บทที่ 1 อยากหอน (2/2)
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ยังไม่ทันที่เธอจะได้เดินเข้าไปดูเจ้าจิ้งจอก เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นขัดจังหวะทำให้หลิวเมี่ยวเมี่ยวเดินวนไปวนมาด้วยความกระวนกระวาย แม้เธอจะมีเงินมากมายแต่การหาคอนโดที่หรูหราย่านใจกลางเมืองที่ถูกอกถูกใจเช่นนี้คงเป็นเรื่องที่ยากเย็นนัก
“จะทำยังไงดี ๆ” ความตระหนกทำให้เหงื่อมากมายผุดขึ้นเต็มกรอบหน้าของเธอ แต่เสียงเคาะประตูกลับดังถี่ขึ้นเรื่อย ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ไม่ว่าอย่างไรเธอก็ต้องเอาตัวรอดจากสถานการณ์นี้ไปให้ได้ เมื่อคิดได้ดังนั้นมือบางก็กดปิดม่านกั้นระหว่างห้องกับระเบียงเอาไว้ โดยหวังเพียงแค่ว่าเจ้าจิ้งจอกนั่นจะไม่หอนขึ้นมาระหว่างที่เธอกำลังแก้ตัวหรือไม่ก็ขออย่าให้เขาคลุ้มคลั่งจนถึงขั้นกระโดดออกจากระเบียงไป ไม่เช่นนั้นคงได้ดับอนาถอย่างแน่นอน คอนโดของเธออยู่สูงถึงเพียงนี้
“มาแล้วค่ะ”
หลิวเมี่ยวเมี่ยวเปิดประตูก่อนจะปั้นหน้ายิ้มรับนิติคอนโดที่เป็นคุณป้าวัยทองกำลังนิ่วใบหน้าขึ้นด้วยความไม่พอใจ
“เมื่อกี้มีคนโทรไปแจ้งว่าได้ยินเสียงหมาหอนดังมาจากห้องของคุณ คุณได้เลี้ยงสุนัขเอาไว้หรือเปล่า”
“ไม่นะคะ ถึงฉันจะเป็นสัตวแพทย์แต่ฉันไม่ชอบเลี้ยงสัตว์ค่ะ เป็นเสียงโทรทัศน์จากห้องอื่นหรือเปล่าคะ รบกวนคุณป้าตรวจสอบอีกทีนะคะ”
“หวังว่าคุณจะรู้กฎของคอนโดเราดี หากทางเราตรวจพบว่าคุณซ่อนสัตว์เลี้ยงเอาไว้ ต่อให้คุณร่ำรวยมาจากไหนเราก็ต้องเชิญคุณออกค่ะ”
“ไม่มีแน่นอนค่ะ” หลิวเมี่ยวเมี่ยวยิ้มเจื่อนให้กับคุณป้ามหาโหด
“เช่นนั้นไม่รบกวนเวลาพักผ่อนของคุณเมี่ยวแล้วค่ะ ป้าไปก่อนนะคะ ขอโทษที่มารบกวน”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
แล้วคุณป้ามหาโหดก็เดินจากไปพร้อมกับความไม่พอใจ ก็แน่ล่ะนี่มันเป็นเวลานอนใครก็อยากพักผ่อนกันทั้งนั้น เธอเองก็เช่นกันและเมื่อรอดูให้แน่ใจว่าป้าแกกดลิฟต์ลงไปแล้วเธอก็ปิดประตูห้องเพื่อมาจัดการกับหมาบ้าภายในห้องต่อ
“ตายห่_แล้ว”
ผ้าม่านถูกเปิดออกอีกครั้งภาพเบื้องหน้าทำให้สัตวแพทย์สาวหัวใจแทบจะหยุดเต้น เมื่อเจ้าจิ้งจอกขึ้นไปนั่งบนระเบียงที่สูงชันราวกับหมาป่านั่งเห่าหอนประกาศศักดินาบนหน้าผาสูงชันอย่างไม่กลัวตาย พร้อมกับโก่งลำคอเห่าหอนอีกหลายต่อหลายครั้ง
“บ่ะ…บรู๋ววว…โบร๋ววว” เอาเข้าไปสิ เลือดที่ไหลหยดเป็นทาง หาได้ทำให้เจ้าจิ้งจอกหยุดโก่งคอเห่าหอนได้ไม่ แต่กลับทำให้เขามีพละกำลังหอนรับแสงจันทร์อย่างบ้าคลั่ง หางทั้งเก้าก็สะบัดไปมาท่ามกลางสายลมที่พัดแรงตามความสูง หากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าวันพรุ่งนี้เธอคงได้เก็บข้าวของแล้วหาคอนโดอยู่ใหม่เป็นแน่
“เจ้าจิ้งจอก มันอันตรายหากเจ้าจะหอนช่วยลงมาข้าล่างจะได้ไหม” หลิวเมี่ยวเมี่ยวเอาน้ำเย็นเข้าลูบ เธอพร่ำบอกเขาด้วยน้ำเสียงที่เยียบเย็นทั้งที่ในใจนั้นราวกับไฟบรรลัยกัลป์ที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่ง
“ไม่ อยู่บนนี้ข้าได้อาบแสงจันทร์อย่างเต็มที่ เจ้าอย่ามาห้ามข้า!”
“แน่ะ พูดดี ๆ ไม่ชอบ จะลงไม่ลง” หลิวเมี่ยวเมี่ยวกัดฟันกรอดอย่างหมดความอดทน
“ไม่ข้าลง อย่ามายุ่งกับข้า จะไปที่ใดก็ไป!”
‘ฉันเป็นเจ้าของที่นี่แท้ ๆ แต่กลับโดนจิ้งจอกแปลกหน้าไล่เสียได้’
หลิวเมี่ยวเมี่ยวกำมือแน่นจนเส้นเลือดขึ้น ระยะเวลาล่วงเลยผ่านจนเธอโงนเงนด้วยความอ่อนล้า ความวุ่นวายในค่ำคืนนี้ให้มันจบลงแต่เพียงเท่านี้เถอะ พรุ่งนี้ค่อยว่ากันใหม่
เธอสาวเท้ากลับไปยังกระเป๋าอุปกรณ์ที่วางอยู่ ก่อนจะหยิบ Syringe [1] กับ Needle [2] ขนาดเหมาะสมประกอบเข้าด้วยกัน มือบางควานหาขวดยาที่มีป้ายกำกับระบุเอาไว้ว่า Xylazine [3] ก่อนจะใช้ Syringe ดึงยาออกจากขวดประมาณ 0.1 - 1 มก./กก. ด้วยความชำนาญตามวิชาชีพของตัวเองและเดินกลับไปยังเจ้าจิ้งจอกที่กำลังคลุ้มคลั่งด้วยท่าทางเรียบเฉย
“เจ้าจิ้งจอก…”
“ก็บอกแล้วอย่างไรว่าอย่ามายุ่ง…”
ฉึกก
เข็มฉีดยาในมือของหลิวเมี่ยวเมี่ยวถูกปักลงไปยังบริเวณ Cephalic vein อยู่ด้านหน้าของขาหน้าทังสอง ใต้ข้อศอกลงมา โดยที่เธออาศัยการเปรียบเทียบร่างกายของมนุษย์เทียบกับร่างกายของจิ้งจอก แม้จะเป็นเพียงการคาดเดาว่าจุดที่จิ้งจอกเช่นเขาจะสิ้นฤทธิ์ได้ กลับแม่นราวกับถูกคำนวณมาอย่างดี จนร่างของเขาโอนเอนตกลงมาบนพื้นหลังจากที่ได้รับยาเข้าสู่หลอดเลือดดำราว 3 - 5 นาที
[1] Syringe กระบอกฉีดยา
[2] Needle เข็มฉีดยา
[3] Xylazine ยาสลบสำหรับสัตว์ ปริมาณการใช้ข้างต้นที่ระบุเป็นเพียงข้อมูลคร่าว ๆ เพื่ออรรถรสในการอ่านเท่านั้น ไม่ได้เป็นจำนวนที่ใช้งานจริง ส่วนการใช้งานจริงนั้นขึ้นอยู่กับความเหมาะสม
ของสัตวแพทย์ผู้ดูแลเท่านั้น