บทที่ 2 การกลับมาของเขา (2)
“วันนี้ใครจะได้ตัวเซเรน่าไปกันนะ เธอไม่อยากรู้เหรอ” แองจี้ยังคงพยายามชวนคุยต่อ ถึงแม้ว่าเพื่อนสาวที่แปลงสถานะเป็นผู้รักษาการณ์แทนคนก่อนจะยังคงนิ่งไม่ยอมพูดคุยกับเธอ เรื่องครั้งนั้นเธอทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย แต่เพราะผู้ชายคนนั้นน่ากลัวมาก เธอก็เลยไม่มีทางเลือกส่งเพื่อนรับหน้าแทน
เธอรู้ว่าถ้าส่งดิวเข้าไปจะเกิดเรื่องอะไร แต่สุดท้ายก็ยังทำ ก็ไม่แปลกที่ดิวจะตัดเพื่อนกับเธอ แต่ในเมื่อกลับมาเจอกันอีกครั้งเธอก็ขอทำทุกสิถีทางเพื่อไถ่โทษให้กับความผิดนี้ ต่อให้ถูกหมางเมินเธอก็ต้องอดทนและพยายามทำมันต่อไป
“ถ้าเซเรน่าได้คนดี ๆ ไปก็ดีเนอะ ชีวิตจะได้ดีขึ้น ไม่ต้องมาทำอาชีพแบบนี้อีก” เธอรอคอย...จนกระทั่งได้ยินเสียงตอบรับมาเบา ๆ และพอได้ยินแบบนั้นเธอก็ถึงกับหลุดยิ้มออกมาจนแทบเก็บอาการดีใจเอาไว้ไม่อยู่
“อืม”
ดาราฉายตอบกลับไปแค่ไหนก็ไม่คิดสนใจอีกฝ่ายอีก แต่น่าแปลกที่สายตากลับเหล่มองไปทางเพื่อนสาวที่ถึงว่าปากจะบอกตัดความสัมพันธ์ แต่ไม่รู้ทำไมทุกครั้งที่อีกฝ่ายเดือดร้อนเธอก็มักจะยื่นมือเข้าไปช่วยเสมอ แล้วเรื่องที่เธอท้องกับใครก็ได้แองจี้กับผู้มีพระคุณช่วยปิดไว้สองคน จนทุกวันนี้แม้แต่พ่อของเด็กก็ยังไม่รู้ เพราะถ้าเขารู้ บางทีเขาอาจตามมาขอให้เธอเอาเด็กออกไปนานแล้วก็ได้
แต่เชื่อเถอะว่าเขาไม่มีทางทำสำเร็จแน่นอน
“ตอนนี้ตัวเลขเริ่มสูงขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนะคะ ใครจะได้วันวินอันดับหนึ่งของเดอะวันไปครอง เรามาร่วมลุ้นกันต่อเถอะค่ะ!”
เสียงแสบแก้วหูของพิธีกรภาคสนามทำให้หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวดเข้าหากัน แดนเนียลนิ่วหน้าเล็กน้อย เมื่อรู้สึกรำคาญเสียงแหลมสูงนั้น ดวงตาคมกริบมองตรงไปยังเวทีซึ่งมีร่างบอบบางอวดโฉมงดงามอยู่ ใบหน้าของชายหนุ่มยังคงเรียบเฉยไม่ได้แสดงออกถึงความรู้สึกใด ๆ จนเซเรน่าที่พยายามส่งยิ้มให้ถึงกับยิ้มค้างตีสีหน้าไม่ถูก
หรือว่าเธอจะยังโปรยเสน่ห์ไม่พอ เขาถึงได้ไม่รู้สึกอะไร
ถึงเธอจะเป็นคนที่มั่นใจในตัวเองสูงและเชื่อมั่นว่าความสวยของตัวเองมากล้นแค่ไหน แต่กับชายหนุ่มคนนั้นเธอกลับไม่ค่อยมั่นใจนัก ด้วยรูปลักษณ์ที่ดุดันแข็งกร้าวกับบุคลิกเย็นชาน่าเกรงขามแบบนั้นบวกกับใบหน้าที่หล่อเหลาราวกับเทพบุตรกรีก เธอเชื่อว่าเขาคงหาผู้หญิงที่สวยได้มากกว่าเธอได้ไม่ยาก แต่ถ้าเป็นแบบนั้นแล้วเขามาที่นี่ทำไม หรือบางทีเขาอาจจะเก็บซ่อนความปรารถนาในตัวเธอเอาไว้อย่างมิดชิดก็ได้
แต่ใครจะรู้ว่าความคิดของหญิงสาวกลับผิดถนัด เพราะนอกจากแดนเนียลจะไม่สนใจเข้าร่วมการประมูลแล้วเขายังไม่มีความคิดที่จะปรายตามองอีกฝ่ายด้วยซ้ำ ใบหน้าคมคายหันไปมองเสี้ยวหน้าสวยคมของผู้หญิงคนหนึ่ง แถบผ้าบางเบาสีแดงปิดบังเรียวปากเอิบอิ่มกับลำคอระหงเอาไว้ ยิ่งสร้างจินตนาการของคนที่พบเห็นให้ยิ่งเตลิด ยิ่งพอเลื่อนสายตาลงมองเนิ่นอกร่ำไรที่โผล่พ้นชุดผ้าแพรสีแดงสดดุจเปลวเพลิงก็ยิ่งปลุกเร้าความปรารถนาในกายให้ลุกโชนแทบกัดกร่อนจิตวิญญาณจนทุรนทุรายอย่างครอบครอง
หากแต่ผู้ชายที่จะได้ครอบครองหญิงสาวจะต้องเป็นเขาเท่านั้น!
เปลือกตาบางหลุบต่ำรับรู้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่จ้องมองมาจนเธอรู้สึกอึดอัดไม่กล้าขยับตัว ดาราฉายพยายามทำใจให้นิ่งเข้าไว้บังคับตัวเองไม่ให้หันกลับไปมองว่าสายตาคู่นั้นเป็นของใคร ส่วนหนึ่งเป็นเพราะไม่กล้า และอีกส่วนก็รู้สึกกลัวอยู่ในใจว่าสายตาคู่นั้นจะเป็นของคนที่เธอเฝ้ารอมานาน
ความรู้สึกในตอนนี้มันเหมือนกับตอนนั้นไม่มีผิด หรือบางทีเธออาจจะคิดมากไปเอง
“พาฉันกลับห้องได้แล้ว”
“เอ๋ งานประมูลยังไม่จบดีเลยนะ เธอจะรีบกลับแล้วเหรอ”
“พาฉันไปเดี๋ยวนี้!” ดาราฉายไม่สนใจคำถามของเพื่อนสาวตะคอกเสียงต่ำกลับไปอย่างลืมตัว เมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายแสดงอาการตกใจ เธอถึงได้คลายสีหน้าเคร่งขรึมของตัวเองลง ตอนนี้เธอกำลังเครียดแต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องมาพาลใส่คนอื่น
“ดิว...เธอโอเคหรือเปล่า” แองจี้ถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นใบหน้าของอีกฝ่ายซีดมาก
“ฉันเพลีย อยากพักผ่อน เธอช่วยพาฉันกลับห้องตอนนี้ได้ไหม หรือถ้าเธอไม่ว่าง ฉันกลับเองก็ได้” ดาราฉายถามเองตอบเองเสร็จสรรพ ถึงจะรู้ว่าตอนนี้แม้แต่แรงจะลุกขึ้นยืนยังไม่มี แต่จะให้เธอนั่งรออยู่อย่างนี้คงไม่ได้ เธอยังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับเขา