3 หลีแคดดี้สาว
เด็กหญิงร่างกลมผิวขาววิ่งไปนั่งบนเก้าอี้ซึ่งมีชามข้าวต้มปลากะพงวางอยู่ตรงหน้า กลิ่นหอมที่โชยขึ้นมาพร้อมกับควันกรุ่น ยั่วต่อมน้ำลายได้เป็นอย่างดี ดารินทร์ยิ้มให้กับลูกและสามีที่พากันนั่งอยู่ในที่ของตน น้ำส้มและน้ำเปล่าใส่แก้วใสถูกรินลงไปพร้อมเสิร์ฟ เพียงไม่นานทุกคนรับประทานอาหารเช้าพร้อมกันอย่างมีความสุข
สายลมเย็นที่พัดผ่านร่างชายฉกรรจ์ทั้งห้าที่ยืนอยู่บนสนามกอล์ฟ ทุกคนมีร่มขนาดใหญ่กางป้องกันแสงแดด แคดดี้ผู้ทำหน้าที่ต่างชวนนายของตนพูดคุยอย่างเป็นกันเอง อีกทั้งบอกไลน์ในการตีลูกกอล์ฟให้ลงหลุม
“นายคะ อย่าเพิ่งตีค่ะ ต้องขยับมาอีกนิด ตรงนี้เป็นไลน์ที่จะไปถึงหลุมนั้น”
เสียงแจ้วๆ จากแคดดี้ร่างบางสวมอาภรณ์ป้องกันแสงแดดอย่างเต็มที่ เหลือแค่เพียงลูกตาทั้งสองข้างเท่านั้น สรัลหนุ่มร่างใหญ่ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกับธามชะงักการหวดวงสวิง ยืดกายยืนตัวตรง หันมายิ้มกับแคดดี้อย่างเป็นกันเอง
“แน่นะน้อง”
“แน่ค่ะ นาย เชื่อฉันเถอะ”
เสียงหัวเราะชอบใจจากแคดดี้ดังขึ้นเมื่อเห็นฟันข้างหน้าของเขาหักไปครึ่งซี่ อีกทั้งจักกะจี้หัวใจที่ถูกเรียกว่าน้อง แต่ยังคงเก็บอาการเอาไว้
“น้องทำงานที่นี่มานานหรือยัง”
“ก็หลายปีค่ะ นายตีได้แล้ว เห็นไหมเพื่อนๆ ของนายเดินเข้ามาสมทบแล้วนะ”
“โอ๊ย ! ธาม อังคาร รดิสแล้วก็พี่ใหญ่เขารอพี่ได้ เพราะรู้ว่าพี่ตีช้า จะบอกอะไรให้นะพี่ช้าแค่สองอย่างคือการพัตกอล์ฟกับเรื่องอย่างว่า”
พูดกำกวมชวนให้คิดสองแง่สามง่าม แคดดี้ใจเต้นแรง ยิ้มน้อยๆ ไม่กล้าที่จะต่อปากต่อคำ กลัวว่าจะเข้าตัว สรัลเห็นดังนั้นหัวเราะชอบใจ ปรายตามองพรรคพวกที่เดินใกล้เข้ามาทุกที ใบหน้าทะเล้นที่ดูอ่อนกว่าวัยยื่นเข้ามาใกล้ๆ แคดดี้ถอยหลังออกมาหนึ่งก้าว ด้วยความรู้สึกที่บอกแก่ตัวเองว่ากลัวถูกลวนลาม
“มีอะไรคะนาย”
“ที่ว่าช้าในเรื่องอย่างว่าก็คือ เคี้ยวอาหารช้าไง ฟันพี่ไม่ค่อยดี เห็นทีว่าเคี้ยวหญ้าแก่ไม่ไหว คงจะต้องล่อแต่หญ้าอ่อนอย่างเดียว”
“นายตลกจังเลยค่ะ”
“ชีวิตจะเอาอะไรนักหนา เดี๋ยวก็ตายไปแล้ว เอาเป็นว่า เราไปพักกันที่ซุ้มดีกว่า นี่ก็จวนเที่ยงแล้ว เฮ้ย เพื่อนๆ เราไปรอที่ซุ้มก่อนนะ หิวน้ำจนคอแห้งจะเป็นผงอยู่แล้ว”
เขาตะโกนเสียงดังบอกเพื่อนๆ ที่พาเหรดเข้ามาจนครบทุกคน รวมทั้งแคดดี้ส่วนตัวทั้งแบกถุงกอล์ฟและกางร่มให้แก่นายของตนเอง
“เออ พักก็ดีเหมือนกัน ผมเดินจนเมื่อยน่องแล้ว”
“ธาม อย่าพูดเลย พี่ไม่ได้เดินสักหน่อย เห็นนั่งรถกอล์ฟ คุยจู๋จี๋กับน้องแคดดี้ ยังกับบ่าวสาวเข้าสู่ช่วงข้าวใหม่ปลามัน”
“พี่ใหญ่ครับ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกน่า แค่น้องเขาคุยสนุกเท่านั้นเอง”
“แต่เราว่านายน่ะกำลังหว่านเสน่ห์ให้กับน้องแคดดี้ น้องจ๋าอย่าหลงคารมไอ้นี่เด็ดขาด มันป้อไปเรื่อยแหละ”
รดิสเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันหันไปกล่าวแก่แคดดี้ร่างอวบ บัดนี้คลายผ้าคลุมหน้าออก เผยเห็นความงามแบบบ้านๆ จุดเด่นอยู่ที่คิ้วเข้มเรียวโก่งชวนมอง ธามมักจะเหล่บ่อยๆ ด้วยความสนใจ รู้ว่าเสร็จจากออกรอบในครั้งนี้จะต้องชวนออกไปกินข้าวด้วยกัน
“เรื่องธรรมดาของผู้ชายหน้าตาดี”
“แน่ะ เห็นไหม น้องตาถึง บอกว่าเราหล่อ”
“เลี่ยนว่ะ เกรงใจคนแก่บ้าง ไปที่ซุ้มดีกว่า”
ใหญ่ผู้อาวุโสกว่าเพื่อนโพล่งขึ้น ก่อนจะถอดหมวกออกมาถือไว้ เผยความโล่งเตียนของเส้นผมบนศีรษะ บรรดาแคดดี้ที่ติดตามนายเห็นแล้วพากันยิ้มๆ แต่ไม่กล้าพูดอะไร เกรงว่าจะเป็นการเสียมารยาท
ภายในซุ้มสำหรับพัก มีอาหารและเครื่องดื่มทุกประเภทเอาไว้บริการนักกอล์ฟ นายของแต่ละคนให้เงินแคดดี้ซื้ออาหารกลางวันรับประทาน ธามก็เช่นกันเมื่อได้นั่งใกล้ๆ กับแคดดี้วัยสาวสะพรั่ง ดีใจที่เลือกถูกคน
หน้าตาดี พูดเพราะ เอาใจเก่ง รอบรู้เกี่ยวกับกีฬากอล์ฟ ไม่ว่าถามอะไร ตอบได้หมดทุกอย่าง เขามีความสุขที่สุด
“ชื่ออะไรครับ”
“ผึ้งค่ะ”
“พี่เป็นคนกลัวผึ้งต่อยเสียด้วย กลัวเหล็กในจะปักลงไปกลางใจ”
“โอ๊ย ไอ้ธาม เห่ยจริง จีบน้องเขาใช้คำที่ทันสมัยกว่านี้ได้ไหม”
สรัลป้องปากแซวธามดังๆ เพื่อนทุกคนหันมามอง ธามทำท่าเขินอาย รวมทั้งผึ้งก้มงุดมองมือตัวเอง ความเดียงสาที่แสดงออกมา ธามรู้สึกดีๆ แต่ยังคงระวังตัว กลัวว่าจะเป็นหลุมพรางทำให้ตกลงไปในกับดัก รู้ดีว่าคนทำอาชีพอย่างเธอ เจอผู้ชายหลายรูปแบบ ซึ่งจะต้องทำอย่างไรเพื่อให้นายเมตตา ถ้าสำเร็จจะได้ทิปเป็นจำนวนมาก