มาเฟีย : 5
"สายที่เราส่งเข้าไปแฝงตัวในแก๊งนี้อยู่ได้ไม่ถึงสองสัปดาห์ก็ถูกเก็บเรียบ"
"เก็บเรียบ!"
น้ำเสียงตกใจกอปรกับใบหน้าที่ซีดเผือดของสายไหมทำเอาสารวัตรหนุ่มรีบเอ่ยขึ้น
"ผมถึงบอกคุณสายไหมว่างานนี้มันอันตรายมาก ถ้าพลาดเพียงแค่นิดเดียวหมายถึง...ชีวิต"
สายไหมกลืนน้ำลายหนืด ๆ ลงคอ ความกลัวเริ่มเกาะกินในใจเธอ สมองเริ่มประมวลถึงผลลัพธ์หากเธอทำพลาด ทว่าด้วยความเป็นห่วงพี่สาวอย่างสุดหัวใจ สุดท้ายจึงสะบัดหัวไหล่ความกลัวเหล่านั้นออกไปแล้วเอ่ยตอบ
"ไหมพร้อมรับภารกิจนี้ค่ะ"
"แต่เราไม่ได้เป็นตำรวจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ กับเรื่องนี้นะ"
สารวัตรทัดเทพพยายามโน้มน้าวให้สายไหมทบทวนดูอีกครั้ง ในใจเขารู้สึกผิดขึ้นมา ครั้งนั้นเขาไม่น่าพลั้งปากว่าจะให้เธอเป็นสายให้เขาเพื่อแลกกับการช่วยเหลือใยหม่อนเลย
"เกี่ยวสิคะ หน้าที่ของพลเมืองดีช่วยจับคนร้ายไง"
ทัดเทพส่ายหัวไปมาเล็กน้อย ก่อนจะผุดรอยยิ้มขึ้นมาที่มุมปากให้กับความใสซื่อของเธอ
"ถ้าคุณสายไหมยืนยัน ทางผมก็จะช่วยคุ้มกันอยู่ด้านนอกอย่างเต็มที่ จำเอาไว้ว่า ถ้าหากเจอเรื่องที่รับมือไม่ได้ และจวนจะถึงทางตัน ให้ชิ่งออกมาทันทีไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น รักษาชีวิตของเราให้ได้ เข้าใจนะ!"
สายไหมพยักหน้าให้คำสัญญา
"ส่วนนี่คือเจ้านายที่เราจะต้องปลอมเป็นเลขาของเธอ"
รูปใบที่สองถูกส่งมาให้ สายไหมรับมาดูพร้อมกับขยับปากถาม
"แล้วนายอัลโดอะไรนั่นจะไม่จับได้เหรอคะว่าไหมเป็นเลขาตัวปลอม"
นี่คือสิ่งที่เธอไม่เข้าใจ จะปลอมอย่างไรให้เนียน หรือว่าต้องทำเหมือนละครที่ต้องผ่าตัดเปลี่ยนใบหน้า
ไม่สิ เวลากระชั้นชิดแบบนี้ผ่าตัดเหมือนในละครไม่ทันแน่
"มาม่าซังคนนี้ทางแก๊งของอัลโดไม่เคยพบเจอหน้ามาก่อน ทั้งสองแก๊งติดต่อค้ามนุษย์กันโดยเอาความจริงใจเข้าแลก"
"มาเฟียก็ชอบทำอะไรเสี่ยง ๆ แบบนี้เหมือนกันเหรอคะ"
ทัดเทพได้ยินสายไหมพึมพำออกมาแบบนั้นถึงกับหลุดขำกับความคิดไร้เดียงสา
"ทุกสิ่งที่พวกมาเฟียทำก็เสี่ยงทั้งนั้นแหละ อยู่ที่ว่าใครจะเร็วกว่า ฉลาดกว่าถึงจะคุมเกมได้"
"สารวัตรดูชำนาญเกี่ยวกับเรื่องพวกนี้นะคะ"
"แหงละ ผมอยู่กองปราบปราม เจอคดีเกี่ยวกับพวกแก๊งมาเฟียมาเยอะ"
สายไหมพยักหน้าเข้าใจ จากนั้นจึงถามต่อ
"แล้วใครจะแสดงเป็นมาม่าซังคนนี้คะ"
"ไม่มี เพราะเราเพิ่งจับกุมมาม่าซังคนนี้ได้เมื่อวันก่อน ผมจึงจะใช้แผนนี้ให้คุณปลอมตัวเป็นเลขาของเธอจะได้ง่ายและอันตรายน้อยลงกับตัวตนจริงของเราเอง"
อ้อ ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง
"ไหมขอถามอีกอย่างได้มั้ยคะ"
"เชิญเลยครับ"
"ถ้าเมื่อวานสารวัตรไม่เจอไหม สารวัตรยังจะใช้แผนนี้ให้คนอื่นปลอมตัวเข้าไปในแก๊งนั้นอยู่มั้ยคะ"
"แน่นอนครับ แต่อาจจะไม่เร็วแบบนี้ ผมคงต้องเลือกเจ้าหน้าที่หน้าใหม่ที่ยังไม่เป็นงาน เพราะหูตาแก๊งนี้ค่อนข้างเยอะ ถ้าใช้คนที่ชำนาญวิชาชีพตำรวจ คนประสบการณ์เยอะเข้าไปจะเสี่ยงต่อการถูกจับได้มาก"
สายไหมนั่งฟังพลางพยักหน้าเก็บเกี่ยวรายละเอียดทั้งหมดให้ได้มากที่สุด
"ปกติน้องไหมดื่มเก่งมั้ยครับ"
"แอลกอฮอล์เหรอคะ ไม่เลยค่ะ นาน ๆ ที พอดีไหมไม่ค่อยมีเพื่อนฝูงเท่าไหร่"
ตั้งแต่เรียนมหาลัยมา สายไหมแทบจะไม่ค่อยเข้าสังคม เธอกลายเป็นเด็กเรียนที่เพื่อน ๆ ในห้องไม่ค่อยเข้าใกล้ยกเว้นตอนที่มีผลประโยชน์
"งั้นคงลำบากแล้ว"
"ทำไมเหรอคะ"
"มาม่าซังคนนี้เธอเป็นนักดื่ม เลขาเธอเองก็ต้องดื่มเป็นเช่นกัน"
"ไหมว่าเรื่องนี้ไม่น่ายาก ถึงจะไม่ชอบดื่ม แต่ไหมดื่มได้ แล้วก็คิดว่าน่าจะมีวิธีเลี่ยงการดื่มจนเมาได้เหมือนกัน"
"หืม? ไหนลองเล่าคร่าว ๆ หน่อยสิครับ"
ทัดเทพรู้สึกถึงความฉลาดลึก ๆ ของผู้หญิงคนนี้
แม้ภายนอกจะดูเปราะบาง แต่เธอกลับไม่อ่อนแอ เหมือนจะหัวอ่อน แต่ไม่ถือว่าเป็นคนโง่เสียทีเดียว
"ถ้าให้ไหมดื่มต่อหน้าพวกเขาไหมดื่มได้แค่พวกคอกเทล เหล้าดีกรีอ่อน ๆ ส่วนวิธีพลิกแพลงไม่ให้ถูกจับได้คงต้องดูตามสถานการณ์นั้น ๆ ไป"
"ถือว่าคุณสายไหมยังมีแผนการในหัวอยู่ เอาเป็นว่าตัวตนของเลขาคนนี้จริง ๆ แล้วดื่มเก่ง แต่เจ้าเล่ห์แล้วกัน"
"ค่ะ"
เป็นการใช้คำได้ตรงจริง ๆ แต่ก็ดีแล้วที่สารวัตรหนุ่มเข้าใจเธอ
"พรุ่งนี้เรามาคุยเรื่องรายละเอียดเกี่ยวกับแผนการเข้าไปปะปนในแก๊งให้ละเอียดอีกทีแล้วกัน พอดีผมมีประชุมด่วน"
"ได้ค่ะ"
"ให้ผมไปส่งที่บ้านมั้ยครับ"
"ไม่รบกวนสารวัตรดีกว่า ไหมขอนั่งเล่นตรงนี้อีกสักพักค่อยกลับค่ะ"
"โอเคครับ งั้นผมขอตัวนะ"
"ขับรถดี ๆ นะคะ"
คล้อยหลังสารวัตรทัดเทพ สายไหมก็เอาแต่ทอดมองไปยังเบื้องหน้า เธอปล่อยให้สายลมเย็น ๆ บวกกับความเย็นอ่อน ๆ ของสายน้ำช่วยชโลมจิตใจเธอให้สงบ
"ไหมต้องช่วยพี่หม่อนออกมาให้ได้ รอก่อนนะคะ"
ไม่รู้หรอกว่าคำตอบพี่สาวเธอจะเป็นเช่นไรหากสายไหมขอร้องให้เธอปล่อยมือจากผู้ชายอันตรายคนนั้น แต่มันคือเรื่องของอนาคต ตอนนี้ขอแค่ได้พบหน้ากับใยหม่อนและเห็นว่าเธอปลอดภัยดีเท่านี้ก็คุ้มที่ต้องเสี่ยงชีวิตแล้ว