ทำความรู้จัก
“ไปกับพวกเราดีกว่า พวกเราไม่อยากใช้กำลัง” หนึ่งในพวกนั้นพูดขึ้น ซึ่งตอนนี้คนรอบข้างก็หยุดเต้นแล้วหันมาสนใจพวกสามสาว แต่ก็ไม่มีใครกล้าเข้ามายุ่งเพราะรู้ว่าคนพวกนี้เป็นลูกน้องของนายอิฐธิจอมอันธพาล
“เอ๊ย ไอ้พอล แกไม่ไปช่วยเธอหน่อยเหรอวะ” พีชเป็นฝ่ายพูดขึ้นหลังจากที่เขาเห็นเพื่อนมองอยู่ที่สามสาวตั้งแต่ผู้ชายพวกนั้นเข้าไปหาพวกเธอและทำท่าจะลากเธอให้ไปกับมันแต่เขายังเห็นเพื่อนของเขายังนิ่งอยู่ทั้งที่มันบอกว่ามันสนใจเธอคนนั้นแต่มันก็ไม่คิดที่จะทำอะไรได้แต่นั่งมองพวกนั้นอยู่ได้
“ทำไมต้องช่วย” พอลพูดกับเพื่อนหลังจากที่นั่งมองอยู่นาน แต่เขาแค่อยากรู้ว่าพวกเธอจะจัดการกับพวกนั้นยังไง เพราะเขาเห็นฤทธิ์เธอแล้วตอนอยู่หน้าห้องน้ำ เขาเลยจะรอดูสถานการณ์ก่อนถ้าพวกเธอจัดการไม่ได้ค่อยยืนมือเขาไปช่วย สนุกดี “หึ”
“เอ้า ไอ้นี่แกสนใจเธอไม่ใช่เหรอวะ แล้วจะปล่อยให้พวกนั้นลากตัวเธอไปงั้นเหรอ” พีชบอกเพื่อนหลังจากที่เพื่อนเขาพูดออกมาแบบนั้นเขาล่ะไม่เข้าใจมันจริงๆ เลย
“หึ” พอลหัวเราะในลำคอแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แต่สายตาเขายังจับจ้องอยู่ที่สามสาวนั้นไม่คาดสายตา
“ปล่อยฉันซะ ก่อนที่ฉันจะหมดความอดทน” แก้วใสพูดขึ้นเสียงแข็ง เห็นพวกเธอเป็นพูดหญิงเบาะบางแต่พวกเธอไม่ได้อ่อนแอ พวกเธอทุกคนอยู่ชมรมเทควันโดสายดำนะจะบอกให้ เย็นไว้ๆ แก้วใสเดี๋ยวร้านเขาพัง แก้วใสส่งสายตาให้เพื่อน ซึ่งเพื่อนของเธอก็ส่งสายตารับรู้ พวกเธอไม่ใช่ว่าจะเคยเจอสถานการณ์แบบนี้ครั้งเดียวซะเมื่อไหร่ พวกเธอเจอสถานการณ์แบบนี้มานับไม่ถ้วนแล้ว และทุกครั้งพวกที่จะต้องเจ็บตัวคือพวกที่มาตอแยกับพวกเธอนั้นเอง
“คงไม่ได้หรอก เชิญไปกับพวกเราดีๆ ดีกว่าก่อนที่เจ้านายเราจะอารมณ์เสียซะก่อน” พวกนั้นพูดขึ้นเสียงแข็งและเพิ่มแรงบีบที่แขนของแก้วใส
“ได้..ไม่ปล่อยใช่ไหม พลอย ฟ้า พร้อม” หลังจากที่แก้วใสพูดจบ ทั้งเสียงเตะเสียงต่อยก็ดังขึ้นโดยที่พวกนั้นไม่ทันได้ตั้งตัว มันจึงทำให้พวกนั้นทั้งตกใจและไม่ทันได้คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ แค่นี้จะฤทธิ์เยอะขนาดนี้ ฝ่ายทางด้านแก้วใสนั้นทั้งเท้า ทั้งศอกทั้งหมัดใส่คนที่จับเธอไว้ จนคนพวกนั้นล้มไปกองอยู่ที่พื้นอย่างราบคาบ
“ไปซะ ก่อนที่พวกฉันจะหมดความอดทนมากกว่านี้ และก็ฝากไปบอกเจ้านายแกด้วยว่า อย่าคิดที่จะมายุ่งกับฉันอีก” แก้วใสพูดขึ้นด้วยใบหน้าที่น่ากลัวและเรียบเฉยทำให้คนพวกนั้นนึกกลัวเธอขึ้นมา ผู้หญิงพวกนี้น่ากลัวกว่าที่พวกมันคิด พวกมันเก็บเอาความเจ็บใจ แล้วพากับรีบพาเอาร่างสะบักสะบอมกลับไปหาเจ้านายทันที
“ไม่ได้เรื่องแค่ผู้หญิงตัวเล็กๆ พวกแกยังจัดการไม่ได้ กลับ” อิฐธิพูดกับลูกน้องเสียงแข็ง แล้วก็เดินออกจากผับไป
“เป็นไรไหมแก” ฟ้าใสถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วง
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้จิ๊บๆ ฮ่าๆ ๆ” แก้วใสพูดแล้วหัวเราะออกมาเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อยทั้งที่ในใจเธอก็แอบหวั่นๆ อยู่เหมือนกันว่ามันจะไม่จบเพียงแค่นี้ ดีที่พวกนั้นมันไม่ค่อยมีฝีมือเท่าไหร่นัก
“งั้นฉันว่าเรากลับกันเถอะ ไม่มีอารมณ์จะเที่ยวต่อแล้วอ่ะ” พลอยไพรชวนเพื่อนๆ เจอเหตุการณ์แบบนี้พวกเธอก็ไม่มีอารมณ์จะเที่ยวต่อแล้วกลับบ้านนอนดีกว่า
“” ฉันก็ว่างั้นแหละ ป่ะกลับกันเถอะ”
สามสาวกำลังจะเดินออกมาจากผับก็มีชายชุดดำเดินมาขวางทางไว้ซะก่อน หน้าตาถือว่าหล่อเลยทีเดียวล่ะสงสัยจะเป็นบอดี้การ์ด
“เดี๋ยวครับ คุณผู้หญิง” ชายชุดดำพูดขึ้น
“มีอะไรเหรอคะ” แก้วใสเป็นฝ่ายพูดขึ้น วันนี้มันเป็นวันซวยอะไรของเธอกันเนี่ย แล้วชายชุดดำคนนี้เป็นใครอีก ดูจากการแต่งตัวแล้วน่าจะไม่ธรรมดา
“เชิญไปพบเจ้านายผมหน่อยครับ พอดีเจ้านายผมเป็นเจ้าของผับนี้ครับ พวกคุณทำให้ผับเราเสียหาย และก่อความวุ่นวายให้กับผับ เจ้านายเลยเรียกตัวเข้าไปพบครับ เชิญครับ”
ที่จริงมันไม่จำเป็นเลยสักนิดที่เจ้านายจะเรียกตัวคนที่ก่อความวุ่นวายให้กับผับไปพบ เพราะแต่ก่อนมันเป็นหน้าที่ของเหล่าบอดี้การ์ดหรือเลขาอย่างเขาที่คอยเคลียร์ปัญหาทุกอย่างให้ ถ้าเรื่องนั้นไม่เป็นเรื่องใหญ่จริงๆ คงไม่ถึงมือเจ้านาย แต่ในกรณีนี้คงเป็นข้อยกเว้นคงอยากจะทำความรู้จักกับสาวสวยคนนี้เป็นแน่
“อ่อ เป็นคนของเจ้าของผับ จะเรียกค่าเสียหายหรือคะ เชิญเรียกมาได้เลยค่ะ ไม่จำเป็นที่ฉันจะต้องไปพบเจ้านายของคุณ”
“เจ้านายอยากคุยกับคุณโดยตรงมากกว่าครับ เชิญครับ” ชายชุดดำคนนั้นพูดจบก็มีคนชุดดำมาเพิ่มอีกสองสามคนมาล้อมหน้าล้อมหลังพวกเธอ นี้คงจะเป็นการบังคับกลายๆ สินะ ได้เธอจะไปพบกับเจ้าของผับนี้
“ก็ได้ค่ะ” แก้วใสพูดขึ้นหลังจากประเมินสถานการณ์อยู่พักหนึ่ง เธอปฏิเสธไปก็เท่านั้น
“แก้วแกจะไปจริงๆ เหรอ” ฟ้าถามขึ้นหลังจากที่มองสถานการณ์อยู่นาน
“ไม่เป็นไรเหรอแก พวกแกกลับก่อนเลยก็ได้นะ” แก้วใสบอกเพื่อนๆ เพราะเธอคิดว่าคงไม่น่าจะมีอะไรน่าเป็นห่วง
“ไม่อ่ะ พวกเราจะไปกับแกด้วย” พลอยไพรพูดเธอจะไม่ยอมให้เพื่อนไปคนเดียวเด็ดขาด
“คงจะไม่ได้หรอกครับเพราะเจ้านายผมต้องการเจอแต่คุณคนที่ก่อเรื่องเท่านั้น ซึ่งก็คือคุณผู้หญิงคนนี้” ชายชุดดำพูดขึ้น แล้วชี้ไปทางแก้วใส
“ไม่เด็ดขาด ฉันจะไม่ปล่อยให้เพื่อนของฉันไปคนเดียวเด็ดขาด” พลอยไพรพูดขึ้นอย่างเสียงดัง
“ใช่ ใครจะปล่อยให้เพื่อนตัวเองไปคนเดียว พวกคุณเป็นใครก็ไม่รู้” ฟ้าใสเอ่ยขึ้นอีกคน
“ไม่เป็นไรหรอกแกฉันไปได้ พวกเขาคงไม่ทำอะไรฉันหรอก แกกลับไปก่อนเหอะเดี๋ยวฉันโทรหา” แก้วใสบอกเพื่อนเธอคิดว่ามันคงจะไม่มีอะไรหรอก คงแค่ไปคุยกันและจ่ายค่าเสียหายทุกอย่างก็จบ
“แต่แกฉันเป็นห่วงแกนะ พวกนี้ไว้ใจได้รึเปล่าก็ไม่รู้ถึงเป็นเจ้าของผับก็เถอะ” ฟ้าใสพูดกับเพื่อนอย่างกังวลใจ
“เถอะน่า ฉันดูแลตัวเองได้ แกก็รู้นิ” แก้วใสพูดให้เพื่อนสบายใจ
“ก็ได้ๆ ๆ แต่ถ้าแกมีอะไรแก่รีบโทรหาพวกฉันทันทีเลยนะ เข้าใจไหม”
ฟ้าใสพูดกับเพื่อนอย่างเป็นห่วงอีกครั้ง เธอว่าพวกนั้นมันไม่ค่อยน่าไว้ใจ มีอย่างที่ไหน แค่มีเรื่องทะเลาะวิวาทนิดหน่อยถึงกับเรียกไปเจอเจ้าของผับเรื่องแค่นี้ให้ลูกน้องจัดการก็ได้มั้งเพราะผับก็ไม่ได้เสียหายอะไรมาก ไม่เสียหายเลยด้วยซ้ำจะมีก็แต่โต๊ะล้มเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น มันไม่น่าไว้ใจเลยสักนิดแถมยังให้เพื่อนเธอไปเจอคนเดียวอีกต่างหาก
“เชิญครับคุณผู้หญิง” ชายชุดดำคนนั้นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟังทั้งสามสาวคุยอยู่สักพัก เขากลัวว่าจะทำให้เจ้านายโกรธหากไปช้า
“เชิญสิคะ” แก้วใสพูดกับชายชุดดำสุดหล่อ แล้วชายชุดดำคนนั้นก็เดินนำหน้าเธอไป เธอก็เลยเดินตาม แต่ก็ไม่วายหันมาโบกมือลาเพื่อนๆ
ชายชุดดำคนนั้นพาแก้วใสเดินขึ้นมาชั้นสามของผับเธอคิดว่านี้น่าจะเป็นห้องพักไว้สำหรับรองแขก เพราะตั้งแต่เธอเดินขึ้นมาก็เห็นห้องหลายห้องเรียงกันไปตามทางยาว เดินมาสักพักชายชุดดำคนนั้นก็พาเธอมาเดินมาหยุดอยู่ที่ห้องสุดทางเดินทางขวามือ แล้วเขาก็ยกมือขึ้นเคาะประตู สักพักก็ได้ยินเสียงตอบกลับมา ว่าเขามาได้ แล้วเขาก็ทำการเปิดประตูผายมือให้เธอเดินเข้าไป
“เชิญครับ”
แก้วใสมองหน้าชายชุดดำนิดหน่อยและเดินเข้าไปในห้องเธอก็ต้องสะดุ้งเพราะเสียงปิดประตู เธอเดินเข้ามาเรื่อยๆ และสำรวจห้องไปด้วย ห้องนี้หรูหราพอสมควรตกแต่งอย่างสวยงามและเรียบหรูโทนสีภายในห้องเป็นดำเทาซะส่วนใหญ่ มองดูแล้วมันดูเศร้าๆ ยังไงไม่รู้
“จะสำรวจห้องอีกนานไหมครับ” แก้วใสหันไปตามเสียงที่พูดกับเธอ เธอถึงกับตาโตและเผลออ้าปากค้างไปทีเดียวเพราะผู้ชายคนที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้หล่อมาก หล่อแบบตรงสเป็คของเธอทุกอย่าง ผิวขาว คิวเข้มๆ จมูกโด่งๆ ในตาชวนฝัน ริมฝีปากได้รูปนั่นน่าจูบชะมัด พูดง่ายๆ คือผู้ชายคนนี้รูปร่างหน้าตาเฟอร์เฟคมาก อ๊ายย พ่อของลูกของแก้วใสชัดๆ
“จะจ้องผมอีกนานไหมครับ กรุณาเก็บน้ำลายด้วย” พอลเอ่ยขึ้นหลังจากมองดูแก้วใสมองเขาอ้าปากค้างตาโตมองสำรวจเขาอยู่นาน เขาเองก็ได้โอกาสสำรวจเธอเช่นกัน เขาว่ามองเธอไกลๆ ว่าสวยแล้วมองใกล้ๆ ยิ่งสวยกว่า ปากนิดจมูกหน่อย ทรวดทรงองเอวน่าฟัดเป็นบ้า พอลมองเธอด้วยสายตาจาบจ้วง ยกมุมปากยิ้มนิดหน่อยด้วยความพอใจ
“เอ่อ....น้ำลายอะไรบ้าสิ” แก้วใสแว๊ดใสคนที่พูดให้ทันทีหน้าตาก็ดีแต่ปากนี่ เพราะสิ่งที่เขาพูดมันทำให้เธออาย เธอก็เขินเป็นนะตาบ้านิพอเธอตั้งสติได้ก็เลยเอ่ยขอโทษเขา
“หึ” พอลหัวเราะในลำคอกับท่าทางน่ารักๆ ของแก้วใส สาวสวยที่อยู่ตรงหน้า
“เอ่อ...ขอโทษทีค่ะที่เสียมารยาท คุณคือคนที่เรียกฉันมาพบใช่ไหมคะ” แก้วใสถามขึ้นเพราะเขาเอาแต่มองเธอ แล้วแบบนี้ยังมีหน้ามาพูดให้เธออีกว่าเอาแต่มองเขา เขาก็เอาแต่มองเธอเหมือนกันนั่นแหละ
“ใช่ครับ เชิญนั่งสิ” พอลพูดและเชิญชวนแก้วใสให้นั่งลงโซฟาตรงข้ามกับเขา
“ค่ะ เข้าเรื่องดีกว่าค่ะคุณเชิญเรียกค่าเสียหายมาได้เลยค่ะฉันยินดีจ่าย” แก้วใสเอ่ยขึ้น เพราะเธอรู้สึกร้อนๆ หนาวกับสายตาของผู้ชายคนนี้เหลือเกิน อาการแบบนี้ของเธอไม่เคยเกิดขึ้นกับผู้ชายคนไหนเลย หรือว่าเขาจะเป็นคนที่เธอตามหา
“เปล่าหรอกครับ”
พอลพูดขึ้นด้วยเสียงเรียบนิ่ง เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาเป็นอะไรถึงให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนี้นัก ตั้งแต่ที่เขาเดินตามเธอไปตอนอยู่ห้องน้ำแล้ว และนี้เขายังให้คนไปพาตัวเธอมาพบเขาอีก เขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันเขารู้แต่ว่าอยากทำความรู้จักกับเธอ คงเป็นเพราะเขาเจอของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจล่ะมั้งเหมือนที่เขาพูดกับพีช
“แล้วคุณเชิญฉันมา มีธุระอะไรไม่ทราบ ถ้าไม่มีฉันจะได้กลับ” แก้วใสพูดอย่างอารมณ์เสีย เขาไม่มีธุระจะคุยกับเธอยังจะให้คนไปเชิญมา ไหนว่าจะเรียกมาคุยเรื่องเรียกค่าเสียหาย
“คุณชื่ออะไรครับ” พอลเปลี่ยนเรื่องคุยกับเธอซึ่งมันทำให้เขาเห็นสีหน้าไม่พอใจของเธอทันทีที่เขาไม่ตอบคำถามเธอ
“ไม่จำเป็นค่ะ ถ้าคุณไม่มีธุระอะไรแล้วงั้นฉันขอตัวกลับ” แก้วใสไม่บอกชื่อกับพอลเพราะเธอคิดว่าไม่จำเป็น จึงขอตัวกลับทันที
“ผม ภูวเนศ หรือเรียกสั้นๆ ว่า พอล ก็ได้ครับ” พอลแนะนำตัวเสร็จสับโดยไม่ได้ฟังฝ่ายทางแก้วใสพูดเลยว่าเธอขอตัวกลับ
“ฉันไม่ได้ถามและไม่อยากรู้ด้วยค่ะ” แก้วใสพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงโมโหที่เขาไม่ฟังเธอเลย
“โอเค.... อย่าพึ่งโกรธสิครับคนสวย ผมว่าเรามาทำความรู้จักกันดีกว่านะครับ คุณต้องการเท่าไหร่”
“อะไร คุณพูดเรื่องอะไรคะ” แก้วใสก็พอจะรู้อยู่หรอว่าเขาพูดเรื่องอะไรเธอไม่ได้อ่อนต่อโลกขนาดนั้นแต่ที่ถามเพื่อความแน่ใจ เขาเห็นเธอเป็นผู้หญิงขายตัวรึไง
“ผมรู้ว่าคุณเข้าใจ พูดมาเลยดีกว่า ผมไม่อยากเสียเวลากับตรงนี้ ผมอยากเสียเวลาทำอย่างอื่นมากกว่า” พอลเอ่ยขึ้นเขาอยากจะเห็นร่างขาวๆ นี้มาอยู่ใต้ร่างเขาจะแย่ ในสายตาคนอื่นเขาอาจจะเงียบขรึมไม่ค่อยพูดแต่ไม่มีใครรู้จักตัวเขาเองดีเท่าเขา
“หรอค่ะ ถ้างั้นฉันคงต้องปฏิเสธแล้วล่ะคะ เพราะฉัน ไม่ ได้ ขาย ตัว” แก้วใสพูดกับพอล เน้นๆ ที่ล่ะพูดอย่างหนักแน่น
“ผมรู้ว่าคุณไม่ได้ขายตัว ผมเพียงแค่สนใจคุณ” ยิ่งพอลพูดขึ้นแบบนี้มันยิ่งทำให้แก้วใสโกรธมากขึ้นกว่าเดิม เขาสนใจเธอทำไมไม่ทำความรู้จักไม่ศึกษากันดีๆ แต่มาขอให้เธอนอนด้วยทั้งที่เจอหน้ากันครั้งแรก
“แต่ฉันไม่สน เชิญคุณไปหาเอาข้างหน้า หาคนที่เขาเต็มใจดีกว่าค่ะ มีเรื่องจะพูดแค่นี้ใช่ไหมคะฉันจะได้กลับ” แก้วใสพยายามสะกดอารมณ์อย่างมากที่จะไม่กระโดดไปข่วนหน้าหล่อๆ นั่นให้เป็นรอย
“แต่ผมอยากได้คนนี้หนิครับ ผมต้องทำยังไง” พอลพูดขึ้นด้วยสีหน้าเรียบเฉย