บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ปัง!

เสียงฝ่ามือกระทบโต๊ะดังขึ้นมาจากในเรือนของเยว่เหล่าไท่ไท่ด้วยแรงโทสะ หญิงชรากำมือแน่นจนเล็บแทบจิกเข้าเนื้อ ตัวสั่นเทาด้วยความโกรธเกรี้ยว

“จางเจียวจินนางคงคิดอยากจะงัดข้อกับข้า! สะใภ้เนรคุณ กัดไม่ปล่อย!”

หญิงชราเค้นเสียงพูดออกมาจากลำคอ ขณะเดียวกันก็พยายามสูดลมหายใจเข้าออกระงับโทสะของตนเองอย่างสุดความสามารถ หลังจากที่มู่มู่แม่บ้านประจำกายเข้ามารายงานเรื่องที่ลือกันไปทั่วทั้งบ้านสกุลเยว่ในเวลานี้ให้ทราบ

“เหล่าไท่ไท่ใจเย็น ๆ ก่อนเจ้าค่ะ เดี๋ยวจะล้มป่วยไปเสียก่อนนะเจ้าคะ”

มู่มู่กุลีกุจอรีบรินชาใส่ถ้วยให้อีกฝ่ายจิบ พร้อมกับบีบนวดผ่อนคลายให้เพราะเป็นห่วงสุขภาพ ด้วยกลัวว่าเจ้านายจะโกรธจนพาลล้มป่วยลงไปอีกคน

“ข้าไม่คิดเลยว่านางจะร้ายกาจเพียงนี้ อาการป่วยของอาหลีทุกคนในเรือนต่างก็รู้ดี แล้วนี่อะไรคิดจะส่งนางออกเรือนไปแต่งกับคุณชายเสิ่นที่ดวงตาแทบมองไม่เห็นอย่างนั้นรึพูดแล้วข้าก็โมโหยิ่งนัก”

ยิ่งพูดหญิงชราก็ยิ่งอารมณ์ขึ้น ยกมือมากุมขมับของตนเมื่อเริ่มรู้สึกเวียนหัวขึ้นมา

“นายหญิงพักก่อนเถิดเจ้าค่ะ”

มู่มู่หน้าถอดสีรีบเข้าพยุงร่างของเจ้านาย น้ำตาเอ่อคลอเบ้าตาทั้งสองข้างด้วยความเป็นห่วง

“ส่งคนไปดักรอที่หน้าประตูถ้าใต้เท้าเยว่กลับมา ให้รีบมาพบข้า”

“เจ้าค่ะเหล่าไท่ไท่”

เมื่อเยว่เหล่าไท่ไท่ล้มตัวลงนอนพักสายตาเรียบร้อยแล้ว มู่มู่หญิงรับใช้วัยชราก็วางใจ เดินออกไปจากห้องของผู้เป็นนายไปจัดการตามคำสั่งของอีกฝ่ายทันที

กว่าใต้เท้าเยว่หรือเยว่หลวนเล่อจะกลับมาถึงบ้านสกุลเยว่ก็เป็นเวลาบ่ายคล้อยแล้ว ทันทีที่เท้าทั้งสองข้างของเขาก้าวพ้นประตูบ้าน สาวใช้ที่รับคำสั่งจากมู่มู่ก็ประชิดตัวรายงานตามคำสั่งทันที

“อืมเดี๋ยวข้าไป”

“เจ้าค่ะ”

“ท่านพี่กลับมาแล้วหรือเจ้าคะ”

จางเจียวจินแย้มยิ้มหวานรีบวางสะดึงปักผ้าในมือลงกับตั่งที่นั่งอยู่ แล้วลุกเดินปรี่เข้าไปหาผู้เป็นสามีที่พึ่งเดินเข้าห้องมา

“น้องหญิงข้ากลับมาแล้ว”

มือขาวของจางเจียวจินช่วยถอดเสื้อคลุมให้กับเยว่หลวนเล่ออย่างเช่นทุกวัน ริมฝีปากบางของนางแย้มยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะผละเดินไปรินชาใส่ถ้วยให้อีกฝ่ายอย่างเอาใจ

“ขอบคุณมาก เดี๋ยวข้าไปหาท่านแม่ก่อนนะ”

หลังจากจิบชาที่ฮูหยินรองของตนรินให้เพื่อไม่ให้ต้องเสียน้ำใจ ชายวัยกลางคนก็รีบเดินแยกออกจากห้องไป โดยไม่ทันได้เห็นสีหน้าของภรรยาผู้แสนดีของตนที่เปลี่ยนไปทันตาเห็นหลังจากได้ยินสิ่งที่เขาพูด

จางเจียวจินยืนนิ่งมองตามแผ่นหลังผู้เป็นสามีไปด้วยสายตาเย็นชาราวกับว่าเป็นคนละคนกับเมื่อครู่ ในใจก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจแม่สามีขึ้นมา

“เจ้าจะให้อาหลีออกเรือนแล้วอย่างนั้นรึ”

ทันทีที่เยว่หลวนเล่อบุตรชายเพียงคนเดียวของตนยอบกายลงนั่งเก้าอี้ เยว่เหล่าไท่ไท่ก็เปิดปากถามอย่างตรงไปตรงมาไม่อ้อมค้อม ดวงตาของหญิงชราจ้องหน้าบุตรชายเขม็ง

“ขอรับ”

เยว่หลวนเล่อตอบมารดาไปตรง ๆ เช่นกัน แม้จะนึกแปลกใจไม่น้อยที่มารดาของเขาที่อยู่แต่เหย้าเฝ้า

แต่เรือนกลับยังคงสายตากว้างไกลไม่เคยเปลี่ยน

“เยว่หลวนเล่อเจ้าคิดดีแล้วรึ ลูกสาวเจ้าป่วยกระเสาะกระแสะปานนั้น เจ้ายังคิดจะไล่นางออกไปลำบากอีกรึไงกัน ข้าไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเจ้าจะเป็นพ่อที่ใจร้ายถึงเพียงนี้!”

เมื่อเห็นท่าทางไม่ทุกข์ร้อนของบุตรชายเยว่เหล่าไท่ไท่ก็ไม่อาจทนเก็บโทสะไว้ได้อีกต่อไปแผดเสียงตะโกนออกมาใส่อย่างเหลืออด ทำเอาคู่สนทนาถึงกับสะดุ้งเมื่อเห็นท่าทางเอาเรื่องของผู้เป็นมารดา

“ทะ ท่านแม่ใจเย็น ๆ ก่อนเถิดขอรับ”

ชายวัยกลางคนหน้าถอดสีรีบลุกเข้าไปหามารดาที่ตอนนี้สีหน้าบูดบึ้งจ้องมองเขาอย่างเอาเรื่องด้วยความเกรงกลัวระคนข้องใจ

“เจ้าจะให้ข้าเย็นได้อย่างไร ถึงข้าจะเป็นหญิงแก่คนหนึ่งที่อยู่แต่ในเรือน ข้ายังรู้เรื่องในบ้านมากกว่าเจ้าเสียอีก อาหลีป่วยมากี่ปีแล้วเจ้าคิดว่านางแข็งแรงพอจะออกเรือนอย่างนั้นรึ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel