บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 7 เอ็นทรานซ์

ตอนที่ 7 เอ็นทรานซ์

หลังจากนั้น…พาทีก็พยายามไปตีตัวสนิทกับสมร “เขาค่อย ๆ ใช้ประสบการณ์ที่ตนได้ฝึกฝนมาหลายปี ค่อย ๆ ตะล่อมเข้าไปหา “สมร” อย่างแนบเนียน!

อีกทั้งช่วงหลัง ๆ แม่สมพรก็คืนเพจเจอร์ให้กับสาวสวยทั้งสอง ทำให้พาทีส่งข้อความไปหยอดอยู่เป็นระยะ ๆ ส่วนใหญ่แล้ว เจ้าตัวมักจะใช้ความสามารถ ด้านการเรียนเก่งของตัวเองให้เป็นประโยชน์

“แน่นอนว่าเขาเป็นถึงลูกครู…ย่อมถูกพ่อตน เข้มงวดกวดขันเป็นพิเศษ มิหนำซ้ำพ่อตนยังเปิดโรงเรียนกวดวิชาซ้ำอีก” หากเขาโง่เง่าไม่เอาความ มันก็ดูจะเกินเยียวยาเป็นแน่ ถ้าโหลยโท่ยแบบนั้นคงไม่มีผู้หญิงที่ไหน “จับเขามาทำผัวเป็นแน่!”

ดังนั้นช่วงเวลาที่ผ่านมาพาทีก็ได้ค่อย ๆ ทำตามคำแนะนำของพ่อ “คำพูดในวันนั้นที่บ้านของสมร…ว่าที่พ่อตาของเขา” ทำให้มันฝังลึกอยู่ภายในจิตใจของเขา หากจะให้เอาดีสักอย่าง คงมีแต่เรื่องเรียนเก่งเท่านั้นที่เขาทำได้ดี!

และมันเหมือนจะเป็นสิ่งที่ทำให้สาว ๆ เข้ามารุมล้อมเข้ามากยิ่งขึ้น บรรดาสาว ๆ จะเข้ามาด้วยตีสนิทกับหนุ่มหล่อ “ด้วยการขอให้…ช่วยติวให้หน่อย!”

ด้วยทุนเดิมที่พ่อแม่ให้มา รูปร่างหน้าตาดี และยังเพิ่มความสามารถด้านการเรียนเข้าไปอีก ทำให้เขาเหมือนดั่งเสือติดปีก! “คล้ายกองไฟที่ไม่เคลื่อนไหวไปไหน รอเพียงให้พวกแมลงเม่าบินเข้ามาหาด้วยตัวเองก็มี!”

จากการซ้อมมือกับสาว ๆ มาหลายปีทำให้เขาเข้าหา “สมร” จนเจ้าหล่อนยอมให้ไปส่งถึงบ้าน พอทางบ้านโดยเฉพาะเสมอ เมื่อรู้ข่าวว่าพาทีเป็นลูกของครูแสมก็วางใจไปเปลาะหนึ่ง เพราะสอนลูกศิษย์ลูกหาได้ดีมาหลายคนก็เยอะแยะ “ลูกของตัวเองย่อมควรต้องเคี่ยวกรำให้ดีเป็นพิเศษถึงจะถูก” เสมอคิดเช่นนี้

พักหลัง ๆ ชายหนุ่มก็ได้โอกาสได้นั่งร่วมโต๊ะกินข้าวในมื้อค่ำ กับคนในครอบครัวบัวบูชาแน่นอนว่า “เขาถูกคุณนายสมพร…สัมภาษณ์อย่างละเอียดยิบ ทำเอาพาทีเหงื่อไหลเต็มหลัง” แต่ก็โชคดีที่เตรียมการล่วงหน้ามาเป็นที่เรียบร้อย

เพราะในใจคิดว่า “สักวันคงต้องเจอเหตุการณ์แบบนี้แน่ ๆ”

พอได้ยินลมปากอันหอมหวานของพาที “เทพสาลิกาลิ้นทอง” ก็ครอบครัวของสมรมองตัวเขาในแง่ที่ดีมากขึ้น ผู้หลักผู้ใหญ่จึงเปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ลองคบหาดูใจ แบบเป็นเพื่อนกันไปก่อน รอโตแล้วค่อยว่ากันอีกที

แน่นอนว่าระหว่างนี้พาทีก็อดอยากปากแห้งไม่ใช่น้อย เพราะไม่มีสาว ๆ เข้ามาในห้องเชือดที่ใช้บำบัดความใคร่ของเขาเลย ได้แต่อดทนอดกลั้นไว้ก่อน เนื่องจากดูท่าแล้วพ่อของเขาก็ได้แบบเปรย ๆ มาว่า “คุณนายสมพรคงส่งคนประกบติดตามเขาน่าดู…และนี่คือช่วงเวลาทำคะแนน!”

“ดังนั้นห้ามพลาดโดยเด็ดขาด” พ่อแสมพูดด้วยน้ำเสียงข่มขู่ ทว่าภายในใจเขาคิดไปได้หลายสิบอย่าง ผลประโยชน์ของการเกี่ยวดองของทั้งสองครอบครัว จึงเตือนลูกชายว่า “ห้ามทำอะไรผลีผลามโดยเด็ดขาด ทั้งยังเพิ่มเงินให้พาที เอาไว้ซื้อของขวัญติดไม้ติดมือ เวลาที่ไปบ้านหลังนั้น

ยิ่งนานวันการสอบเอ็นทรานซ์ก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนว่าสำหรับนักเรียน ม.6 แล้ว “วันสำคัญที่สุดในชีวิต…คงหนี้ไม่พ้นการสอบเอ็นทรานซ์”

ทำให้ช่วงนี้สมรกับพาที ได้เจอกันบ่อยมากยิ่งขึ้นที่โรงเรียนกวดวิชา ทั้งคู่ยังได้สอบถามเกี่ยวกับคณะที่เลือก มหาลัยที่อยากเข้า ข้อมูลส่วนตัวของเธอถูกพาทีตะล่อม ๆ ถามจนแทบจะรู้ไส้รู้พุงเกือบหมดแล้ว

เสียงหวานของสมรดังขึ้น “นี่…ที เราเบื่ออะ อยากไปดูหนังอยากไปเที่ยวห้างบ้างจังเลย เฮ้อ…” เธอพูดเสียงอ่อนเสียงหวาน สมรนับตั้งแต่รู้จักพาทีเธอก็รู้สึกชอบนายคิ้วหนาคนนี้มากเป็นพิเศษ ทั้งรูปร่างหน้าตาดี พูดจาก็ไพเราะเสนาะหู แถมยังเรียนเก่งอีกด้วย ภายในใจของเธอถูกพาทีตกไปแล้วเต็ม ๆ “เธอค่อย ๆ กลายเป็นเหยื่อของชายหนุ่ม”

“งั้นแอบไปกันดีมั้ยล่ะ?” พาทีเสนอขึ้น…ที่มุมปากมีรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม เขาย่อมรู้ดีว่าพวกบรรดาคุณหนูทั้งหลาย โดยเฉพาะคนอย่างสมร สำหรับคนอย่างพวกเธอแล้ว “กฎมีไว้แหก”

แววตาเปล่งประกายสุกใส ก่อนจะแอบกระซิบถามว่า “ไปยังไงดีล่ะ แม่เราห้ามแถมยังคอยจับตามองดูเสียขนาดนี้!?” เธอเท้าคาง ก่อนบ่นอุบ

“เรามีวิธี…ก็ย้ายที่ติวไปที่ห้าง ไม่ตึงเกินไปไม่หย่อนเกินไปไง เดี๋ยวทีจะช่วยหว่านล้อมออกหน้าให้หมอนเองดีมั้ย?” ชายหนุ่มช่างพูดช่างเจรจาเหลือหลาย

และคำพูดทำนองเดียวกันนี้ถูกส่งต่อไปยังถึงหู คุณนายสมพรซึ่งถูกสาลิกาลิ้นทองของพาทีชี้นำ โดยเอาธรรมะเข้ามาผสมโรงด้วย เกลี้ยกล่อมจนคุณนายสมพรยอมใจอ่อน ปล่อยให้ลูกสาวไปผ่อนคลายตามที่ชายหนุ่มร้องขอ

เรื่องนี้ทำให้เจ้าตัว…ได้ใจไปสมรกับเอื้อยไปเต็ม ๆ

และหนังที่พวกเขาเลือกดูกลับเป็นหนังผีเสียด้วย ทีพอรู้ดังนั้นจึงนั่งกึ่งกลางไม่ว่าฝั่งไหนจะหลบจะมาซบ เขาก็ได้ผลประโยชน์ถึงเนื้อถึงตัวทั้งสองคน “ผลออกมาก็เป็นไปตามคาด ชายหนุ่มฟังเสียงกรี๊ดดังลั่นโรง ส่วนสองสาวก็อดไม่ได้ที่จะใช้ไหล่เขาเป็นที่พักพิง…”

หลังจากวันนั้นมาพาทีก็เริ่มเข้าไปเดินเล่นในหัวใจของสองสาว แต่เขาแสดงออกชัดเจนกับสมรว่าตั้งใจและจริงใจเป็นอย่างมาก ทำให้เอื้อยต้องถอยให้อย่างจำใจ ยิ่งนานวัน พาทีก็ยิ่งได้ล่วงรู้ความลับ เหตุผลที่สองสาวถูกบังคับให้มาเรียนกวดวิชา “เป็นเพราะแอบหนีเที่ยว ไปถึง ‘เดอะพาเลซ’ หลายต่อหลายหน”

ชายหนุ่มแสยะยิ้มกว้างเมื่อได้รู้ข่าวเรื่องนั้น หลายเดือนหลังจากที่ได้รู้จักกันก็เรียกได้ว่า “สมรนับวันรอที่จะกลายเป็นเมียเขาได้เลย…” เพราะเขาตีจุดอ่อนของหญิงสาว ได้แทบทุกด้าน ทั้งครอบครัวของอีกฝ่ายก็เปิดใจยอมรับ

มีความคิดแวบเข้ามาในหัวของเขาเลยก็คือ “คิดรวบหัวรวบหางหล่อน ให้มันสิ้นเรื่องสิ้นราวกันไปเลย!” แต่ก็ได้ข่มกลั้นความปรารถนาภายในจิตใจเอาไว้ก่อน รอเชือดทีเดียวมันถึงจะควรค่าแก่การรอคอย

ระหว่างที่เจ้าตัวคิด “ก็ได้แต่ช่วยตัวเองไปพลาง ๆ ทุกวันนี้ไม่มีสาว ๆ ผ่านเข้ามาในห้องเชือดทำให้ หน้าหนังสือโป๊ของเขาติดกันจนเปิดหน้าเก่า ๆ ไม่ออก”

ไม่นานวันสอบเอ็นทรานซ์ก็มาถึง…

สำหรับสมร เอื้อย ที่แต่เดิมเรียนเก่งอยู่แล้ว พอได้รับการกวดวิชาเพิ่มเติมก็ทำให้เจ้าตัวมั่นใจว่าจะต้องสอบติดแน่ ๆ และถึงนาทีนี้หลังจากที่ทำตามแม่สมพรสั่งทุกอย่าง หากว่าสอบไม่ติดตรงตามคณะที่แม่ตั้งใจไว้ เธอก็คิดว่าแม่คงปล่อยให้เรียนต่อนั่นแหละ…

ช่วงแรก ๆ ก็แค่ขู่ไปอย่างนั้นเอง! เมื่อยอมทำตามถึงขนาดนี้หากสอบไม่ติด จะมาโทษเธอก็คงไม่ได้ อาจเกิดจากพวกข้อสอบก็เป็นไปได้!

ในทุก ๆ ปีช่วงแห่งการสอบเอ็นทรานซ์ ทั่วทั้งประเทศจะให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก สื่อทุกสำนัก ทั้งหนังสือพิมพ์ ทีวีและวิทยุ ทุกช่องต่างตามเกาะติด จนเป็นบรรยากาศร่วมทำให้ผู้คนภายในประเทศรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมในการสอบครั้งนี้

ส่วนเด็กนักเรียนที่เครียดจนถึงขั้นจิตตก ก็ทำเอาพวกจิตแพทย์ออกมาให้คำแนะนำกับผู้ปกครองตั้งแต่เนิ่น ๆ เท่านั้นก็ว่าไปอยาก “บางช่องถึงขนาดไปนิมนต์พระนักเทศนา มาช่วยสอนพ่อแม่ที่ตั้งหน้ารอด้วยความหวัง”

ตั๋วเที่ยวเดียวไปแล้วไปลับ หากไม่ติดได้แต่อ่านหนังสือรอสอบปีหน้า! “ด้วยกติกาเช่นนี้ หากจะไม่ให้เด็กนักเรียนเครียดก็แปลกแล้ว!”

ปีนี้ทางรัฐบาลยังได้แจ้งไปถึงพวก “ค่ายโอเปอร์เรเตอร์…เพื่อป้องกันการทุจริต” ห้ามส่งข้อความเป็นรหัสเช่น 1.a 2.b 3.c หรือ ก ข ค เพื่อป้องกันการทุจริต พวกวิธีป้องกันการทุจริตทยอยประกาศออกมาไม่ขาดสาย “เรื่องการสอบนี้ ย่อมกลายเป็นวาระแห่งชาติไปโดยปริยาย!”

อารมณ์ร่วมที่เต็มไปด้วยความคาดหวังของผู้ปกครอง ซึ่งมานั่งรอลูกหลานที่ด้านล่างอาคารสอบ ลุ้นตัวโก่งไม่ต่างจากลูกหลานที่เข้าสอบ

และแล้วเวลาแห่งการสอบก็ผ่านพ้นไป การสอบที่ว่ากดดันแล้วยังไม่เท่าการประกาศผลที่มาติดเอาตอนเที่ยงคืน!

หลายคนเรียนรู้มาจากบรรดาพวกรุ่นพี่ จึงพากันเอาไฟฉายส่องกบมาคาดที่หน้าผาก เพื่อเตรียมพร้อม หวังว่าจะได้เห็นชื่อของเขาบนกระดาษแผ่นใดแผ่นหนึ่ง!

สมรและเอื้อย ทั้งสองคนไม่ได้รีบแบบพวกคนอื่น “ทว่าก็หน้านิ่วคิ้วขมวดเช่นกัน จึงจับมือกัน กลั้นใจเดินเข้าไปดูที่กระดานประกาศผล ก่อนจะไล่หาชื่อตนเอง” แม้จะดึกแต่คนที่มาดูก็ไม่ได้น้อยเลยจริง ๆ ผู้คนเบียดเสียดแย่งกันดู…

ภาพบรรยากาศที่แสดงออกด้านข้าง “มีอยู่สองอย่าง ทั้งคนที่ไชโยโห่ร้อง กับคนที่ร้องไห้เพราะสอบไม่ติด” ยิ่งเดินเข้าไปใกล้ ๆ ความรู้สึกของทั้งสองคนที่มีกับเพื่อนร่วมรุ่น ยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นเป็นพิเศษ

ใจหนึ่งก็กลัวจะเป็นแบบเพื่อน ๆ ที่นั่งร้องไห้โฮ มองไปแล้วหนทางข้างหน้าช่างมืดมน…

แต่พอเลื่อนไปดูรายชื่อก็ปรากฏว่าเธอทั้งคู่เห็นรายชื่อของตัวเองอยู่ในลำดับแรก ๆ เลยทีเดียว! พอเห็นดังนั้นทั้งสองก็อดไม่ได้ที่จะกระโดดกอดกัน พากันส่งเสียงกรีดร้องด้วยดีใจ อีกทั้งยังเต็มไปด้วยคราบน้ำตาแห่งความภูมิใจ …ที่ทั้งสองต่างทนเหนื่อย ตรากตรำมานานหลายเดือน!

“เพราะทั้งคู่สอบติดที่เดียวกัน คณะบริหารฯ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์!

ถ้าชอบกดไลก์ หากใช่ก็กดแชร์ หรือว่าจะช่วยบอกต่อ…เพื่อเป็นกำลังใจให้นักเขียนด้วยนะครับ

สามารถคอมเมนต์ติชมกันเข้ามาได้นะครับ นักเขียนไม่ดุุ! : ) ขอบคุณครับ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel