ตอนที่2 แสดงออก
ตอนที่2 แสดงออก
“สวัสดีนักศึกษาทุกคน ยินดีต้อนรับสู่คลาสแรกวิชาความรู้คู่คุณธรรม วิชานี้เป็นวิชาบังคับแต่ไม่นับหน่วยกิต นักศึกษาทุกคนต้องผ่านการเรียนวิชานี้ ถึงแม้ว่าทุกคนจะมีคุณธรรมฝังลึกอยู่ในตัวแล้วก็ยังต้องเรียนวิชานี้อยู่ดี เพราะฉะนั้นขอให้นักศึกษาทุกคนเข้าเรียนให้ครบชั่วโมง รับทราบและเข้าใจตรงกันนะคะ” อาจารย์หญิงวัยสี่สิบปลาย ๆ พูดเสียงดังผ่านไมโครโฟน นักศึกษาบางคนก็สนใจฟังบางคนก็นั่งหลับ บางคนก็หันไปคุยกับเพื่อนเพราะเป็นห้องเรียนใหญ่ที่เรียนรวมกันหลายสาขาเนื่องจากคลาสนี้เป็นคลาสวิชาศึกษาทั่วไป ไม่ใช่วิชาหมวดวิชาหลัก
“นี่เรย์เธอเลิกเล่นโทรศัพท์ก่อนไหม อาจารย์กำลังสอนอยู่นะ” วารินหันไปกระซิบบอกเรย์ที่นั่งเล่นเกมตั้งแต่เข้ามาตอนแรกจนป่านนี้ที่อาจารย์ประจำคลาสสอนผ่านมาเกือบครึ่งชั่วโมงก็ยังคงก้มหน้าเล่นอยู่
“อาจารย์มีหน้าที่สอนก็สอน ส่วนฉันจะฟังหรือไม่ฟังก็เป็นหน้าที่ฉัน ไม่เกี่ยวกับเธอ” เสียงเรียบตอบกลับพร้อมส่งสายตาคมดุมาให้หญิงสาว
“ชิ! ดื้อชะมัด” ริมฝีปากบางเบ้ใส่ชายหนุ่มเล็กน้อยก่อนจะหันกลับมาสนใจสไลด์บนกระดานที่อาจารย์กำลังบรรยาย
“ชั่วโมงหน้าช่วยทำรายงานเรื่องคุณธรรมมาส่งอาจารย์ด้วยนะคะ วิชานี้ไม่นับหน่วยกิตแต่นักศึกษาทุกคนต้องผ่านวิชานี้ถึงจะจบ รายงานส่งเข้าอีเมลอาจารย์ก่อนแปดโมงเช้าวันจันทร์หน้านะคะ โชคดีค่ะ”
“ขอบคุณค่ะอาจารย์/ขอบคุณครับอาจารย์”
“อะไรวะมาเรียนวันแรกแม่งต้องทำรายงานส่งแล้วเหรอวะ แล้วกูจะไปเอาความรู้ที่ไหนมาทำ เรื่องคุณธรรมกูมีเสียที่ไหน ชีวิตเกิดมาก็แกล้งคนอื่นมาจนถึงทุกวันนี้ อย่างนี้เขาเรียกเวรกรรมตามสนองหรือเปล่าวะ” เทมป์บ่นขึ้นเสียงดังขณะเดินออกมาจากห้อง
“ใช่ กูว่ากรรมตามสนองมึงชัวร์ ทำเรื่องไร้คุณธรรมกับคนอื่นไว้เยอะก็อย่างนี้แหละ” โซนหันไปว่าให้กับเทมป์
“พูดเหมือนมึงเป็นคนดีกว่ากูเลยนะไอ้โซน ทุกครั้งที่กูลงมือก็มีมึงร่วมด้วยทุกครั้งไม่ใช่หรือไงไอ้ห่า โน่นพ่อมึงโน่นเป็นคนดีเสมอต้นเสมอปลายไม่เคยแกล้งใครใช้ชีวิตโคตรสันโดษ” เทมป์ด่าสวนกลับทันควัน
“พวกมึงจะเลิกเถียงกันได้ยัง” เสียงเรียบพูดขึ้นจนทั้งสองปิดปากเงียบกริบ
“เรย์แกก็ดุเหมือนกันนะ ดูสิเล่นเอาซะสองคนนี้เงียบไปเลย” ไนร่าพูดเสริมขึ้น
“โรงอาหารคนโคตรเยอะ พวกเราไปทานอาหารญี่ปุ่นที่ร้านใกล้ ๆ นี่ไหมเมื่อเช้าฉันขับรถผ่านมาเห็นป้ายร้านอาหารญี่ปุ่นติดอยู่ปากซอยไม่ไกล” เทมป์เอ่ยชวนทุกคนเพราะตอนนี้โรงอาหารคณะเต็มไปด้วยนักศึกษาแทบทุกโต๊ะจนที่นั่งไม่พอ
“ไปสิ” ไนร่าเห็นด้วย
“ว่าไงไอ้เรย์มึงจะไปไหม” เทมป์หันไปถามเรย์
“แล้วแต่” คำตอบสั้น ๆ อย่างเช่นทุกครั้ง
“แล้วเธอล่ะวารินจะไปหรือเปล่า ร้านนี้พึ่งเปิดใหม่เห็นเขารีวิวกันว่าอร่อยน่าไปลองอยู่นะ”
“ฉันทานอาหารญี่ปุ่นไม่เป็นพวกเธอไปกันเถอะ ฉันหาซื้ออะไรง่าย ๆ แถวนี้ทานก็ได้” วารินรีบปฏิเสธทันที
“แค่ชวนทานข้าวมื้อแรกก็ปฏิเสธเพื่อนแล้ว อย่างนี้จะคบกันต่อได้อย่างนั้นเหรอ” เสียงเรียบของเรย์พูดแทรกขึ้น สายตาคมจ้องใบหน้าเรียวเล็กไม่วางตา
“ไอ้เรย์มึงไปว่ารินแบบนั้นทำไม คนไม่ชอบจะบังคับให้กินทำไม ทีของที่มึงไม่ชอบพวกกูซื้อมาแดกมึงยังเคยโยนของพวกกูทิ้งเลย” เทมป์ว่ากลับเรย์เสียงดัง
“ฉันไปกับพวกเธอก็ได้” วารินตอบกลับทันทีไม่อยากให้เพื่อนต้องมาทะเลาะกันเพราะเธอเป็นต้นเหตุ
“ถ้าอย่างนั้นรินไปรถฉัน ส่วนพวกนายก็ไปเจอกันที่ร้าน” ไนร่าพูดขึ้นพร้อมกับจูงมือวารินเดินแยกออกไปทางลานจอดรถของคณะ
ร้านอาหารญี่ปุ่น
“นี่เมนูอยากทานอะไรสั่งเลย มื้อนี้ไอ้เรย์เลี้ยง” เทมป์พูดขึ้นกลางโต๊ะอาหาร ส่วนเจ้าของชื่อที่ถูกเอ่ยถึงยังนั่งหน้านิ่ง
“ลูกค้ารับอะไรดีครับ” พนักงานเดินเข้ามารับออร์เดอร์ที่โต๊ะ
“ฉันเอาสปาเกตตีไข่ปลาเมนไทโกะ” ทุกคนต่างสั่งเมนูที่ตัวเองชื่นชอบ เหลือเพียงวารินคนเดียวที่ยังไม่สั่งอะไร
“แล้วเธอเอาอะไรริน” เทมป์เอ่ยถามขึ้นเมื่อทุกคนสั่งอาหารกันหมดแล้วยกเว้นวาริน
“เอ่อ..ฉันเอา”
“เอาข้าวหน้าเนื้อวากิวย่างถ่าน ซูชิ อูนิ แล้วก็เมนูพิเศษของร้านหนึ่งชุด เอาแค่นี้ครับ” เป็นเสียงของเรย์ดังแทรกขึ้น เมื่อรับออร์เดอร์อาหารครบแล้วพนักงานก็เดินกลับไปโดยที่วารินยังไม่ทันได้สั่งอาหารของตัวเองเลย
“ทำไมมึงไม่ให้รินเขาสั่งเอง มึงสั่งมารู้ได้ไงว่ารินจะชอบ” เทมป์หันขวับไปถามเรย์ทันที
“เขาไม่เคยทานอาหารญี่ปุ่นแล้วเมนูอาหารที่เขียนอยู่ในนั้นมึงคิดว่าเขาจะรู้จักไหมว่าหน้าตาเป็นยังไง ถ้าสั่งมั่ว ๆ จะทานได้หรือเปล่า มีสมองหัดคิดบ้างไอ้เทมป์” เรย์ด่าสวนกลับทันที ยังดีที่โต๊ะที่พวกเขานั่งอยู่นั้นอยู่มุมของร้านซึ่งไกลจากโต๊ะอื่นไม่อย่างนั้นโต๊ะอื่นคงคิดว่าพวกเขากำลังทะเลาะกัน
“ไม่เป็นไรหรอกดีซะอีกที่เรย์เขาสั่งให้ เรย์รู้ว่าอะไรอร่อยให้เรย์สั่งให้นะถูกแล้ว ขอบคุณนะเรย์” วารินเงยหน้าขึ้นสบตากับชายหนุ่มพร้อมกล่าวขอบคุณออกไป
“../..” ไร้เสียงตอบกลับมีเพียงสายตาคมมองสบตาแว็ปเดียวก็เบนสายตาไปมองอย่างอื่น
ถึงเวลาอาหารมาเสิร์ฟ จานของวารินจะใหญ่กว่าเพื่อนเพราะเป็นเมนูจานพิเศษของร้านที่รวมเมนูอร่อย ๆ หลายเมนูมาไว้ที่จานเดียว ทุกสายตาต่างมองไปที่จานอาหารที่วางอยู่ตรงหน้าวาริน
“ฉันไม่ยักรู้ว่ามีเมนูแบบนี้ด้วย นายตั้งใจสั่งให้วารินใช่ไหมเรย์” ไนร่าถึงกับตาโตมองอาหารในจานของวารินแล้วหันไปพูดกับเรย์
“เมนูก็เขียนอยู่โทนโท่ อยากกินไม่สั่งกันล่ะ” เสียงเรียบพูดขึ้นก่อนจะคีบซูชิเข้าปากเคี้ยวตุ้ย ๆ
“ซอสถ้วยนั้นมันมีส่วนผสมของวาซาบิ ถ้าไม่เคยกินให้จิ้มแค่นิดเดียว” มือเล็กที่จับตะเกียบต้องหยุดชะงักขณะกำลังเอาเนื้อวากิวย่างไปจิ้มกับซอสที่เสิร์ฟมาคู่กัน
“อือ..เผ็ดจริง ๆ ด้วย” หลังจากที่ลองจิ้มไปคำแรกวารินก็รีบยกแก้วน้ำขึ้นดื่มตามทันที เพราะรสชาติของวาซาบินั้นเผ็ดและฉุนขึ้นจมูกสำหรับคนที่ไม่เคยทาน
“จิ้มแค่เกลือก็พอแล้ว” ฝ่ามือหนาหยิบขวดเกลือป่นยื่นไปหมุนบดลงบนจานของวารินตรงตำแหน่งที่ว่าง
“ขอบคุณนะ”
“อย่าจิ้มเยอะมันเค็ม” เสียงเรียบบอกอีกครั้ง
ทุกการกระทำของเรย์อยู่ในสายตาทั้งสามคู่ของเทมป์ โซน และไนร่า แต่ทั้งหมดก็ไม่มีใครเอ่ยอะไรออกมาได้แต่นั่งมองเงียบ ๆ จนมื้อกลางวันของทุกคนจบลง
“อร่อยมาก ของหวานก็อร่อย เสียดายที่รินไม่ชอบทานของหวาน” ไนร่าพูดขึ้นหลังจากวางช้อนของหวานที่ทานหมดไปสองถ้วย
“นมสดปั่นครับ” ขณะที่ทุกคนนั่งรอเช็กบิลพนักงานก็ถือแก้วนมสดปั่นมาเสิร์ฟสองแก้วท่ามกลางความงุนงงของทุกคนบนโต๊ะ
“มึงไปสั่งตอนไหนไอ้เรย์”
“เรียบร้อยครับ” ยังไม่ทันที่เทมป์จะได้คำตอบ พนักงานก็เดินเอาบัตรมาคืนให้กับเรย์พอดี มือหนายื่นไปหยิบบัตรเครดิตเก็บยัดใส่กระเป๋าตังค์เสร็จก็คว้าแก้วนมสดปั่นเดินออกจากร้านทันที
“เดี๋ยวก่อนไอ้เรย์ มึงยังไม่ตอบคำถามกูเลยนะ” เทมป์รีบเดินตามหลังมาเซ้าซี้เพื่อจะเอาคำตอบ
“มึงจะขึ้นรถหรือเดินกลับเอง” เรย์เอ่ยถามขึ้นเมื่อเทมป์ยังยืนอยู่ด้านข้างรถของเรย์ฝั่งคนขับ โดยด้านในรถตำแหน่งด้านข้างคนขับมีโซนนั่งประจำตำแหน่ง
“รอกูด้วยไอ้ห่า” เทมป์รีบเปิดประตูกระโดดขึ้นด้านหลังทันที
“นึกว่าจะเดินกลับ”
บนรถ
"เรย์เขาดูแปลก ๆ นะเธอว่าไหม" ไนร่าพูดขึ้นทำลายความเงียบภายในรถ
"ไม่รู้สิ เขาอาจจะเป็นคนไม่ค่อยพูดแต่ไหนแต่ไรแล้วก็ได้"
"เรื่องนั้นฉันเข้าใจ แต่เรื่องที่ร้านอาหารฉันว่ามันแปลก ๆ นะ"
"แปลกยังไง"
"ก็ตั้งแต่ที่เรย์สั่งอาหารให้เธอ ไหนจะคอยตักนู่นนี่นั่น แล้วก็นมสดปั่นแก้วนี้อีก" ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนมองไปที่แก้วนมสดปั่นในมือของวาริน
"เขาอาจจะเห็นว่าฉันไม่เคยทานมั้งเลยคอยบอก"
"แล้วนมสดปั่นแก้วนี้ล่ะ"
"เขาน่าจะอยากทาน เลยสั่งเผื่อฉันด้วยหรือเปล่า"
"แล้วทำไมไม่สั่งเผื่อพวกฉันบ้างล่ะ ทำไมถึงสั่งแค่สองแก้ว"
"ก็พวกเธอทานของหวานกันอิ่มแล้วไม่ใช่เหรอ"
"ของคาว ของหวาน และน้ำมันแยกกระเพาะกันค่ะ พวกฉันกินได้"
"ถ้าเธอจะกินฉันพาไปซื้อที่โรงอาหารก็ได้นะ ตอนนี้คนน่าจะน้อยแล้ว"
"เฮ้อ! นี่เธอซื่อหรือเธอมองโลกในแง่ดีกันแน่ยัยริน ฉันจะบอกเธอยังไงดี ว่าเรย์มันไม่ปกติ" ไนร่าถอนหายใจเสียงดัง ส่ายหัวเบา ๆ อย่างคนเหนื่อยอ่อน
"เธอว่าเรย์เป็นโรคจิตเหรอ"
"เฮ้อ! ช่างมันเถอะถือซะว่าฉันไม่ได้พูดเรื่องนี้กับเธอแล้วกัน" เสียงถอนหายใจครั้งที่สองติด ๆ กัน
"จะรอดเงื้อมมือไอ้เรย์ไหมเนี่ย รีบเรียนรู้โลกกว้างไว ๆ นะสาวน้อย" ไนร่าได้แต่ส่ายหน้าปลงตกแล้วบ่นพึมพำกับตัวเอง