มาเฟีย : 1
'เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้'
นี่เป็นรอบที่เท่าไรแล้วไม่รู้ที่สายไหมกดโทรหาเบอร์เดิมซ้ำ ๆ แต่สายกลับตัดไปจนติดต่อไม่ได้ ในใจเธอร้อนรนเมื่อจู่ ๆ พี่สาวที่แสนดีก็ขาดการติดต่อไปถึงหนึ่งสัปดาห์เต็ม
"พี่หม่อนไปไหนของเขา หวังว่าคงไม่เป็นอะไรไปนะ"
ปากจิ้มลิ้มพึมพำเบา ๆ ตาก็จ้องหน้าจอทัชสกรีนที่มีเบอร์โทรของพี่สาวโชว์อยู่แต่กลับไม่มีคนรับสาย
ปกติทั้งสองคนจะขาดการติดต่อกันไม่เกิน 2-3 วันครั้ง หากไม่ได้คุยสายก็จะคุยแชตกันทุกวันแทน แต่นี่สายไหมติดต่อใยหม่อนทั้งสองช่องทางมาเป็นสัปดาห์แล้วแต่พี่สาวเธอกลับไม่เปิดแชตอ่านสายก็ไม่ยอมรับอีก
หัวใจดวงน้อยเป็นห่วงพี่สาวอย่างมาก ตั้งแต่พี่สาวเปลี่ยนที่ทำงานใหม่เธอก็ไม่รู้จักแม้กระทั่งเพื่อนของพี่สาวเธอสักคน ไหนจะแฟนคนนั้นที่พี่สาวซื้อของขวัญไปให้ เธอก็ไม่เคยเห็นหน้า ไม่มีวิธีติดต่อ ตอนนี้เลยไม่รู้จะตามหาพี่สาวเพื่อถามข่าวคราวจากใครดี
"เอาไงดียัยไหม"
สายไหมได้แต่พึมพำกับตัวเอง เดี๋ยวก็เดินวนรอบห้อง เดี๋ยวก็เปิดผ้าม่านมองไปหน้าบ้านเผื่อพี่สาวเธอจะปรากฎตัวขึ้น ทว่ากลับไร้วี่แววของคนที่เธอห่วงหา
ครืน~
โทรศัพท์มือถือในมือสั่นขึ้นครั้งหนึ่ง สายไหมดีใจคิดว่าใยหม่อนติดต่อมาแต่พอปลดล็อกดูกลับพบว่ามันคือเงินเดือนที่พี่สาวจะต้องโอนให้เธอในทุก ๆ เดือนแทน
"ทำไมเยอะจัง"
ปกติใยหม่อนจะส่งเงินเดือนให้น้องสาวด้วยการตั้งโอนล่วงหน้าไว้ทุกเดือน ๆ ละ สามหมื่นบาท แต่ครั้งนี้ยอดเงินที่เข้ากลับมีถึงหกหลัก สายไหมจึงตกใจ รีบกดโทรซ้ำที่เบอร์เดิม
'เลขหมายที่ท่านเรียก...'
ไม่ว่าจะโทรกี่ครั้ง ๆ ก็เจอแต่เสียงตอบรับอัตโนมัติจากระบบของเครือข่าย สายไหมรู้สึกเป็นกังวลหนักกว่าเดิม สิ่งที่เธอคิดได้ในเวลานี้คือ 'แจ้งความ'
ใช่! จะให้เธอสบายใจขึ้นเธอต้องไปแจ้งความคนหายเอาไว้ เผื่อตำรวจจะช่วยตามหาพี่สาวช่วยเธออีกแรง
สถานีตำรวจแห่งหนึ่ง...
"สวัสดีค่ะคุณตำรวจ"
สายไหมรีบมาที่สถานีตำรวจทันทีที่เธอตัดสินใจได้ เลือกเอาสถานีตำรวจใกล้บ้านเป็นอันดับแรกเพราะเผื่อมีคนคุ้นหน้าคุ้นตาเคยเห็นพี่สาวเธอแถวนี้
"สวัสดีครับมีอะไรให้ช่วยเหลือครับ"
เจ้าหน้าที่ประจำเวรท่านหนึ่งอายุน่าจะราว ๆ พี่สาวเธอหรือแก่กว่าไม่กี่ปีถามขึ้นอย่างสุภาพ
"คือว่า... จะมาแจ้งความคนหายค่ะ"
เสียงสายไหมแผ่วเบา เธอไม่แน่ใจว่าวิธีนี้จะเป็นวิธีที่ดีที่สุดหรือเปล่า แต่จนแล้วจนรอดเธอก็นึกทางออกอื่นไม่ได้แล้วจริง ๆ
"คุณผู้หญิงมีความเกี่ยวข้องอะไรกับคนที่หายครับ"
น่าจะเป็นสเต็ปแรกก่อนรับเรื่องหรือเปล่าเจ้าหน้าที่ถึงได้เริ่มซักประวัติเธอก่อน
"คนหายเป็นพี่สาวฉันเองค่ะ นี่ค่ะรูปพี่สาว"
สายไหมยื่นรูปถ่ายของเธอที่ถ่ายคู่กับพี่สาวเมื่อสี่เดือนก่อนตอนที่พี่สาวเปลี่ยนงานใหม่พอดี
"ขอทราบรายละเอียดการหายตัวไปด้วยครับ"
สายไหมนั่งเรียบเรียง เธอควรจะอธิบายอย่างไรดี ควรเริ่มตรงไหน ควรบอกไปไหมว่าไม่แน่ใจว่าสูญหายหรือเธอคิดมากไปเอง สุดท้ายจึงตัดสินใจเล่าชีวิตประจำวันที่เธอทำกับพี่สาวออกไป
สายไหมใช้เวลาให้ปากคำอยู่เกือบชั่วโมง สุดท้ายเจ้าหน้าที่นายนั้นรับเรื่องเธอไว้เป็นการลงบันทึกประจำวันยังไม่ใช่การแจ้งความเพราะเจ้าหน้าที่คิดว่าพี่สาวเธออาจจะยุ่งหรือไม่ก็มีเหตุผลส่วนตัวที่ไม่อยากติดต่อน้องสาวในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงเพราะไม่มีมูลเหตุจูงใจใด ๆ ที่จะเป็นคดีลักพาตัวหรือถูกกักขัง
"เฮ้อ... พี่หม่อนนะพี่หม่อน ทำไมไม่รับสายไหมเลย"
เดินออกมาจากด้านในไม่กี่ก้าว สายไหมก็ถอนหายใจไปแล้วหลายเฮือกเพราะสุดท้ายตำรวจก็ยังช่วยอะไรเธอไม่ได้เต็มที่
มือบางหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเช็กข้อความแชตของพี่สาวดูว่ามีความเคลื่อนไหวหรือเปล่า แต่กลับพบเพียงสถานะเดิมว่ายังไม่มีการเปิดอ่าน
กึก!
"อ๊ะ!"
"ขอโทษครับ"
"ขอโทษค่ะ"
สายไหมมัวแต่ก้มดูโทรศัพท์เลยไม่รู้ว่าด้านหน้ามีคนยืนอยู่จึงชนแผ่นหลังกว้างเข้าเต็มเปา กระเป๋าสตางค์ใบยาวที่หนีบไว้ใต้รักแร้หล่นจนเอกสารบัตรต่าง ๆ ที่ยังเก็บไม่เข้าที่หล่นลงพื้น
"นี่ครับของคุณ"
คนที่ถูกชนก้มลงเก็บของให้เธออย่างสุภาพบุรุษ รอยยิ้มตรงมุมปากนั้นมองแล้วอบอุ่นแถมยังเพิ่มเสน่ห์ให้ใบหน้าตี๋ ๆ หลายส่วน