บทที่1. 3/4
เพราะความเผลอเลอจึงลืมปิดบานหน้าต่าง ด้านที่ติดต้นไม้ใหญ่ให้มิดชิด จนทำให้เกิดเหตุการณ์น่าหวั่นกลัวเช่นนี้ เธอค่อยๆ พลิกตัวลงจากเตียงพยายามให้เงียบที่สุด ใช้ความมืดอำพรางตัวตน ก่อนจะคลานเข่าตรงไปยังประตูห้องช้าๆ รีบมองหาวิธีเอาตัวรอด เมื่อชายแปลกหน้าบุกเข้าห้อง เขาคงไม่ได้มีเจตนาดี หญิงสาวจับตามองเงาตะคุ่มๆ ตาไม่กะพริบ มันย่างสามขุมตรงมายังเตียงที่เห็นเพียงเงารางๆ แววตาของมันสะท้อนแสงจันทร์จนหญิงสาวผวา!!
โครม!!
มันกระโดดขึ้นไปบนเตียงนอน ก่อนหันมามองด้านหลัง... เมื่อประตูหน้าห้องถูกดันเปิดออกไป ปัง!! เสียงขอบประตูกระแทกพนังดังก้อง ทำให้เกอร์เตสที่กำลังฟัดเฟ้นหน้าอกอวบของเรย่าชะงัก วันนี้อารมณ์หนุ่มพลุ่งพล่าน เขาจึงได้ตามสเรย่ามาหาความสำราญในบ้านพักคนงาน เพราะขี้เกียจเดินทางออกไประบายออกข้างนอกเหมือง คิ้วคมขมวดแน่น ก่อนจะหยัดกายขึ้นยืนด้วยความเสียอารมณ์
“ฉันไปล่ะ...รำคาญ” ชายหนุ่มบ่นพึม คว้าเสื้อเชิ้ตตัวใหญ่ที่เพิ่งจะถอดออกจากร่างกายเหวี่ยงขึ้นพาดบ่า เขาเสียอารมณ์ที่ถูกขัดจังหวะ ความรู้สึกฮึกเหิมเลยสะดุด และหดกลับไปดิ้อๆ ชายหนุ่มทอดสายตามองร่างเกือบเปลือยของเรย่าด้วยแววตาว่างเปล่า เขาสอดมือล้วงกระเป๋ากางเกงโยนเศษเงินเปโซไว้ให้ ไม่สนใจเรือนกายเกือบเปลือยที่นอนหายใจระรัวอยู่กลางเตียง แล้วจึงก้าวเดินฉับๆ ออกไปด้านนอกทันทีที่พูดจบ
“ยัยบ้านั่น!!! ก่อเรื่องอะไรอีกล่ะ ฉันอดงาบเกอร์เตสเลยเห็นไหม กว่าจะล่อมาได้…เสียดายชะมัด” เรย่าบ่นเสียงหงุดหงิด หล่อนมองตามเกอร์เตสไปอย่างเสียดาย และอดไม่ได้ที่จะก่นด่าเด็กสาวข้างห้อง
ชายหนุ่มเปิดประห้องของเรย่าอกมา ทันได้เห็นเด็กสาวที่หมายตา วิ่งหัวซุกหัวซุนออกไปจากห้องของหล่อนพอดีเช่นกัน เขาจึงเดินตามไปห่างๆ จนเห็นว่าเด็กคนนั้น ซุกตัวหลบในพุ่มไม้ เพื่อหลบซ่อนตัวจากใครสักคน ไม่นานเกินรอ... คำเฉลยก็ตามมา คนงานชายหุ่นใหญ่โต ใบหน้าถมึงทึงวิ่งตามมาติดๆ มันกวาดตามองหาเด็กสาวที่หมายตาไว้ ก่อนจะสะดุดกับผู้เป็นเจ้านาย เมื่อนายหนุ่มยืนหน้าตึงอยู่ไม่ไกล
“มึงทำอะไร???...ไม่รู้หรือไงว่าที่นี่มีกฎเหล็ก ถ้าผู้หญิงไม่เต็มใจ...โทษคือความตาย...รู้หรือเปล่าล่ะ” ชายหนุ่มถามเสียงเย็นเฉียบ ใบหน้าเรียบสนิทของเกอร์เตสไม่บอกอารมณ์อื่น แต่กลับรู้สึกขนหัวลุก อลันโซ่จึงยอมเดินจากไปเงียบๆ เขาเสียดายสุดใจ ที่ปล่อยให้เด็กสาวหลุดมือไปอย่างเฉียดฉิว
“ออกมาได้แล้ว...ไม่รู้จักระวังตัวเลยนะ เดี๋ยวก็ได้ผัวแบบไม่ตั้งใจหรอก” ภาษาอังกฤษไม่ค่อยแข็งแรงเกอร์เตสเป็นคนพูด เขายืนหันหลังให้ จรสจันทร์จึงค่อยๆ มุดออกมาจากพุ่มไม้ หลังมองจนแน่ใจว่าผู้ชายแปลกหน้าน่ากลัวคนนั้นไม่ได้อยู่แล้วณ.ที่แห่งนี้แล้ว
จรสจันทร์ละล่ำละลักขอบคุณเสียงสั่น “ขอบคุณๆ...ขอบคุณค่ะ” ลำตัวของเธอสั่นเทาจนเกอร์เตสรู้สึกได้ เขาอยากกอดประครอง โอบกอดหล่อนไว้ในวงแขนและโลมลูบปลอบขวัญ
“เธออยู่ที่นี่คงไม่ปลอดภัยแล้วล่ะ ไอ้หมอนั่นคงไม่ยอมหยุดง่ายๆ จนกว่าจะได้เธอสมใจ ไปนอนกับฉันที่บ้านฉันดีกว่า ปลอดภัยจากคนงานเถื่อนๆ แบบนี้แน่นอน” เกอร์เตสแนะนำเสียงนิ่งๆ หลุบเปลือกตาลงปิดบังแววตาของตัวเองที่ลุกโชน ยามลดสายตามองเนินอกอวบอัดของเด็กสาวที่ไหวกระเพื่อมเพราะแรงหอบหายใจ
“ไม่เป็นไรค่ะ ขอบคุณค่ะ...” จรสจันทร์ปฏิเสธเสียงระรัว เธอรู้สึกหวาดกลัวผู้ชายทุกคนบนโลก เว้นไว้แค่บิดาของตัวเองคนเดียว
“เธอจะปลอดภัยได้อย่างไร เมื่อมีคนคอยจ้องหาโอกาสคุกคามอยู่แบบนี้ ไปนอนที่บ้านฉันดีกว่า ยังไงก็มีพีลาเป็นเพื่อนนอน เห็นเธอเกาะติดแม่บ้านฉันอยู่ไม่ใช่หรือไง ปลอดภัยกว่านอนอยู่ในห้องโทรมๆ นี่ตั้งเยอะ ยังไงบ้านฉันก็คงไม่มีใครกล้าปีนขึ้นหาเธอหรอก” เกอร์เตสหวาดล้อมสุดฤทธิ์