บทย่อ
“หยาบคาย ปล่อยนะ จะทำอะไร”เสียงโวยวายจากคนตัวเล็กดังขึ้นเมื่อผู้ชายร้ายกาจอย่างพอลจับเธอขึ้นมานั่งบนตักอย่างง่ายดาย แล้วเธอยังไม่มีแรงจะขัดขืนอีกต่างหากส่วนหนึ่งก็มาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป
จุดเริ่มต้น 1
ร่างบางบนที่นอนหนานุ่มพลิกตัวไปมาเพราะเสียงเรียกเข้าของโทรศัพท์ เธองัวเงียควานหาที่มาของเสียงแล้วรับสาย ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรก็มีเสียงจากปลายสายเข้ามาซะก่อน
“ยายแก้วใสแกอยู่ไหนแล้ว”
“อือ....”
“อือ....อะไรของแก”
“ขออีกห้านาทีนะ”
“นาทีอะไรของแก อย่าบอกนะ ว่าแกยังไม่ตื่น ตื่นเดียวนี้เลยนะแกลืมแล้วรึไงว่าเรามีสอบ...”
แก้วใสที่ยังสะลึมสะลือ เหมือนฝันว่ามีใครมาพูดเข้าหูว่าสอบๆ ๆ
“สอบ สอบ สอบ อ๊ายยยยย แก”
แก้วใสจากที่สะลึมสะลือตาโตขึ้นทันที รีบลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวภายใน 15 นาที หยิบกุญแจรถวิ่งออกจากห้องตรงไปยังมหาลัย
แก้วใส หรือ กวิตา เรียนอยู่มหาลัย Y มหาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดในประเทศ ครอบครัวของเธอประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่มีชื่อเสียงหลายแห่งทั้งในและต่างประเทศ พ่อแม่ของเธอไม่ค่อยมีเวลาอยู่บ้าน ต้องเดินทางไปทำงานต่างประเทศเป็นประจำ ไปทีก็นานเป็นเดือนหรือบางครั้งก็เป็นปีๆ กว่าจะกลับ ทำให้บ้านหลังใหญ่โตที่เธออยู่ดูเงียบเหงา เธอจึงเลือกออกมาอยู่คอนโดดีกว่า และอีกอย่างมันสะดวกต่อการเดินทางมามหาลัยด้วย และตอนนี้แก้วใสก็เรียนอยู่ปีสี่แล้ว คณะสถาปัตย์ เกี่ยวกับการออกแบบตกแต่งภายใน สอบครั้งนี้เสร็จก็จะเหลืออีกแค่เทอมเดียวเท่านั้นก็จะจบแล้ว
แก้วใสเดินทางมาภายใน 15 นาที แล้วรีบโทรหาเพื่อนทันที
“ฮัลโหล......ยัยฟ้าแกอยู่ไหน”
“ฉันรออยู่หน้าคณะแกอยู่ไหนแล้ว จะได้เวลาแล้วนะ ยัยพลอยก็มาแล้วเหลือแต่แกนั่นแหละ”
“เคๆ ๆ กำลังเข้าไปเจอกัน”
ฟ้าใส พลอยไพร ทั้งสามสาวเป็นสาวฮอตประจำมหาลัย ทั้งสามสาวมีความสวยคนละแบบที่สามารถดึงดูดใจหนุ่มๆ ได้เป็นอย่างดี แก้วใส จะสวยแบบ สาวเปรี้ยว แซบ เซ็กซี่ เป็นคนตรงๆ คิดอย่างไรก็พูดอย่างนั้น ฟ้าใส สวยแบบ เซ็กซี่ขยี้ใจ เป็นคนที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง พลอยไพรจะสวยแบบ อ่อนหวาน น่ารักน่าทะนุถนอม แต่เธอก็แอบดื้อนิดๆ ทั้งสามคนเป็นที่หมายปองของหนุ่มๆ ในมหาลัยแต่พวกเธอก็ยังไม่สนใจใครโดยมีเหตุผลที่ว่ายังไม่ คลิก กับใครเลยสักคน
“ฟ้า พลอย รอนานไหม ไปกันเถอะแก เดี๋ยวไม่ทันสอบ”
“แล้วเพราะใครล่ะ”
“เถอะน่าไปๆ ๆ กันเถอะ”
ทั้งสามสาวก็พากันเดินเข้าห้องสอบ การสอบวันนี้เป็นวันสุดท้ายก่อนจะปิดเทอมและเหลืออีกเทอมเดียวพวกเธอก็จะพากันจบแล้วผ่านไปประมาณสองชั่วโมงทั้งสามสาวก็เดินออกมาจากห้องสอบ
“เฮ้อ......เสร็จสักที” เสียงแก้วใสเอ่ยขึ้นก่อนเพื่อน
“นั่นสิแก....โล่งเนอะ” ตามด้วยพลอยไพร
“ช่าย....แกพวกเราไปแด๊นซ์กันหน่อยไหมตอนเย็น เราไม่ได้ไปกันนานแล้วนะ ถือว่าฉลองที่สอบเสร็จ” ฟ้าใสเป็นคนเอยชวนเพื่อนๆ
“ก็ดีเหมือนกันนะ คลายเครียดด้วย ว่าไงพลอย”
“ว่าไงว่าตามกันจร้า”
“ป่ะ งั้นเรากลับหอเตรียมสวยกันดีกว่า” ฟ้าใสเอยชวนเพื่อนสาวทั้งสอง
ทั้งสามคนพักอยู่คอนโดสุดหรูใกล้กลับมหาลัย พักที่เดียวกันแต่อยู่คนล่ะห้องเพื่อความเป็นส่วนตัวของแต่ล่ะคน
“ฮัลโหล....คิม”
“ว่างไงครับคุณเพื่อน พอล สุดหล่อ มีอะไรให้กระผมรับใช้ครับ”
“ไม่มีไรหรอก แค่ว่าจะชวนไปดื่ม ที่ผับน่ะ”
“ได้สิ”
“เออ แค่นี้ เจอกันตอนเย็น” พอลพูดจบก่อนจะวางสายไป
พอล หรือ ภูวเนศ เอ็นดิเอโก้ คราวน์ นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงเพียงวัยแค่ 30 ปีเขาประกอบธุรกิจเกี่ยวกับโรงแรมที่มีสาขาอยู่ทั่วโลก เขาต้องรับหน้าที่บริหารโรงแรมตั้งแต่อายุยังน้อยเพราะพ่อแม่ของเขาเสียชีวิตตั้งแต่เขาอายุ 25 ตอนนั้นเขารู้สึกเสียใจมาก ไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่พักใหญ่ แต่เขาก็ได้เพื่อนที่คอยพูดคอยเตือนว่าเขาต้องสู้เพื่อธุรกิจที่ พ่อและแม่ของเขาที่สร้างมากับมือ
และนั่นทำให้พอลได้เขามาบริหารโรงแรมอย่างเต็มตัวถึงแม้ช่วงแรกๆ จะมีเสียงคัดค้านจากกรรมการบริหารทั้งหลาย แต่เขาก็สามารถพิสูจน์ให้พวกนั้นเห็นว่าเขาสามารถทำได้ และทำได้ดีมากซะด้วยจึงเป็นที่ยอมรับและน่าเกรงขามกับทุกคนในบริษัท เพราะหลังจากเกิดอุบัติเหตุเสียชีวิตของครอบครัว พอลก็กลายเป็นคนเย็นชา พูดน้อย เว้นเสียแต่ที่เขาอยู่กับเพื่อนๆ
พอลนั่งทำงานอีกสักพักเขาก็เดินออกมาจากห้องทำงาน แล้วตรงกลับคอนโดในทันที เขาใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโดซะส่วนใหญ่นานๆ จะกลับบ้านที เพราะเขาไม่อยากกลับบ้านไปเจอความทรงจำเก่าๆ กับครอบครัว มันทำให้เขาเจ็บปวดและคิดถึงทุกครั้งเขาเลยเลือกออกมาใช้ชีวิตอยู่ที่คอนโด บางครั้งเขาก็เดินทางไปดูโรงแรมสาขาอื่นๆ จึงไม่ค่อยอยู่เป็นหลักเป็นแหล่งเท่าไหร่ ส่วนที่บ้านก็ให้แม่บ้านดูแล
เรย์พอเห็นเจ้านายออกมาจากห้องก็เดินตามทันที เรย์เป็นทั้งเลขาและบอดี้การ์ดของพอลที่คอยตามติดเป็นเงาและรอรับคำสั่งจากพอลทุกอย่าง เรย์ทำงานอยู่กับพอลตั้งแต่พอลเริ่มเข้ามาบริหารโรงแรมใหม่ๆ ถือว่าเป็นคนที่รู้ใจพอลซะทุกอย่าง เป็นคนที่ ซื่อสัตย์ และรู้จักถ่อมตน แต่สำหรับพอล เรย์เปรียบเสมือนเพื่อน พี่ ที่คอยช่วยเหลือเขาทุกอย่างแต่เรย์ก็ไม่อาจเอื้อมที่จะตีตนเสมอเจ้านายถึงแม่ว่าพอลจะบอกเขาหลายครั้งแล้วว่าเวลาอยู่ด้วยกันสองคนให้ทำตัวธรรมดา แต่เขากลับได้รับการปฏิเสธกลับมา
พอมาถึงรถเรย์ก็เอ่ยถามขึ้นทันที
“ไปไหนครับ”
“กลับคอนโด เย็นนี้ว่าจะเข้าไปผับสักหน่อย” พอลเอ่ยขึ้น
“ครับ” พอลเอ่ยตอบแค่สั้นๆ เจ้านายกับลูกน้องนี้เย็นชาพอๆ กันเลย
ผับที่พอลว่าก็คือกิจการอีกกิจการหนึ่งที่เขาร่วมลงทุนกับพวกเพื่อนๆ ซึ่งหน้าที่บริหารจะเป็นของพีชเพื่อนสนิทอีกคนของเขา ซึ่งเป็นผับที่ได้รับความนิยมอย่างมากสำหรับคนมีเงิน เพราะมีความหรูหรา คนที่มาใช้บริการส่วนมากจะเป็นไฮโซหรือลูกผู้ดีมีอันจะกิน
ผู้หญิงส่วนใหญ่เลือกมาใช้บริการในผับนี้ก็จะมาแอบมองหนุ่มๆ เจ้าของผับเผื่อว่าวันไหนพวกเธอโชคดีก็จะมีโอกาสได้ขึ้นเตียงกับพวกเขาสักครั้ง แต่นั่นแหละมันก็เป็นความสัมพันธ์แบบไม่ผูกมัดพวกเธอรู้ดีเพราะหนุ่มๆ พวกนี้หวงความโสดอย่างกับอะไรดี ซึ่งผับนี้มีผู้ร่วมหุ้นด้วยกันสี่คน นั่นก็คือ พีช คิม มาร์ค และก็พอล ทั้งสี่คนเป็นเพื่อนสนิทกัน
ทางด้านแก้วใส ทั้งสามสาวมาถึงผับในเวลาประมาณสามทุ่มซึ่งผับที่เลือกก็เป็นผับที่มีชื่อเสียงที่สุด โดยวันนี้แก้วใสอยู่ในชุดเดรสโชว์แผ่นหลังสวยถึงสะโพก ฟ้าใสอยู่ในชุดเกาะอกสีแดงเน้นสัดส่วนรูปร่างที่แสนเพอร์เฟคกระโปรงสั้นเซ็กซี่ตามแบบฉบับของเธอ ส่วนพลอยไพร อยู่ในชุดเดรสสีดำเรียบหรูแต่ก็มีโชว์นิดหน่อยพอเป็นอาหารตา
“เอ้า พวกแกดื่ม วันนี้ไม่เมาไม่กลับ” ฟ้าใสเอยขึ้นกับเพื่อนๆ
“ดื่มมมม.....” แก้วใสเอ่ยขึ้น ทั้งสามสาวดื่มกินและโยกเบาๆ ไปตามเพลงโดยไม่สนใจสายตาของเหล่าผู้ชายทั้งหลายที่ส่งมาให้ มีบ้างบางครั้งที่มีผู้ชายแวะเวียนเข้ามาขอทำความรู้จักแต่พวกเธอก็ไม่เล่นด้วย
“แกฉันขอไปเขาห้องน้ำก่อนนะ” แก้วใสพูดขึ้นกับเพื่อน
“ให้พลอยไปเป็นเพื่อนไหมแก้ว แกไหวรึเปล่า” พลอยไพรถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงเพราะพวกเธอก็พากันดื่มเยอะพอสมควร
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันยังไหว ไปแป๊บเดียวเดี๋ยวมา”
“เคจ๊ะ”