บทย่อ
จู่ ๆ เธอก็ติดต่อพี่สาวไหมได้ จึงไปแจ้งตำรวจ จนได้ข่าวว่าพี่สาวเธออยู่ในแก๊งมาเฟีย ทางเดียวที่จะช่วยพี่สาวได้เธอต้องแฝงตัวเข้าไปช่วยพี่สาวด้วยตัวเอง นักศึกษาจบใหม่ที่ต้องเปลี่ยนตัวตนเป็น 'สายลับฝึกหัด' ในแก๊งมาเฟียที่ใคร ๆ ต่างบอกว่า เถื่อน ร้าย โหด และโคตรอันตราย เธอจะทำภารกิจสำเร็จก่อนที่จะถูกจับได้หรือไม่! "คิดเข้าถ้ำเสือ... พร้อมเป็นเหยื่อแล้วสินะ"
บทนำ
"ไหมว่าตัวไหนน่ารัก"
เสียงใสของใยหม่อนถามน้องสาวที่อายุห่างกันสามปีอย่างตื่นเต้น แววตาของเธอยามจ้องมองตุ๊กตาที่กำลังฮิตอย่างลาบูลาบูสีเขียวมะนาวเปล่งประกายยามนึกถึงเจ้าของของขวัญชิ้นนี้
"พี่หม่อนจะซื้อให้ใครอะ"
สายไหมถามพี่สาวพลางจับแขนจับขาตุ๊กตาตัวนั้นเล่น
"คนพิเศษ"
แก้มป่อง ๆ ของใยหม่อนพองขึ้น แก้มนวล ๆ ขึ้นสีระเรื่อเล็กน้อย สายไหมมองหน้าพี่สาวที่เขินอายเหมือนสาวน้อยวัยแรกแย้มที่กำลังมีความรักแล้วหัวเราะล้อเธอเบา ๆ
"พี่หม่อนปีนี้ยี่สิบหกแล้วนะยังจะเขินเหมือนเพิ่งมีแฟนคนแรกอีก"
สายไหมตั้งใจแซวพี่สาวสุดที่รัก
ใยหม่อนและสายไหมสูญเสียพ่อแม่จากอุบัติเหตุทางเครื่องบินเมื่อสี่ปีที่แล้ว ที่สายไหมมีชีวิตสุขสบายอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่เพราะเงินชดเชยจากอุบัติเหตุครั้งนั้นของพ่อแม่เธอ แต่เพราะพี่สาวอย่างใยหม่อนที่ทำงานหามรุ่งหามค่ำทั้งส่งเสียเธอเรียนจนจบปริญญาตรีและจ่ายค่าบ้านค่ารถค่ากิน ทำให้สายไหมรักพี่สาวคนนี้มาก
"ก็ใช่น่ะสิ ไหมก็รู้ว่าพี่ทำงานตัวเป็นเกลียว นาน ๆ จะเจอผู้ชายดี ๆ สายเปย์และรักพี่มาก ๆ แบบนี้มันยากมากนะ"
จมูกรั้นของสายไหมถูกพี่สาวสุดที่รักบีบเล่นเบา ๆ อย่างมันเขี้ยวที่ถูกน้องสาวพูดแทงใจดำทว่าเธอกลับไม่ได้โกรธเพราะรู้ว่าสายไหมแค่พูดเล่น
"จ้า ๆ ไหมจะโชคดีได้เห็นว่าที่พี่เขยในอนาคตวันไหนเนี่ย!"
ใยหม่อนเบี่ยงหน้าหลบเล็กน้อยเมื่อเขินคำว่า 'พี่เขย' ที่หลุดออกมาจากปากน้องสาวสุดที่รัก
ใยหม่อนกับ 'เขา' เพิ่งคบกันได้แค่สามเดือนเองจะเรียก 'พี่เขย' ตอนนี้ยังดูเร็วไปไหม แต่ลึก ๆ ใยหม่อนชอบคำนี้นะ และเธอคิดว่าผู้ชายคนนี้นี่แหละที่สองพี่น้องจะฝากชีวิตไว้ได้
"ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว มาช่วยพี่เลือกดีกว่า เอาสีนี้หรือสีนี้ดี"
คนเขินอายรีบเปลี่ยนกลับมาคุยเรื่องตุ๊กตาที่อยู่ตรงหน้าต่อ สายไหมจึงเลิกล้อพี่สาวแล้วช่วยเลือกตุ๊กตาอย่างจริงจัง
หลังจากตัดสินใจได้แล้วว่าใยหม่อนชอบสีเขียวมะนาวและคิดว่าแฟนของเธอน่าจะชอบด้วยจึงเลือกตัวนั้น ทั้งสองก็จูงมือกันเดินออกมาจากร้านทันที
"พี่หม่อนจะไปไหนต่ออะ กลับบ้านกับไหมเปล่า"
เดินออกมาจากร้านได้ไม่กี่ก้าวสายไหมก็รีบถามพี่สาวที่นาน ๆ ทีจะได้ออกมาเดินเล่นพูดคุยซึ่ง ๆ หน้าแบบนี้
"สายแล้วพี่ต้องรีบเอาของขวัญไปเซอร์ไพร์สว่าที่พี่เขยเรา"
แหม ทีครั้งนี้พูดได้ไม่อายปากเชียวนะพี่สาว
"เฮ้อ...อิจฉาคนโลกทั้งใบเป็นสีชมพูจัง"
สายไหมเชิดหน้าขึ้นทำท่าทางยิ้มกว้างล้อใยหม่อน
"เราก็หาสักคนสิ เรียนจบมาตั้งหลายเดือนแล้วนี่"
สายไหมรีบส่ายหน้า เธอเพิ่งยี่สิบสาม แถมจบช้าเพราะดรอปมาหนึ่งปีช่วงเสียพ่อแม่ไป ยังอยากใช้ชีวิตอิสระไม่อยากหาห่วงมาผูกคอ
"ไม่เอาอะ อยู่กับพี่หม่อนแบบนี้สบายใจกว่า"
"ทั้ง ๆ ที่เจอกันเดือนละครั้งเนี่ยนะ"
สายไหมพยักหน้าพร้อมอมยิ้มไปด้วยว่าเธอพอใจกับสิ่งนี้
"เมื่อไหร่พี่หม่อนจะพาไหมไปทำงานด้วยอะ ไหมยังไม่รู้เลยนะว่าพี่หม่อนเปลี่ยนจากงานที่โรงแรมไปทำงานอะไร แล้วทำงานที่ไหน"
สายไหมสงสัยมานานแล้ว หลังจากใยหม่อนลาออกจากงานที่โรงแรมเมื่อสามเดือนก่อน สายไหมก็เห็นพี่สาวยุ่งกับงานใหม่มาก ไม่กลับบ้าน ไม่ค่อยได้มาเจอหน้าเธอแบบนี้ จะมีโทรคุยบ้าง แต่วันละหนหรือนานสุดก็สามวันครั้ง
"ความลับจ้ะ แต่รับรองไม่ผิดกฎหมายแน่นอน"
"พี่หม่อนอะ"
ถามคำถามนี้ทีไรสายไหมได้รับแต่คำตอบเดิม ๆ ทุกที แต่ช่างเถอะ เธอเชื่อว่าพี่สาวเธอต้องไม่ทำเรื่องไม่ดีแน่นอน
"สายมากแล้วพี่ต้องกลับของจริงแล้ว เรากลับบ้านเองได้นะ"
สายไหมเห็นพี่สาวดูนาฬิกาบ่อยมากจึงคิดว่าเธอน่าจะรีบจริง
"พี่หม่อนรีบเอาของขวัญไปให้ว่าที่พี่เขยหนูเถอะ จะได้รีบไปทำงานต่อ ไหมจะเดินเล่นอีกสักหน่อยค่อยกลับ"
"งั้นก็ดูแลตัวเองดี ๆ นะ มีอะไรโทรหาพี่ได้ตลอด ถ้าพี่ไม่ได้รับสายว่างแล้วจะรีบโทรกลับทันที อ้อ! อีกอย่าง"
ใยหม่อนเดินมาจับมือน้องสาวสุดที่รักขึ้นมากุมไว้อย่างเอ็นดู
"วันนี้เป็นวันสำคัญที่พี่มีความสุขที่สุด จำเอาไว้นะ"
จู่ ๆ มาพูดเรื่องอะไรก็ไม่รู้ วันนี้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดอะไรกัน ทุก ๆ วันพี่ใยหม่อนไม่มีความสุขหรือไร
"ค่ะ ไหมจะจำวันนี้ไว้ให้ขึ้นใจ วันที่ยี่สิบเจ็ดเดือนเจ็ดสองพันสิบเจ็ด"
ใยหม่อนยิ้มกว้างให้น้องสาวที่พูดรายละเอียดของวันนี้เสียครบ ขาดแค่เวลาเท่านั้น
"พี่ไปละ ไว้จะโทรหานะ"
"ขับรถดี ๆ นะคะ บัญชีเดิม อย่าลืมเปย์น้องสาวน้า~"
สายไหมยังไม่เลิกแกล้งพี่สาว ทำเอาใยหม่อนมันเขี้ยวจนต้องเดินกลับมาหยิกแก้มเบา ๆ ค่อยแยกทางกันจริง ๆ จัง ๆ สักที
"พ่อคะ แม่คะ คุ้มครองพี่หม่อนด้วยนะ"
ไม่รู้ทำไมจู่ ๆ สายไหมรู้สึกใจคอไม่ดีเอาเสียเลย ราวกับว่ารอยยิ้มเมื่อครู่ของพี่สาวจะเป็นรอยยิ้มสุดท้ายที่เธอจะได้เห็น