บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 อยากหอน (1/2)

หลิวเมี่ยวเมี่ยวนั่งสงบสติอารมณ์ปรับความรู้สึกให้รับในเรื่องราวประหลาดที่เกิดขึ้น โดยที่ชายหนุ่มแปลกหน้านั้นกำลังนอนงอตัวอยู่บนพื้นห้องหลังจากที่เธอดึงหางของเขา

“ฉันขอโทษ คงจะเจ็บมากใช่ไหม” เธอเป็นถึงสัตวแพทย์ไม่ว่าอย่างไรความเมตตาที่มีต่อสัตว์ของเธอก็ท่วมท้นอยู่ภายในใจ ร่างบางเดินเข้าไปใกล้ร่างมนุษย์จิ้งจอก ก่อนจะพยุงเขาขึ้นไปนั่งบนโซฟาหรูที่เบื้องหน้าเห็นแสงสีของเมืองและพระจันทร์บนท้องฟ้าได้เป็นอย่างดี

“เจ้าไม่มีหางเหมือนกับข้า เจ้าคงไม่รู้กระมังว่ามันเจ็บปวดราวกับโดนคมมีดกรีดลงไปบนร่าง” เสียงของเขาแผ่วลงจนเธออดที่จะสงสารไม่ได้

“ฉันขอโทษก็แล้วกันนะ” หลิวเมี่ยวเมี่ยวเอ่ยขึ้นด้วยความรู้สึกผิด

“น่ะ…นั่น ดวงจันทร์เต็มดวงหรือนี่” ชายแปลกหน้าเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักทันทีที่เขาเงยใบหน้าจนดวงตาสีฟ้าครามสบกับดวงจันทร์ที่ส่องประกายสีเหลืองนวลเต็มดวง

“ใช่สิ วันนี้ดวงจันทร์เต็มดวงสวยดีใช่ไหมล่ะ” หลิวเมี่ยวเมี่ยวมองผ่านระเบียงคอนโดของตัวเองไป ดวงจันทร์ก็ลอยเด่นเป็นสง่ากลมโตสุกสกาวมองเห็นรัศมีแสงสีเหลืองนวลได้อย่างชัดเจน แต่ทว่าเจ้าจิ้งจอกข้างกายกลับมีอาการทุลนทุลายขึ้นมา

“เจ้าจิ้งจอก เป็นอะไรไป”

เธอเองก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่อยู่ดี ๆ เจ้าจิ้งจอกก็มีอาการไม่ดีเช่นนี้ ใบหน้าของเขาซีดเผือดจนไร้สีเลือดหรือจะเป็นเพราะว่าเธอดึงหางของเขาอย่างแรงจนส่งผลต่อระบบประสาทของเขา เมื่อคิดได้ดังนั้นหลิวเมี่ยวเมี่ยวก็รีบเดินเข้าไปหยิบ Strethoscope [1] ที่อยู่ในกระเป๋าอุปกรณ์ที่เธอมักจะพกติดตัวเอาไว้เสมอเวลาที่เธอเจอสัตว์ป่วยฉุกเฉินจะได้เข้าช่วยเหลือได้ทันการณ์

ระหว่างที่หลิวเมี่ยวเมี่ยวกำลังหยิบ Strethoscope อยู่นั้น สายตาของเธอก็คอยมองเพื่อดูอาการของเจ้าจิ้งจอกอยู่ตลอด จนกระทั่งเขาในร่างมนุษย์นั่งชันเข่าเลียนแบบท่านั่งของสุนัข ดวงตาคมเข้มของเขาจะหันมาทางที่เธอยืนอยู่ ก่อนจะขยับริมฝีปากที่เธออ่านได้ว่า…

“ข่ะ…ข้า…ข้าอยากหอน บ่ะ…โบร๋ว”

และเมื่อเขานั่งชันขาเลียนแบบท่าทางของสุนัข เขาก็ขยับริมฝีปากส่งเสียงร้องโหยหวนออกมาราวกับเสียงของหมาป่าบนเนินเขาในป่ารกทึบตามสัญชาตญาณในวันพระจันทร์เต็มดวง และเสียงที่ดังสนั่นไปทั่วทั้งห้องและเกรงว่าอีกไม่นานเสียงของเขาจะต้องดังก้องไปทั่วทั้งคอนโดเป็นแน่

“ชิบห_ย ล่ะสิ”

หลิวเมี่ยวเมี่ยวถึงกับเบิกตาโพลงอีกครั้ง เมื่อเจ้าจิ้งจอกตัวดีกำลังจะโก่งลำคอเพื่อส่งเสียงหอนขึ้นอีกครั้ง

“บ่ะ…บรู๋ว โฮกกกกก”

“เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย นอนก็ไม่ได้นอน แถมยังต้องมาจัดการหมาที่กำลังหอนอีก ซวยชะมัด”

หลิวเมี่ยวเมี่ยววาง Strethoscope ในมือลงเมื่อคิดว่าตอนนี้เธอคงไม่ต้องใช้มันเพื่อตรวจอาการใด ๆ อีกแล้วสิ่งที่เธอต้องทำคือต้องจัดการเจ้าจิ้งจอกที่กำลังหอนด้วยความโหยหวนตอน 02.00 น. และโชคดียิ่งนักที่พรุ่งนี้เป็นวันหยุดของเธอไม่อย่างนั้นไม่อยากจะคิดสภาพของตัวเองในวันพรุ่งนี้เลยจริง ๆ

“นี่เจ้าจิ้งจอก หยุดหอนเดี๋ยวนี้นะ นายกำลังทำให้คนอื่นแตกตื่นทั้งกันคอนโด” เธอรีบเข้าไปห้ามปรามเขาเพื่อหวังให้เขาหยุดหอนแต่ทว่า

“ข้าหยุดไม่ได้…มันเป็นสัญชาตญาณของข้า ข้าต้องอาบแสงจันทร์ ข้าไม่ไหวแล้ว”

ไม่ว่าเปล่าจิ้งจอกร่างมนุษย์ก็ตรงดิ่งไปยังระเบียงที่มีกระจกกั้นทันที โดยที่เขาไม่ได้ใช้มือเปิดบานเลื่อนที่ทำจากกระจกแต่อย่างใด ทว่ากลับพุ่งตรงออกไปโดยที่เธอส่งเสียงร้องห้ามแต่ก็…ไม่ทันเสียแล้ว

“ระวัง!”

พลั่กกกก เพล้ง

เสียงร่างใหญ่โตของมนุษย์จิ้งจอกกระแทกเข้ากับบานกระจกจนเกิดเสียงที่ดังสนั่น พร้อม ๆ กับเสียงกระจกแตกที่กำลังร่วงกราวจนกระจายเต็มพื้น

“โอ๊ย ปวดหัวชะมัด”

เสียงทุ้มร้องขึ้นด้วยความเจ็บปวด ฝ่ามือหนายกขึ้นกอบกุมศีรษะที่ดูเหมือนว่าจะเป็นส่วนที่รับแรงกระแทกมากที่สุด สิ่งที่หลิวเมี่ยวเมี่ยวมองเห็นคือเลือดสีแดงสดกำลังไหลย้อยลงมาจากหน้าผากจนเปรอะเปื้อนเส้นผมสีเงินยวงของเขาราวกับย้อมสี

“เจ้าจิ้ง…”

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

[1] Strethoscope หูฟังของหมอ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel