บทที่ 4
“อย่านะ ไม่!”
ไรรีย์สะดุ้งตื่นขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวที่ติดตามมาจากความฝัน
ครั้งนี้ เธอฝันเป็นเรื่องเป็นราวชัดเจนขึ้น อาจเป็นเพราะเธอมาถึงสถานที่ที่เป็นต้นเหตุแห่งฝันร้ายอย่างนั้นเหรอ
“ใจเย็นค่ะ คุณปลอดภัยแล้วนะ” เสียงสดใสของหญิงสาวดังขึ้นด้านข้างของไรรีย์ สำเนียงภาษาอังกฤษของเธอไม่ชัดนัก แต่ไรรีย์ที่เพิ่งได้สติก็พอฟังออก
ไรรีย์หันมองอย่างหวาดระแวง...ไม่ว่าจะเป็นความฝันหรือความจริง เธอต้องทำใจกล้ายอมรับมัน
หญิงสาวด้านข้างของเธอมีเรียวหน้าสวย ดวงตาคมในแบบของสาวอาหรับและผิวขาวของชาวจีน ชุดที่เธอสวมใส่เป็นชุดกระโปรงทรงยาวสีดำตัดสีน้ำตาลอ่อน ลายปักจากด้ายหลากสี ลวดลายไม่มาก แต่ขับเน้นชุดทรงให้สวยอย่างน่าประหลาดใจ
ฝ่ายนั้นส่งยิ้มหวานมาให้ ไรรีย์ละสายตาออก ขยับตัวลุกขึ้นนั่ง
“ฉันอยู่ที่ไหน คุณ...ช่วยฉันไว้เหรอคะ”
“คุณอยู่ที่หมู่บ้านทากิซค่ะ ถ้าตามหลักแล้ว ใช่ ฉันช่วยคุณ” หญิงสาวข้างกายของเธอตอบ
“หมู่บ้านทากิซ? ไม่เคยได้ยินมาก่อน”
ไรรีย์นิ่วหน้า ในกลุ่มทัวร์ ไกด์ไม่ได้บอกกับเธอเรื่องหมู่บ้านทากิซอะไรนี่เลย...
เมื่อคิดถึงกลุ่มทัวร์ ไรรีย์ถามอีกครั้ง “กลุ่มทัวร์ของฉันล่ะคะ”
หญิงสาวด้านข้างมีสีหน้างุนงง “กลุ่มทัวร์อะไรคะ”
ไรรีย์งุนงงมากกว่า “ที่นี่ไม่ใช่ที่พักของกลุ่มทัวร์หรอกเหรอคะ ฉันคิดว่า...”
“อ๋อ” เธอร้องเหมือนนึกขึ้นได้ “พี่มาเอล...พี่ชายของฉันน่ะค่ะ เห็นคุณหลงทางกลางทะเลทราย เลยพาคุณกลับมาที่หมู่บ้านเพื่อให้ฉันดูแลคุณต่อ”
เธอหยุดพูด เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายขมวดคิ้วคิดตามคำพูดของเธอไม่ทัน และเปลี่ยนมาแนะนำตัว
“ขอโทษนะคะ ฉันลืมแนะนำตัวเอง ฉันชื่อซากีย่า ดิลลาเม็ค เรียกฉันว่าซากีย่าก็ได้ค่ะ แล้วคุณชื่ออะไรคะ”
“ฉันชื่อไรรีย์ กรีนส์ มาจากแมนฮัตตันพร้อมคณะทัวร์ค่ะ” พูดแค่นั้น เธอก็มีสีหน้าย่ำแย่ “ขอโทษนะคะ ฉัน...”
“ดูเหมือนคุณกำลังสับสน”
“ใช่ ฉันสับสน”
ไรรีย์ยอมรับ คำพูดของซากีย่าเห็นชัดว่าเธอหลงทางกับกลุ่มทัวร์ แต่ปัญหาคือ เพียงชั่วพริบตา เธอออกมาอยู่กลางทะเลทรายได้อย่างไร
ไรรีย์นวดขมับ ครุ่นคิดถึงปัญหาและเสียงรบกวนที่ตามหลอกหลอนจากความฝันเมื่อครู่ อย่างน้อย เธอรู้แล้วว่าผู้ชายคนนั้นคือกาหลิมซาฮิน กุนย่าห์ ผู้นำเผ่าทุ่งหญ้าเมืองซานจิก และผู้หญิงคนนั้น...เฉียน
จิ่นเกอ เธอแต่งงานกับซาฮินเพื่อเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างเมือง
ปัญหาของไรรีย์ตอนนี้ก็คือค้นหาคำตอบจากบันทึกประวัติศาสตร์ แล้วเธอจะเริ่มหาความจริงได้จากตรงไหน อินเทอร์เน็ตอย่างนั้นรึ...
ใช่แล้ว อินเทอร์เน็ต!
หญิงสาวคิดพลางล้วงหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ ทว่าเธอก็ต้องลดมือลง แล้วเปลี่ยนเป็นส่ายสายตามองสำรวจห้องเล็ก เครื่องตกแต่งไม่มาก แต่เรียบง่ายและสมบูรณ์แบบในส่วนของมัน จะว่าไปแล้ว พี่น้องดิลลาเม็คเป็นคนช่วยเธอไว้สินะ พวกเขาเป็นคนดีจริงๆ
เหมือนซากีย่ารู้ว่าเธอกำลังคิดอะไรจึงพูดขึ้น
“ที่นี่เป็นห้องของฉันเอง ไรรีย์ ฉันเรียกคุณแบบนี้ได้ใช่ไหมคะ” เมื่อเห็นไรรีย์พยักหน้า ซากีย่าจึงพูดต่อ “ไรรีย์ หากคุณอยากกลับไปรวมกับกลุ่มทัวร์ของคุณ พรุ่งนี้พี่มาเอลจะพาคุณกลับไป แต่ดูเหมือนวันนี้ คุณต้องพักที่นี่แล้วละ”
ไรรีย์ยิ้มและส่ายหัว ถามอย่างใคร่รู้ “ทำไมต้องเป็นพรุ่งนี้คะ”
ซากีย่ากะพริบตาพูด “ตอนนี้ดึกมากแล้วค่ะ เดินทางกลางทะเลทรายตอนดึกคงไม่ดีเท่าไร ใช่ไหมคะ”
หา?!
ได้ยินซากีย่าพูด ไรรีย์อ้าปากเหวอด้วยลักษณะอึ้งๆ เหมือนเธอหลับไปเพียงไม่นาน ทำไมฟ้ามืดเร็วจัง
ระหว่างมองสีหน้าอึ้งงันของไรรีย์ ซากีย่าก็เสนอ
“เอาอย่างนี้ดีไหม คืนนี้ คุณอาบน้ำพักผ่อนให้สบายใจก่อน ฉันจะยกห้องของฉันให้คุณ แล้วก็อย่าลืมโทร.หาไกด์นำเที่ยวของคุณด้วยล่ะ เดี๋ยวทางนั้นจะเป็นห่วง อ้อ กล้องของคุณวางอยู่ตรงนี้นะคะ”
ไรรีย์มองตามมือของซากีย่า กล้องถ่ายภาพสุดรักของเธอวางอยู่บนโต๊ะหัวเตียง และไม่ได้รับความเสียหายแต่อย่างใด จากนั้น ความคิดของไรรีย์ก็วกกลับมาที่ข้อเสนอของซากีย่า และคิดว่าพักอยู่ที่นี่ก่อนก็ถือว่าไม่เลวร้ายสำหรับเธอที่เพิ่งมาถึงก็พบเจอเหตุการณ์เหนือความคาดหมายเสียแล้ว
“ตกลงค่ะ” ไรรีย์พยักหน้ายิ้มให้กับซากีย่า “ซากีย่า ขอบคุณมากนะคะ”
ซากีย่ายิ้มรับ จากนั้นลุกขึ้นแล้วก้าวเดินออกจากห้อง
ตอนนี้ ไรรีย์ถึงล้วงหยิบนามบัตรของไกด์ออกจากกระเป๋ากางเกงยีนส์ กดเบอร์โทร.หาฝ่ายนั้น เมื่อไกด์สาวรับสายของเธอ เธอก็รีบขอโทษเป็นการใหญ่ จากนั้นโกหกว่าระหว่างเที่ยวชมเมืองโบราณวันนี้ เธอบังเอิญพบเพื่อน ซึ่งปลายสายตอบเธอว่าเข้าใจและไม่เป็นไร
ไรรีย์รู้สึกโล่งใจที่ทางนั้นเข้าใจอะไรได้ง่าย และเมื่อเธอกดตัดสายแล้ววางโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียงใกล้กับกล้องถ่ายภาพ เธอก็หันไปยิ้มให้กับซากีย่าอีกครั้งเมื่อฝ่ายนั้นถือเสื้อผ้าเดินเข้ามาในห้อง
“ไรรีย์ ถ้าไม่รังเกียจ คุณใส่เสื้อผ้าของฉันก่อนก็ได้นะ”
“ไม่เลย ฉันไม่รังเกียจ” ไรรีย์ตอบ และรับเสื้อผ้าของซากีย่ามาถือไว้ “ขอบคุณอีกครั้งนะคะ คุณน่ารักมาก”
“มาค่ะ ฉันจะพาคุณไปห้องอาบน้ำ” ซากีย่ายิ้มบอก ก่อนจะเดินนำทางเธอไปทางห้องน้ำ
ทั้งสองแยกทางกันตรงนั้น ไรรีย์ทำธุระส่วนตัวของเธอ ส่วนซากีย่าบอกว่าจะออกไปข้างนอกเพื่อตามหาพี่ชาย
หลังจากอาบน้ำแต่งตัวด้วยชุดกระโปรงยาวของซากีย่าเสร็จเรียบร้อยแล้ว ไรรีย์ไม่ได้กลับเข้าห้องทันที แต่เดินออกนอกตัวบ้าน
ท้องฟ้ายามค่ำคืนในเขตทุ่งหญ้ากึ่งทะเลทรายแบบนี้มองเห็นดาวได้ชัดเจนกว่าในนครแมนฮัตตัน เธอถือโอกาสนี้ตักตวงทิวทัศน์อันงดงามรอบบริเวณ
ถึงแม้เป็นยามวิกาล แต่ไรรีย์พอมองออกว่าหมู่บ้านทากิซ บ้านทุกหลังทำมาจากอิฐและดิน หน้าต่างและประตูทำขึ้นด้วยไม้ พวกเขามีสวนหน้าบ้าน ต้นไม้ที่มีใบเขียวชอุ่ม ถัดออกไปคือทุ่งหญ้าสำหรับเลี้ยงสัตว์ ซึ่งนั่นอาจรวมถึงสถานที่สำหรับทำเกษตรและแหล่งน้ำ มันน่าทึ่งมากสำหรับหมู่บ้านกลางทะเลทราย ทว่าอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้สีเขียว
เธอกางแขน สูดเอาอากาศบริสุทธิ์เข้าปอด แล้วเงยหน้าทอดสายตามองท้องฟ้าอีกครั้ง
“มองหาอนาคตหรืออดีตอยู่ล่ะ”
เสียงของชายชราดังขึ้นด้านหลัง ซึ่งเธอไม่รู้ว่าเขามายืนอยู่ตรงนี้นานเท่าไรแล้ว
ไรรีย์สะดุ้ง จากนั้นหันกลับไปมองด้วยท่าทางให้ความเคารพกับผู้อาวุโสกว่า
“ฉันรบกวนคุณปู่หรือเปล่าคะ คือฉันนอนไม่หลับ เลยออกมาเดินเล่นค่ะ”
ระหว่างพูด ไรรีย์คิดว่าในหมู่บ้านทากิซแห่งนี้พูดภาษาอังกฤษได้กันทุกคนเลยหรือเปล่า แต่ก็อาจใช่ เพราะภาษาอังกฤษเป็นภาษาสากลนี่นา
ชายชราไม่ตอบคำถามของเธอ แต่เงยหน้ามองท้องฟ้า บอกกับเธอว่า
“ลองดูดาวดวงนั้น ดวงที่สว่างที่สุด”
“คะ?”
ถึงแม้ไรรีย์ไม่เข้าใจ แต่เธอก็แหงนเงยหน้ามองหาดาวที่ส่องแสงสว่างที่สุด และเธอก็เห็นดาวดวงนั้นบนท้องฟ้าจริงๆ
“เห็นแล้วค่ะ ตรงนั้นใช่ไหมคะ”
“ในเมืองทากิซ ดาวดวงนั้นคือดาวแห่งผู้นำซานจิก...ผู้นำแห่งทุ่งหญ้าแดนตะวันตก ก่อนนั้น มันไม่เคยสว่างไสวขนาดนี้ แต่เพิ่งกลับมาเริ่มเปล่งแสง...ตั้งแต่เมื่อไรกัน” พูดถึงตรงนี้ ชายชราหยุดคิด
ไรรีย์ขมวดคิ้วมองชายแก่ เสมือนเขาพึมพำกับตนเองมากกว่าพูดกับเธอ ในที่สุดชายชราพูดขึ้นอีกว่า
“อ๋อ ใช่ มันเริ่มสว่างเมื่อไม่นานมานี้ อาจจะพร้อมกับคนแปลกหน้าที่มาเยือน”
“เดี๋ยวนะคะคุณปู่ เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะคะ” ไรรีย์ส่ายหน้าพูด ด้วยเพราะทำความเข้าใจไม่ทัน
ชายชราหันมองเธอ “ฉันบอกว่าดาวดวงนั้นเริ่มสว่างเมื่อไม่นานมานี้”
“ไม่ใช่ค่ะ ก่อนหน้านั้น”
ชายชราขมวดคิ้วครุ่นคิด หมุนลูกประคำในมือ ไรรีย์เองก็เพิ่งสังเกตเห็น หากเขาไม่ขยับมือเธอก็ไม่เห็นว่าเขาถือลูกประคำอยู่ ชายชรานิ่งคิดนานทีเดียวถึงบอกกับเธอว่า
“ดาวแห่งผู้นำซานจิก? ประโยคนี้ใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ ใช่” ไรรีย์รีบตอบ “คุณปู่คะ ผู้นำซานจิกคือกาหลิมซาฮิน กุนย่าห์หรือเปล่าคะ”
การฝันเห็นผู้ชายคนเดิมซ้ำๆ ครั้งล่าสุดที่ตื่นขึ้นมา มันไม่ใช่แค่ความทรงจำเพียงเศษเสี้ยวเล็กๆ แต่มันติดอยู่ในหัวของเธอ รวมทั้งชื่อของเขาด้วย ดังนั้นไม่แปลกที่ไรรีย์จะจดจำชื่อนั้นได้
คิ้วของชายชราขมวดเข้าหากัน พร้อมมองหน้าของไรรีย์ขณะพูดขึ้น
“ความจริงตำแหน่งกาหลิมมีมานานหลายช่วง แต่ก่อนที่เมืองซานจิกจะสูญหายในยุคของซาฮิน กุนย่าห์ ชื่อนี้แทบจะไม่มีใครรู้จักเลย หากถามคนในหมู่บ้านทากิซว่ามีใครรู้จักกาหลิมคนนี้ไหม แทบจะนับนิ้วได้ แต่แม่หนูกลับรู้ชื่อของเขา น่าแปลกมาก”
“ความจริงแล้วฉันเพิ่งรู้จักชื่อนี้เมื่อเร็วๆ นี้เองค่ะ” ไรรีย์ยอมรับ เพราะไม่มีเหตุผลใดให้ปกปิด “ฉันยังรู้อีกว่าดวงตาของเขาสีเข้มเหมือนท้องฟ้าตอนกลางคืน มีประกายคมและดุ ร่างของเขาสูงกำยำเหมือนนักรบ...น่าแปลกใช่ไหมคะ คุณปู่คงกำลังคิดว่าทำไมฉันถึงรู้ ฉันเองก็สงสัยเหมือนกันว่าทำไม”
พูดแล้วเธอก็หัวเราะราวกับคนสติแตก แต่คิ้วกลับจรดกันราวกับจะร้องไห้
“ฉันไม่ได้อยากรู้จักเขานักหรอกค่ะ แต่เขาเข้ามาอยู่ในฝันของฉันซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ฉันอายุสิบเก้า และหากถามว่า ทำไมวันนี้ฉันถึงไปอยู่กลางทะเลทรายตามลำพัง นั่นก็เป็นเพราะเขา ต้องเป็นซาฮินแน่ๆ เพราะเขาตามหลอกหลอนฉัน...เขาเกลียดฉัน”
ชายชราแตะต้นแขนของเธอเพื่อให้เธอตั้งสติ
ไรรีย์หยุดพูด ยกมือขึ้นมาลูบหน้า พยายามตั้งสติและปรับอารมณ์ให้เย็นลง เมื่อครู่ อารมณ์หลากหลายโหมซัดใส่เธอจนเธอเผลอพูดเรื่องโง่เง่ายาวเหยียด
เธอช้อนตามองชายชรา เขาพยักหน้าให้เธอ ก่อนบอกกับเธอว่า
“ซาฮินคือชื่อจริง และกาหลิมคือตำแหน่งผู้นำ หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือกษัตริย์...เรื่องของผู้นำเผ่าทะเลทราย หากพูดไปคงยาว จริงสิ ฉันชื่ออัลกาลา มาซซาร์ มูรัต คนในหมู่บ้านเรียกว่าผู้เฒ่ามาซซาร์ ฉะนั้น เธอเรียกฉันว่าผู้เฒ่ามาซซาร์ก็ได้”
“ค่ะ ผู้เฒ่ามาซซาร์”
ผู้เฒ่ามาซซาร์ถอนหายใจให้เธอ พูดทิ้งท้ายก่อนเดินจากไป
“คืนนี้พักผ่อนให้สบาย และมีชีวิตที่ดีต่อไป”
ไรรีย์ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจความหมายของประโยคนั้น เธอเลือกที่จะยืนมองท้องฟ้าต่อ ครุ่นคิดถึงความเป็นไปต่างๆ นานาที่เกิดขึ้นกับเธอในระยะหลัง
แต่...เดี๋ยวก่อน!
เมื่อครู่ผู้เฒ่ามาซซาร์บอกให้เธอพักผ่อนให้สบาย ตรงนี้ เธอเข้าใจ แต่มีชีวิตที่ดีต่อไป ผู้เฒ่ามาซซาร์หมายถึงอะไร
ขบคิดถึงความหมายแฝงนัยยะนั้นอยู่ครู่ใหญ่ หญิงสาวก็ล้วงโทรศัพท์ออกมาและกดเบอร์โทร.หาไกด์อีกครั้ง
ครั้งนี้ ไรรีย์ตัดสินใจดีแล้ว เธอจะอยู่หมู่บ้านทากิซระยะหนึ่ง ไม่แน่ว่าที่แห่งนี้อาจมีเบาะแสเกี่ยวกับกาหลิม ซาฮิน กุนย่าห์คนนั้นก็ได้!