บท
ตั้งค่า

บทที่ 4 การกลับมาของฮุ่ยเจียง 1.4

รถม้าประทับตราสกุลฮุ่ยของราชครูเข้ามาจอดอยู่ที่เชิงเขาทางขึ้นอารามเสวียนคง อารามที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเขาดูเป็นสถานที่ที่เงียบสงบ หลังจากลงรถม้าฮุ่ยเจียงกับสาวใช้ก็เดินขึ้นบันไดที่มีซุ้มต้นไผ่ ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เรียงรายขนาบสองข้างทาง มันสูงจนปลายต้นโน้มเอียงเข้าหากันจนกลายเป็นอุโมงค์ต้นไผ่สร้างความร่มรื่นสวยงาม

ฮุ่ยเจียงสัมผัสบรรยากาศธรรมชาติ สูดหายใจเข้าเต็มปอด ดวงหน้างดงามเผยรอยยิ้มสดใส ยามที่สายลมอ่อน ๆ โชยพัดมาปะทะร่างของนาง ช่างสดชื่นนัก! ความรู้สึกสดชื่นที่แทรกซึมเข้ามาในจิตใจทำให้นางมีความสุขอย่างแท้จริง ท้องฟ้าสีฟ้าใสและต้นไม้ที่พลิ้วไหวไปตามลม ความสงบเงียบของธรรมชาติช่วยปลอบประโลมจิตใจนางจากความทุกข์ทรมานจากชาติที่แล้ว สาวใช้ที่ติดตามมาก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มตาม เจียอีมองคุณหนูที่เปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา

ฮุ่ยเจียงยิ้มอย่างสดใส ขณะสายลมพัดโชยพาให้ผมยาวสลวยของนางพลิ้วไหว ดวงตาของนางเป็นประกายสดใส ท่ามกลางแสงอาทิตย์ที่ส่องผ่านแมกไม้ลงมาราวกับเทพธิดาจากสรวงสวรรค์ เจียอีอดไม่ได้ที่จะชื่นชมจากใจจริง

“คุณหนู ท่านช่างงดงามเหลือเกินเจ้าค่ะ” ฮุ่ยเจียงหันมายิ้มให้สาวใช้ “เจียอี เจ้าไม่รู้หรอกว่าตอนนี้ข้ามีความสุขเพียงใด” ที่ได้โอกาสกลับมาอีกครั้ง ประโยคหลังนางพูดกับตัวเอง ฮุ่ยเจียงค่อยๆ ก้าวขึ้นบันไดหินที่ปูทางอย่างระมัดระวังแสดงถึงความสง่างามและอ่อนช้อย นางก้าวขึ้นบันไดพลางมองสองข้างทางอย่างไม่เร่งรีบ ต่างจากสาวใช้ที่แสดงความเป็นห่วง น้ำเสียงติดกังวล

"คุณหนูเจ้าคะรีบเดินเถอะเจ้าค่ะ ลมแรงนักเดี๋ยวจะไม่สบายนะเจ้าคะ" ขณะพูดเจียอีก็นำเสื้อคลุมมาคลุมร่างของนางเอาไว้ สองมือจัดการผูกเชือกอย่างขะมักเขม้นจนแน่นราวกับกลัวว่าลมเพียงน้อยนิดที่พัดพาจะทำให้ร่างกายนางเป็นไข้หนัก แต่ถึงอย่างนั้นนางก็ไม่อยากขัดใจสาวใช้เพราะเห็นว่าเจ้าตัวนั้นเป็นห่วงเพียงใด

“ขอบใจเจ้ามาก” ฮุ่ยเจียงใช้สองมือกระชับผ้าคลุมแน่นก่อนจะก้าวขึ้นบันไดชันโดยมีสาวใช้ก้าวตามไม่ห่าง

เมื่อเดินขึ้นถึงยอดบันได ก็เดินก้าวผ่านสระน้ำที่ประดับด้วยดอกไม้และพืชพรรณต่าง ๆ ช่วยสร้างบรรยากาศสงบและร่มรื่นเหมาะสำหรับการทำสมาธิและปฏิบัติธรรม เมื่อเดินเข้ามาถึงด้านในฮุ่ยเจียงได้พบกับพระพุทธรูปที่ตั้งอยู่ในอารามอันสงบเงียบนางค่อยๆ ยกมือขึ้นไหว้และคำนับเบา ๆ ดวงตาคู่สวยจับจ้องยังพระพักตร์ของพระพุทธรูป นางขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทำให้นางได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง และขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ลูกที่ไม่มีโอกาสได้ลืมตาดูโลกในชาติที่แล้วกลับมาเกิดในท้องนางอีกครั้ง แต่หาใช่มาจากบิดาคนเดิม นางขอพรอย่างตั้งใจจากนั้นนางก็ก้าวเท้าเบา ๆ หาที่ที่เหมาะสม เพื่อสวดมนต์ภาวนา เมื่อถึงจุดที่ต้องการนางหยุดนิ่ง แล้วย่อตัวลงนั่ง สองมือพนมขึ้นอีกครั้งและปิดตาอย่างสงบ ฮุ่ยเจียงภาวนาเงียบ ๆ ในใจ ท่ามกลางความสงบเงียบของอาราม มีเพียงเสียงสายลมที่พัดผ่านและเสียงของธรรมชาติที่ทำให้นางรู้สึกถึงความสงบสุขอย่างแท้จริง

เจียอีที่ยืนอยู่ข้างหลังมองดูคุณหนูของนางด้วยความสงบ นางสัมผัสได้ถึงความบริสุทธิ์และความงดงามที่แผ่ออกมาจากคุณหนู ยามที่คุณหนูนั่งอยู่ตรงหน้านั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะหยุดนิ่ง และเวลาที่ผ่านไปเหมือนจะช้าลง เพื่อให้คุณหนูได้สัมผัสถึงความสงบสุขและศรัทธาอย่างแท้จริง

เวลาผ่านมาราวครึ่งก้านธูป

ฮุ่ยเจียงที่นั่งสมาธิอยู่นานรู้สึกหัวสมองปลอดโปร่ง หัวใจหนักอึ้งพลันสลายเหมือนกับว่านางได้สัมผัสกับชีวิตที่แท้จริงอีกครั้ง นางลุกขึ้นแล้วก้าวเท้าออกมาเดินเล่นซึมซับธรรมชาติอันเงียบสงบ นางเดินเรื่อยเปื่อยมาตามทางจนมาถึงทางเล็ก ๆ เส้นหนึ่ง ก่อนจะได้ยินเสียงสาวใช้ที่เดินตามหลังเอ่ยขึ้นเบา ๆ

"คุณหนู จะที่แห่งใดหรือเจ้าคะ" เจียอีถามด้วยความสงสัยเพราะคุณหนูเดินออกห่างทางเข้ามาไกล

"ข้าจะออกไปเดินเล่นถ้าข้าจำไม่ผิดเดินไปอีกนิดจะมีลำธารข้าอยากเดินแช่น้ำสักหน่อย" พูดจบก็เดินนำหน้าสาวใช้ไปทันทีไม่รอให้สาวใช้ได้โต้แย้งเจียอีที่เห็นว่าคุณหนูเร่งเดินไปก็รีบตามไปติด ๆ

"คุณหนูเจ้าคะเหตุใดจึงรีบเดินนักเจ้าคะลืมที่ฮูหยินใหญ่สอนแล้วหรือเจ้าคะท่านต้องเดินช้าลงอีกนิดนะเจ้าคะ ช้า ๆ เจ้าค่ะ" เจียอีที่ตามติดก็พูดตามที่ฮูหยินใหญ่เคยพูดสอนเพราะเกรงว่าคุณหนูออกไปเดินในที่สาธารณะแล้วจะลืมตัวเอาได้ เร่งเดินไม่ไว้ท่าทีแบบนี้มีหวังบุรุษได้หนีห่างแน่และเจียอีย่อมยอมไม่ได้ และตอนนี้ก็ใกล้ถึงวัยปักปิ่นแล้วด้วยเจียอีเลยต้องเป็นหูเป็นตาแทนฮูหยินใหญ่

"ช้าอย่างนี้หรือ" ฮุ่ยเจียงที่ได้ยินสาวใช้พูดบ่นงึมงำแต่ก็นางก็เดินช้าลง ช้าแบบมาก ๆ เป็นการกลั่นแกล้งสาวใช้ไปในตัวส่วนเจียอีที่เห็นคุณหนูทำท่าประชดก้าวเท้าช้าลงกว่าเดิมหลายเท่าแต่ดวงตาที่มองมาที่นางนั้นกลับเต็มไปด้วยความขบขัน มีหรือที่เจียอีจะไม่รู้ว่าตอนนี้โดนคุณหนูแกล้งกันเข้าให้แล้ว

"คุณหนู.." เจียอีได้แต่เรียกคุณหนูด้วยน้ำเสียงโอดครวญก่อนจะเดินมาถึงลำธารใสสะอาดที่ไหลผ่านกลางป่าแสงแดดอ่อน ๆ ส่องลงมาผ่านใบไม้ทำให้ผืนน้ำเป็นประกายแวววาวเสียงน้ำไหลเบา ๆ สร้างบรรยากาศที่สงบและสดชื่นดอกไม้ป่าหลากสีและพืชพันธุ์ต่าง ๆ เติบโตอยู่ริมลำธารทำให้พื้นที่รอบ ๆ เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวาและสวยงาม ตากลมโตของฮุ่ยเจียงโตมากขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าเมื่อมองเห็นฝูงปลาขนาดใหญ่แหวกว่ายไปมาอยู่ตรงหน้า

"เจียอีน้ำใสมาก เจ้าดูนั่นสิเห็นปลาด้วย" มือบางชี้ไปยังธารน้ำใสที่เห็นตัวปลาแหวกว่ายไปมาด้วยท่าทางตื่นเต้น

"ใสมากจริงด้วยเจ้าค่ะ" เจียอีที่เห็นก็พลันตื่นเต้นตามไปด้วย

ฮุ่ยเจียงตื่นเต้นและไม่อยากพลาดโอกาส นางรีบถอดรองเท้าออกจนเห็นข้อเท้าขาวผ่อง แล้วเดินย่ำเท้าน้ำตื้นในลำธารที่ไหลลงมาจากน้ำตกด้วยท่าทางตื่นเต้นดวงตาของนางเป็นประกายราวกับเจอเรื่องถูกใจก่อนจะหันไปหาสาวใช้แล้วยื่นมือไปที่นาง

"เจียอีเจ้าผูกแขนเสื้อให้ข้าหน่อยข้าจะจับปลา!"

เจียอีทำท่าละล้าละลัง หันไปมองรอบ ๆ ด้วยสายตาที่แฝงไปด้วยความกังวล "จะดีหรือเจ้าคะคุณหนูถ้าเกิดผู้ใดมาพบมันจะไม่งามนะเจ้าคะ" ฮุ่ยเจียงเห็นสาวใช้ดูกังวลเกินไปก็ส่ายหัวแล้วยิ้มออกมา "เราเดินมาลึกขนาดนี้จะมีใครมาพบกันเล่า เจ้ารีบผูกแขนเสื้อให้ข้าเถอะ ประเดี๋ยวปลาจะหายหมด" เสียงพูดที่เร่งเร้าทำให้เจียอีไม่กล้าโต้แย้ง นางผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ แต่สองมือก็ทำหน้าที่ของนางอย่างดี

"เจ้าค่ะคุณหนู"

พอเจียอีผูกเสร็จ ฮุ่ยเยียงก็จัดการผูกให้สาวใช้ของตัวเองด้วย โดยที่เจียอีได้แต่ยืนนิ่งยอมให้คุณหนูผู้แต่โดยดี หลังจากสองนายบ่าวผลัดกันผูกแขนเสื้อเสร็จ เจียอีจะช่วยผูกชายกระโปรงของคุณหนูเพื่อไม่ให้เปียกน้ำแล้วรวบผมยาวของคุณหนูเพื่อไม่ให้เกะกะ แล้วก็จัดการของตัวเองแล้วก็พากันเดินลงไปยังฝูงปลาที่กำลังแหวกว่ายไปมาด้วยความตื่นเต้น

ฮุ่ยเจียงมองฝูงปลาที่มีอยู่ทั่วผืนน้ำรู้ได้ทันทีว่าที่แห่งนี้เป็นที่อุดมสมบูรณ์มากจริง ๆ ไม่น่าเชื่อว่าไม่มีผู้ใดผ่านมาเห็นทั้งที่ไม่ได้ไกลจากวัดมากนักจะบอกว่าเป็นเขตอภัยทานก็ไม่น่าใช่เพราะถ้าจำไม่ผิดเหมือนกับว่าพวกนางเดินข้ามกำแพงวัดมาทั้งฮุ่ยเจียงและเจียอีลงไปในลำธารขณะที่น้ำเย็นไหลผ่านขาทั้งคู่เริ่มมองหาปลาที่ว่ายไปมาใต้ผืนน้ำ

ดวงตาสุกสกาวมองเจ้าปลาตัวโตที่กำลังว่ายเข้ามาด้วยความหมายมั่นสองมือตั้งท่าจับปลาอยู่ในน้ำดวงตาจ้องไปที่เจ้าปลาตัวนั้นอย่างไม่วางตาก่อนที่จะตวัดมือไปที่เจ้าปลาตัวนั้นแล้วจับได้อย่างง่ายดาย"นี่แหนะข้าจับได้แล้ว เจียอีข้าสามารถจับปลาด้วยมือเปล่าได้ด้วย เจ้าดูสิ! "

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel