บทที่.2 จรสจันทร์ ปัทมาพร 1/2
จรสจันทร์เก็บเสื้อผ้าของใช้อันน้อยนิดที่มีอยู่ในห้องใส่ลงในถุงผ้า หลังจากกวาดสายตาดูจนทั่วว่าไม่เหลือสิ่งใดตกหล่น เธอจึงก้าวออกไปจากห้องนอน พีลาแม่บ้านประจำเหมืองมีหน้าที่ทำอาหารแจกคนงานในเหมือง และดูแลบ้านพักของเกอร์เตส สาวใหญ่ใจดีกับเด็กสาวแบบจรสจันทร์ สอนให้ทำอาหารและสอนภาษาสเปนให้ ไม่ตวาดข่มขู่เหมือนคนงานอื่น ที่มักจะตวาดจรสจันทร์เสียงดัง ยามที่เด็กสาวทำงานผิดพลาด พีลารูปร่างเจ้าเนื้อผิวดำ เพราะเป็นคนท้องถิ่นเชื้อสายอินเดียแดง จรสจันทร์เรียนรู้เร็วเพราะชื่นชอบที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ เวลาเกือบ3เดือนที่อยู่ในเหมืองแร่แห่งนี้จรสจันทร์สามารถเรียนรู้และสื่อสารกับคนอื่นๆ ได้ มีเพื่อนพูดคุยปรับทุกข์ได้ก็คือ ราเชษฐหนุ่มใหญ่วัย35ปีที่ทำงานเป็นคนงานในเหมืองแร่แห่งนี้ด้วย ชายหนุ่มมักจะแวะมาคุยด้วยจนจรสจันทร์คลายความกลัว
เกอร์เตสให้จรสจันทร์ทำงานในโรงครัวมีน่าที่จิปาถะทั่วไปแล้วแต่จะมีใครใช้กับเก็บถ้วยจานไปล้างทำความสะอาด หลังจากที่คนงานทานกันจนอิ่มหนำสำราญ กว่าจะได้หลับได้นอนก็ดึกดื่น แต่ต้องตื่นแต่เช้าตรู่ขึ้นมาเตรียมของเพื่อเริ่มงานวันใหม่ จรสจันทร์คิดว่ามันก็คงดีกว่าเข้าไปทำงานในเหมืองที่มีแต่ฝุ่นและโคลนตม
“โอ...มาๆ นึกแล้วเชียวคุณว่าสักวันต้องเกิดเรื่อง อยากจะขอให้หนูรสมาอยู่ด้วยกันเสียที่นี่ก็เกรงใจคุณเห็นว่าแบกภาระเยอะแล้ว แต่รับมาดูแลแล้วก็น่าจะช่วยให้ถึงที่สุด นึกว่าทำบุญช่วยเหลือลูกนก ลูกกา พระองค์ท่านตรัสไว้ อีกอย่างคุณจะได้มีคนดูแลเพิ่มขึ้น พีลาไม่ไหวแล้วล่ะแก่แล้วก็อยากนอนพักเยอะๆ” พีลาตบอกอวบๆ ของตัวเองฉาดใหญ่หลังจากที่เกอร์เตสปลุกสาวใหญ่ขึ้นมาเพื่อหาห้องหับให้เด็กสาวได้มีที่นอน
“อืม...ไปเถอะ เช้าต้องลุกขึ้นมาแต่เช้านี่ แยกย้ายกันไปนอนดีกว่า ฉันง่วงเต็มที” เกอร์เตสโบกมือไล่ทั้งสองคน เขาเดินจากไปเงียบๆ เขาทรุดนั่งในห้องรับแขกภายในบ้านพักของตัวเอง เงยใบหน้ามองฝ้าเพดานบ้าน ย้อนนึกถึงอดีตในวัยหนุ่ม กว่าจะมีวันนี้ได้...เขาต้องต่อสู้ดิ้นรน ล้มลุกคลุกคลานอยู่นาน จนสามารถผงาดขึ้นมาในถิ่นธุระกันดารแบบเม็กซิโกได้ ความโชคดีบวกกับความมานะ ทำให้ตอนนี้เกอร์เตสมีพร้อมทุกสิ่ง ยกเว้นครอบครัวและคนรู้ใจ ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นยืน เขาสะบัดหน้าแรงๆ ให้เรื่องราวเลวร้ายแต่หนหลังหลุดออกไปจากความทรงจำ แล้วจึงเดินขึ้นไปชั้นบนของตัวบ้าน เหลือบมองแสงไฟที่ห้องพักของพีลาอย่างหมายหมั้นปั้นมือ เด็กสาวอยู่ใต้จมูก อีกไม่นานก็คงจะได้ชื่นชมหล่อนสมใจ แค่รอจังหวะ และเวลาสุกงอมจะได้ดื่มกินผลไม้หอมหวานรสชาติละมุนละไมให้เต็มคราบ
บ้านไม้สะอาดดูดีกว่าที่จรสจันทร์เคยอยู่ ประตู หน้าต่างแข็งแรงแน่นหนาปลอดภัย แถมยังอยู่ติดๆ กับห้องของพีลาแม่บ้านประจำเหมือง จรสจันทร์จัดข้าวของอันน้อยนิดที่มีอยู่ เก็บไว้ในตะกร้าใบหนึ่งมุมห้อง หล่อนคลานไปซุกตัวบนที่นอนยับๆ คู้หัวเข่าขึ้นกอดไว้ และซบหน้าลงสะอื้นไห้ออกมาแผ่วๆ เธอทั้งหวาดกลัวและทุกข์ตรม ดินแดนห่างไกลแปลกถิ่น ภาษาที่ใช้ก็แตกต่าง แถมยังจนปัญญาที่จะหาทางช่วยเหลือพ่อกับแม่ เพราะอยู่ไกลคนละมุมโลก ในเมื่อตัวเองยังยากที่จะอยู่รอดปลอดภัยในถิ่นแดนเถื่อนๆ เช่นนี้ น้ำตาอุ่นๆ ไหลกลบหน้า ขดตัวหลับใหลบนที่นอนเก่าโทรมด้วยความอ่อนเพลีย เพราะทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน
ก็อกๆ...
จรสจันทร์สะดุ้งตื่นขึ้นมาตอนใกล้ฟ้าสาว เธอผวาสุดตัว!! เมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูหน้าห้อง ดวงตากลมโตจ้องเขม็งไปที่ประตูห้องนอน แม้จะปิดสนิท แต่ก็อดไม่ได้ที่จะหวั่นวิตก ก่อนจะถอนลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ หลังได้ยินเสียงพีลาร้องเรียก
“หนูรส...ออกมาล้างหน้าแปรงฟันได้แล้ว พีลาจะไปโรงครัว จะได้ไปพร้อมกัน” สาวอวบเรียกเด็กสาวในความดูแลเสียงดัง
“รสตื่นแล้วจ้ะพีลา รอแปบเดียว” จรสจันทร์รีบพับผ้าห่มที่เป็นสมบัติหนึ่งในหลายชิ้นที่คนงานในเหมืองมอบให้ในวันที่จรสจันทร์ฟื้นคืนสติขึ้นมา เสื้อผ้าของใช้หลายสิ่งถูกหยิบยื่นให้ด้วยน้ำใจไมตรี จนจรสจันทร์มีของใช้เพิ่มมากขึ้น