มาเฟีย : 10
หลังจากพาสายไหมเข้ามายังคฤหาสน์ส่วนตัวแล้ว อัลโดก็จัดที่พักให้เธออยู่ทางห้องปีกซ้ายของตัวบ้าน เป็นโซนที่เขาทำเอาไว้ให้สำหรับแขกที่มาเยือนเข้าพัก จากนั้นเจ้าบ้านอย่างเขาก็กลับเข้าห้องทำงานที่อยู่ตรงกลางของชั้นสอง
"นายคิดอะไรอยู่เหรอครับ"
ราเชนช่วยถอดสูทสีขาวตัวโปรดออกจากร่างกำยำ จากนั้นนำไปแขวนไว้ตรงหุ่นไม้ที่ตั้งอยู่ เดินมาหยิบแก้วคริสตัล ใส่น้ำแข็งหนึ่งก่อน เทน้ำสีอำพันลงไปค่อนแก้วพอให้ท่วมน้ำแข็งก้อนนั้น เดินเอาไปยื่นให้มาเฟียหนุ่มที่นั่งไขว้ขาอยู่บนโซฟาบุนวมตัวเขื่อง
"คิดอะไร ก็แค่เชื่อมสัมพันธ์กับคู่ธุรกิจ"
อัลโดตอบเสียงราบเรียบ เขาค่อย ๆ กระดกแอลกอฮอล์แก้วนั้นในมือลงคอ ปล่อยให้ความเย็นที่แสบร้อนไหลลงคอสู่กระเพาะอาหารช้า ๆ
"ผมคิดว่านายคิดว่าเธอเหมือนกับ..."
ราเชนละคำพูดเอาไว้เมื่อชื่อต้องห้ามของผู้หญิงคนนั้นไม่สามารถเอ่ยออกมาต่อหน้ามาเฟียหนุ่มได้
"ก็แค่คล้าย คนบนโลกหน้าตาเหมือนกันเยอะแยะ"
อัลโดต่อบทสนทนากับลูกน้องคนสนิทอย่างไม่ใส่ใจ
"มึงให้แม่บ้านเข้าไปดูแลความเรียบร้อยให้เธอด้วย"
"ผมให้ป้าแจ๊วรับหน้าที่นั้นแล้วครับ"
"กล้องล่ะ"
"ติดเรียบร้อยครับ"
ราเชนรายงานเรื่องกล้องตัวจิ๋วที่ให้คนแอบติดไว้ในห้องพักของสายไหมเพื่อดูความเคลื่อนไหวของเธอ อัลโดไม่เคยไว้ใจใครง่าย ๆ ยิ่งเข้ามาเหยียบถิ่นเขา ๆ ยิ่งต้องรอบคอบ เพราะแบบนี้เขาถึงสามารถกำจัดหนอนบ่อนไส้ที่ถูกส่งเข้ามาในแก๊งเขาได้ทุกครั้ง
จัสมิน มิ้น ผู้หญิงที่เป็นเลขาของคริสเซนาก็เช่นกัน
ต่อให้เธอจะเป็นตัวจริง เขาก็ต้องป้องกันเอาไว้ก่อน คู่ธุรกิจสำหรับเขาไม่ใช่คนในครอบครัว ระแวงได้เขาก็จะระวัง
"แล้วเรื่องโรงขายเนื้อพรุ่งนี้?"
ราเชนเห็นมาเฟียหนุ่มเงียบไปจึงถามถึงแพลนงานในวันพรุ่งนี้
"จัดเตรียมของไว้ให้พร้อม รู้สึกว่าช่วงนี้มาม่าซังจะคัดเกรด มึงเลือกเอาเฉพาะของที่พร้อม อย่าเอาของใหม่ที่น่าเบื่อมาปะปน"
"ครับนาย"
"ออกไปเถอะ คืนนี้กูคงนอนที่นี่"
ราเชนค้อมหัวให้เจ้านายหนุ่มพร้อมกับเดินออกไปอย่างไม่ซักไซ้อะไรต่อ
คล้อยหลังลูกน้องคนสนิท อัลโดเอื้อมมือไปเปิดลิ้นชักเพื่อหยิบกรอบรูปอันหนึ่งออกมา
รูปถ่ายของเขากับผู้หญิงที่หน้าตาสะสวยในอ้อมกอด รอยยิ้มของเธอช่วยละลายความเหนื่อยกายเหนื่อยใจจากการทำงานให้เขาเป็นปลิดทิ้ง
หัวใจอัลโดวูบไหวทุกครั้งยามนึกถึงตอนที่เขาพบกับเธอด้วยความบังเอิญ
'ตามไป!'
เสียงคนกลุ่มหนึ่งกำลังวิ่งไล่ตามผู้หญิงตัวเล็กที่บังเอิญเข้าไปเห็นพวกเขากำลังรุมทำร้ายคนจรจัด เธอแอบถ่ายคลิปนั้นเพื่อเอาไปแจ้งตำรวจแต่มีคนเห็นเข้าจึงถูกตามล่า
หญิงสาวคนนั้นวิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต เธอล้มลุกคลุกคลานจนมีแผลไปทั้งตัว เมื่อถึงทางตันไร้ซึ่งที่กำบังจึงเห็นรถคันหนึ่งจอดลงพอดี
เธอไม่มีเวลาคิดแล้วตอนนี้ นักเลงพวกนั้นกำลังตามหลังเธอมาติด ๆ สุดท้ายต้องจำใจใช้คนที่เพิ่งลงจากรถคันเมื่อครู่เป็นที่พึ่งพิง
'ชะ ช่วยด้วยค่ะ'
เสียงเธอแหบพร่าและเหนื่อยหอบ ร่างน้อย ๆ สั่นระริกเมื่ออันธพาลกลุ่มนั้นตามมาถึงตรงหน้าเธอแล้ว
'เฮ้ยไอ้หน้าหล่อ ถ้าไม่อยากเจ็บตัว ปล่อยเด็กกูมา'
หัวโจกหนึ่งในนั้นชี้หน้าผู้ชายตรงหน้าที่ด้านหลังเขามีเหยื่อที่หลุดมาได้หลบอยู่
อัลโดทำเพียงเลิกคิ้วมองหน้าคนที่กล้าชี้หน้าเขาอย่างไม่กลัวตาย
'หน้าหล่อแต่เสือกหูหนวกว่ะ"
เสียงหัวเราะขบขันดังขึ้นเมื่ออันธพาลกลุ่มนั้นถูกใจคำพูดดูแคลนของหัวหน้าแก๊ง
ปัง!
'อ๊าก!!'
รวดเร็วชั่วพริบตา เสียงปืนที่ไร้ตาดังขึ้นหนึ่งนัดตามมาด้วยเสียงกรีดร้องของนักเลงคนเดิมร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
เลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหน้าแข้งของมันจนต้องทรุดเข่าลงกับพื้นเอามือกดปากแผลเอาไว้ ใบหน้าเหยเกมองหาที่มาของกระสุน
'ใครลอบกัดกูวะ!?'
เสียงกรุ่นโกรธตะโกนลั่นพร้อมมองหาที่มาของวิถีกระสุน ก่อนที่เจ้าของปืนจะเดินลงมาจากรถคันที่จอดอยู่ไม่ไกล
'จัดการมันสิวะ ยืนทำซากอะไร'
เมื่อเห็นคนที่ทำร้ายตัวเองปรากฎขึ้น หัวหน้าอันธพาลก็ออกคำสั่ง ทว่าเพียงแค่สิ้นสุดคำพูดนั้นไม่ถึงสิบวินาที ลูกน้องของมันสามคนก็ถูกราเชนเก็บเรียบด้วยการรัวกระสุนเข้าหน้าผากเป๊ะ ๆ ทุกนัด
'กรี๊ด!!!'
เสียงกรีดร้องของผู้หญิงที่เกาะแขนอัลโดอยู่ดังขึ้นด้วยความตกใจ ตัวเธอสั่นงันงกกับเหตุการณ์นองเลือดตรงหน้า