่ก่อเรื่องนี้เท่านั้น
"ค่ะ ฉันจะไปสารภาพกับตำรวจอีกครั้ง"
เฉิงอี้รู้สึกสบายใจขึ้น เขารอวันนี้เท่านั้น หลังจากนี้เขาจะไปทวงคฤหาสน์ตระกูลไป๋มาคืนลู่ชิงต่อได้ ที่เขาต้องรอเวลานี้ ก็เพื่อทำให้เฟยเถาพูดอะไรไม่ได้อีก และต้องไปชดใช้ความผิดในคุก เขาปล่อยให้ลู่ชิงอยู่อย่างลำบากในบ้านหลังเล็กมานานพอแล้ว
ถึงเวลาแล้วที่เขาจะทวงคืนทุกอย่างให้กลับมาเป็นของเธออีกครั้ง
เขาส่งข้อความไปหาลู่ชิง เมื่อทุกอย่างจัดการเรียบร้อยแล้ว เธอจึงมาหาเขาที่ห้องทำงาน
ลู่ชิงเปิดประตูเข้าไป และถามอีกครั้งทันที"ทุกอย่างเรียบร้อยดีใช่ไหม" เธอเดินเข้าไปหาเขาด้วยรอยยิ้ม
เขาเงยหน้าขึ้นมองเธอ "ใช่ ทุกอย่างเรียบร้อยดี เย็นนี้เราจะกลับไปที่ตระกูลไป๋กัน"
เธอพยักหน้า "ได้" เธอตอบอย่างมีความสุข
สองแม่ลูกนั้นจะไม่ได้อยู่ในตระกูลไป๋อีก เธอจะไม่ยอมให้สองคนนั้นได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายในคฤหาสน์ที่พ่อและแม่ของเธอเป็นคนสร้าง แม้ว่าเฟยหลินจะเป็นน้องสาวของเธอก็ตาม