บทที่ 1 การกลับมาของเขา (1)
สิบปีผ่านไป
เดอะวันยังคงวุ่นวายเหมือนกับทุกวัน ทั้งการเข้าพักผ่อนของธรรมดาของแขกและการเข้าใช้บริการของวันวิว วันนี้มีการประมูลวันวิวอันดับหนึ่งของเดอะวัน ทำให้แขกมหาเศรษฐีมาเข้าร่วมประมูลเป็นจำนวนมาก สถานที่จัดงานประมูลอยู่ในห้องนิรภัยขนาดใหญ่ซึ่งเก็บซ่อนอยู่ตรงชั้นใต้ดิน ต่อให้วันนี้มีพวกตำรวจแฝงตัวเข้ามาก็ยากที่จะหลุดรอดออกไปได้ แล้วถ้าลูกค้าคนไหนคิดจะชิ่งหนีไม่ยอมจ่ายค่าประมูลเพราะหวังเข้ามาป่วนงานเล่น ๆ ก็คงต้องได้รับบทเรียนก่อนหนีออกไป
เซเรน่าเป็นหญิงสาวที่ได้ถูกคัดเลือกมาประมูลในครั้งนี้ หญิงสาวมีรูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นอยู่ในชุดผ้าแพรเรียบลื่นสีชมพูอ่อนหวานเข้ากับผิวขาวนวลลออเฉิดฉาย ดวงหน้าพริ้มเพรานุ่มนวล หากแต่แฝงไว้ด้วยเสน่ห์อันเย้ายวนที่ยากจะห้ามใจ ช่วงคอที่ปาดลึกเผยให้เห็นเนิ่นอกอิ่มกลมกลึง เพียงแค่เห็นเท่านั้นก็เรียกเลือดลมสูบฉีดได้ไม่ยาก มีชายหนุ่มหลายคนที่ตาลุกวาวแทบอยากจะพุ่งขึ้นมาลากตัวสาวน้อยน่ารักไปบำเรอ
ดาราฉายที่เห็นภาพนั้นจนชินตาก็แอบกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย อันที่จริงเธอหายหัวออกไปจากที่นี่นานแล้ว แต่เมื่อไม่กี่เดือนก่อนก็ได้รับสารขอความช่วยเหลือจากผู้มีพระคุณ เดิมทีเธอตอบปฏิเสธแต่สักพักก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะทนต่อการรบเร้าขอความช่วยเหลือขออีกฝ่ายไม่ไหว ที่สำคัญบุญคุณที่เคยช่วยเหลือกันไว้เมื่อคราวก่อนก็จำเป็นต้องได้รับการตอบแทน
ถึงตอนนั้นจะเกิดเรื่องขึ้นแต่ก็ใช่ว่าเธอจะเนรคุณได้ เธอระลึกไว้เสมอว่าถ้าไม่ได้มือที่ยื่นมาช่วยเหลือในวันนั้น ชีวิตของเธออาจต้องลำบากมากกว่านี้ แล้วเรื่องที่อีกฝ่ายขอให้ช่วยก็ไม่ได้เหลือบ่ากว่าแรง เธอจึงตอบตกลงกลับไป แล้วหลังจากนั้นเป็นต้นมาเธอก็มานั่งรับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเดอะวันแทนผู้มีพระคุณที่ป่วยหนักซึ่งกำลังเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล
จากเด็กสาววัยสิบแปดปีกลายเป็นหญิงสาววัยสะพรั่ง ใบหน้าที่เคยสวยหวานกลายเป็นสวยคม ดวงตาเปี่ยมเสน่ห์เย้ายวนอย่างที่ผู้ชายคนไหนเห็นเป็นต้องตกตะลึงเผลอจ้องค้างอยู่ร่ำไป ในขณะที่รูปร่างกลับอรชรอ้อนแอ้นมากขึ้นดูมีน้ำมีนวลคล้ายกับจับนิดจับหน่อยหยุบหยับนุ่มนิ่ม ผิวพรรณดูผุดผ่องขาวเนียน ริมฝีปากเอิบอิ่มฉ่ำน้ำอยู่ตลอดเวลา แต่ที่ทำให้ทุกคนจับจ้องมากเป็นพิเศษเห็นจะเป็นสองเต้ากลมกลึงที่มีขนาดใหญ่เกินจนละลานตาไปหมด
ผู้หญิงส่วนใหญ่รู้สึกอิจฉาแต่ใครจะรู้ว่าเจ้าตัวกลับรู้สึกรำคาญจนอยากจะตัดทิ้ง!
ถ้าขืนมันใหญ่มากกว่านี้ ต่อไปเธอคงต้องใช้นมเดินแทนเท้าแล้วละ!
ร่างเพรียวนั่งเท้าคางเอนกายกับพนังพิงอย่างเกียจคร้านมองดูหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ทำหน้าหื่นกระหายเอาแต่จ้องนมวันวิว เธอรู้ว่ามันเป็นเรื่องปกติที่ทุกคนในที่นี้จะต้องเปิดเผยเนื้อตัวโดยเฉพาะเด็กที่มาเข้าประมูล ยิ่งท่าทางโปรยเสน่ห์เล่นหูเล่นตาใส่แขกแบบนั้นเธอก็ต้องทำใจให้ชิน ถึงจะรู้ว่าเด็กพวกนี้ยังอายุน้อยเกินกว่าจะมาทำเรื่องแบบนี้ แต่ชีวิตใครก็ชีวิตมัน พวกเธอมีสิทธ์เลือกเส้นทางให้กับชีวิตตัวเอง เธอจึงไม่สามารถบังคับหรือฝืนใจใครได้ ตัวเธอมีหน้าที่ปั่นหน้านิ่งเท้าคางมองดูอยู่ห่าง ๆ เท่านั้น ก็แค่ทำหน้าที่เป็นหุ่นเชิดรักษาการณ์แทนมันจะไปยากอะไร
“แต่อยู่นาน ๆ มันก็น่าเบื่อนะ เฮ้อ” เสียงหวานบ่นอุบกับตัวเองก่อนจะถอนหายใจยาว เมื่อการประมูลยังไม่สิ้นสุดลงสักที
เวลาผ่านไปแล้วไปเล่าจนกระทั่งการมาประมูลมาถึงคนสุดท้ายซึ่งเป็นวันวิวอันดับหนึ่งของเดอะวัน ในที่สุดก็ถึงเวลาที่ทุกคนรอคอย ดาราฉายขยับตัวลุกขึ้นนั่งด้วยความสนใจ ชักอยากรู้แล้วว่าใครจะได้เป็นชายผู้โชคดีได้ตัวเซเรน่าไป อันที่จริงเธอก็ไม่ได้ตื่นเต้นดีใจอะไรขนาดนั้น แต่ถ้าเป็นไปได้ก็อยากอวยพรให้เซเรน่าได้ลูกค้าที่ดีไป
เพราะถ้าได้ลูกค้าดี ๆ ไม่แน่ว่าเซเรน่าอาจหลุดจากสถานะนี้ก็ได้
การขายบริการใช้เรือนร่างหากินไม่ใช่เรื่องสนุกหรอกนะ เธอค่อนข้างเห็นใจกับผู้หญิงทุกคนที่ทำงานประเภทนี้
“และแล้วเวลาที่ทุกท่านรอคอยก็มาถึง ขอเชิญวันวิวอันดับหนึ่งก้าวมาหยุดอยู่หน้าเวทีด้วยค่ะ...!!!”
เสียงลากยาวประกาศเรียกชื่อวันวิวอันดับหนึ่งผ่านไมโครโฟน ท่ามกลางเสียงปรบมือและโห่ร้องด้วยความพอใจกับสาวงามอันดับหนึ่งของเดอะวัน เมื่อเซเรน่าเดินมาถึงหน้าเวที หญิงสาวก็โปรยยิ้มเย้ายวนให้กับแขกทุกคน ไม่ว่าวันนี้ใครจะเป็นผู้ชนะการประมูล เธอก็มีหน้าที่บริการให้อย่างถึงอกถึงใจอยู่แล้ว เมื่อเธอเลือกที่จะทำหน้าที่นี้ก็ต้องยืนหยัดและภาคภูมิใจกับมัน ถึงทางเลือกของเธอจะมีไม่มากแต่ถ้าลองได้เลือกแล้ว นั่นก็แปลว่าเธอเต็มใจที่จะทำมัน
“เซเรน่าสวยดีนะดิว”
เสียงของคนข้าง ๆ ทำให้ดาราฉายปรายตาไปมองเพียงเล็กน้อยเท่านั้นก่อนจะลากสายตากลับอย่างไม่สนใจ แต่อีกฝ่ายกลับรู้ดีว่าเธอไม่ได้ไม่สนใจซะทีเดียว แค่ทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น เรื่องราวของเธอกับเพื่อนสาวมันเกิดขึ้นมานานแล้ว เธอเองก็คร้านที่จะใส่ใจ
หลังจากที่เกิดเรื่องในคราวนั้นเธอก็รีบหนีออกมาจากเดอะวัน กะเอาไว้ว่าชาตินี้คงไม่ได้พบเจอกับเขาอีก ซึ่งก็เป็นไปตามที่หวัง สิบปีมานี้เขาหายเงียบเข้ากลีบเมฆไปเลย ขนาดมีหลายครั้งที่เธอมาแอบซุ่มดูว่าจะพบเงาหรือร่างเขาหรือไม่ แต่สิ่งที่ได้ก็เหมือนเดิม เธอเองก็ไม่กล้าเข้าไปถามโดยตรงว่ามีคนมาถามหาเธอบ้างหรือไม่ ส่วนหนึ่งเป็นพบอาย ส่วนอีกหนึ่งก็เป็นเพราะว่าจะรับรู้ความจริงที่เขาอาจไม่เคยมาปรากฏที่นั่นอีกเลยก็ตาม
การรอคอยเป็นสิ่งที่ทรมาน จนกระทั่งมันค่อย ๆ ถูกแทนที่ด้วยความชินชา ในที่สุดก็กลายเป็นไม่รู้สึกอะไร แต่นั่นคงเป็นเรื่องตลกที่สุดในชีวิต เพราะในความเป็นจริงเธอยังคงคิดถึงเขาทุกลมหายใจเข้าออก จะมีใครลืมผู้ชายคนแรกได้ แล้วยิ่งถ้าคนคนนั้นเป็น ‘พ่อ’ ของลูกเธอ เธอจะลืมเขาได้อย่างไร