บท
ตั้งค่า

บทที่ 15 สิงร่าง

“พี่เว ฉันขอโทษเพราะฉันพี่ถึงเจ็บหนักอย่างนี้”

หล่อนร้องไห้เข้าไปกอดพี่ชาย เขากอดน้องสาวไว้ ถอนหายใจแล้วว่า

“มันเป็นกรรมของพี่เอง ท่านสุวรรณบอกว่า พี่ต้องใช้กรรม พี่ก็จะทนแต่ว่าร่างของพี่มันจะเน่าเสียก่อนน่ะสิ”

“ไม่เป็นไร ผมจะช่วยเอง ลุงสุวรรณ ผมขอช่วยเวทิตนะครับ”

มัจโจได้โอกาสจึงรีบขออนุญาตจากสุวรรณ หากเขาไม่ฉวยโอกาสดีๆ อย่างนี้ แผนที่คิดไว้ก็ไร้ผลและต้องถูกจับตัวไปกักบริเวณ เขาไม่อยากกลับไปในเวลานี้

“ไม่ได้ ท่านต้องไปรับโทษกับท่านพญามัจจุราชเสียก่อน”

สุวรรณปฏิเสธทันทีแต่พริบตานั้นร่างของพญามัจจุราชก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าสุวรรณและมัจโจ เหลนชายกระโจนพรวดเข้าหาร่างไร้สติของคนป่วยบนเตียงทันที

ประมุขแห่งนรกภูมิยิ้ม พยักหน้าช้าๆ แล้วหายตัวไปจากห้องคนไข้ สุวรรณกับสุวาลย์ได้แต่ถอนหายใจเฮือกเพราะสิ่งนี้คือ การอนุญาตจากพญามัจจุราช...

เวทิตยืนนิ่งงันกับภาพที่เห็นเมื่อครู่ หากเขาเดาไม่ผิดนัก ผู้ที่ปรากฏตัวให้เห็นคือพญามัจจุราช กรรณิกาหลบด้านหลังของเขาเพราะกลัวจะถูกนำตัวไปลงนรก สุวรรณมองหล่อนแล้วส่ายหน้าช้าๆ

“ไม่ต้องกลัว ท่านพญามัจจุราชมาอนุญาตให้เหลนของท่านเข้าอยู่ในร่างพี่ชายเจ้าได้แค่นั้น ท่านยังเห็นใจเจ้าอยู่ ถึงเวลาที่เจ้าจะต้องบอกลาพ่อกับแม่เจ้าแล้ว รีบพูด ข้าให้เวลาเจ้าได้ไม่มากนักนะ”

“พี่เว บอกพ่อกับแม่ทีว่าฉันมาลา ฉันขอโทษที่ไม่เชื่อฟังแม่ แม่รู้ว่าฉันชอบเสี่ยเดช แม่เคยห้ามแต่ฉันไม่ฟัง ถ้าแม่รู้ว่าฉันเป็นเมียน้อยเสี่ยเดชแล้วก็..ฉันตายเพราะนังเมียหลวงมันสั่งฆ่า แม่คงเสียใจมาก”

กรรณิการ่ำไห้กับพี่ชาย เวทิตถอนหายใจ เขาช่วยน้องไม่ได้ ตัวเองยังช่วยไม่ได้ เวรกรรมอะไรทำให้เขาต้องพบกับเรื่องร้ายๆ เช่นนี้

“ท่านสุวรรณ ช่วยน้องสาวผมที”

“มาบอกอะไรข้าล่ะ พ่อกับแม่เจ้ามองไม่เห็นข้าหรอก โน่น บอกท่านมัจโจโน่น”

สุวรรณพยักหน้าไปที่มัจโจซึ่งขณะนี้อยู่ในร่างของเวทิตและกำลังมองกรรณิกาอย่างสงสาร เวทิต มองมัจโจและสุวรรณ

“ท่านมัจโจเห็นฉันหรือ”

“ใช่ ผมเห็นคุณ เห็นลุงสุวรรณ เห็นดวงวิญญาณทุกดวง คุณจะให้ผมช่วยอะไรก็บอกมาได้เลย”

มัจโจพูดออกมา วิไลกับสมชายหันมาจ้องหน้าเวทิตที่นั่งอยู่บนเตียง ไกรวิทย์ ประยงค์และสนธยา เลิกคิ้วสูง สายตาทุกคู่จ้องนิ่งที่ใบหน้าเวทิต พวกเขาได้ยินมัจโจในร่างเวทิตพูดทุกคำ

“เว พูดอะไรน่ะลูก”

วิไลจับแขนลูกชายเขย่าแรงๆ สมชายเข้ามายืนจ้องหน้าลูกใกล้ๆ สุวรรณส่ายหน้าน้อยๆ

“ท่านมัจโจ พูดออกมาทำไม แค่คิดในใจพวกเราก็ได้ยินแล้ว เรื่องใหญ่ละทีนี้ หาคำตอบเอาเองก็แล้วกัน ข้าช่วยท่านไม่ได้แล้วนะ”

มัจโจยิ้มแหย มองหน้าวิไลกับสมชายและหันมาทางสุวรรณ มองเวทิตอย่างขอความคิดเห็น เวทิต มองพ่อกับแม่แล้วว่า

“บอกพ่อกับแม่ฉันไปว่า ฉันเห็นดวงวิญญาณได้แค่ระยะหนึ่ง”

“เอ่อ.แม่ครับ ผมเห็นวิญญาณได้แค่ระยะหนึ่งครับ”

มัจโจพูดตามเวทิตแต่คำพูดเพราะๆ ของเขาทำให้เวทิตหมั่นไส้เพราะเขาพูดกับพ่อแม่ไม่เพราะอย่างนี้

“ไม่ต้องพูดเพราะขนาดนั้น ฉันไม่ได้ครับ ครับ ตลอดหรอก พูดธรรมดา”

เวทิตหงุดหงิดกับคำพูดของมัจโจและนึกแปลกใจว่าทำไมมัจโจจึงใช้คำพูดในยุคปัจจุบันได้คล่อง คำเรียกแทนตัวเองก็ผมเกือบทุกคำ

“ไม่ต้องแปลกใจหรอก ท่านมัจโจเป็นทายาทพญามัจจุราชที่ติดความทันสมัยทุกอย่าง ถึงไม่อยากรับตำแหน่งพญามัจจุราชต่อจากประมุขอย่างไรเล่า”

สุวรรณช่วยไขข้อข้องใจของเวทิตในนาทีต่อมา เวทิตพยักหน้าเข้าใจขณะมองมัจโจ

“ท่านมัจโจ จะพูดอะไรก็ตามใจแต่อย่าเพราะจนเว่อร์”

“ครับ”

“เอ๊ะ ก็บอกว่าไม่ต้องเพราะกับฉัน”

เวทิตเสียงดัง กรรณิกาดึงแขนพี่ชายไว้แล้วมองมัจโจ หล่อนสะอื้นออกมาอีกเมื่อเห็นแม่กอดร่างเวทิต

“ท่านมัจโจ บอกแม่ทีว่าฉันตายแล้ว ร่างของฉันอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ ฉันมาลาพ่อกับแม่”

“เอ่อ..”

มัจโจกำลังรวบรวมคำพูดของกรรณิกาแต่คำพูดเดิมของเขายังทำให้ทุกคนที่ยืนจ้องมองอยู่สงสัย สมชายบีบแขน บีบไหล่ลูกชายแรงๆ

“โอ๊ย.ผมเจ็บ พ่อทำอะไรผมครับ..เอ้ย.ทำอะไรผมพ่อ”

มัจโจพยายามปรับทั้งน้ำเสียงและใช้คำพูดให้ดูธรรมดาตามที่เวทิตเคยพูดซึ่งเวทิตพยักหน้าพอใจกับการปรับตัวของมัจโจในร่างของเขา

“พ่ออยากรู้น่ะสิว่าตัวแกจริงรึเปล่า ทำไมแกถึงพูดว่าเห็นวิญญาณหรือว่าแกได้พรวิเศษจากพญามัจจุราช”

“เอ่อ..คือ..ผม..”

มัจโจตอบไม่ถูก หันมามองสุวรรณเพื่อขอความช่วยเหลือแต่สิ่งที่ได้คือการส่ายหน้าตอบกลับมาเท่านั้น

“ครับพ่อ ผมได้พรวิเศษจากท่านปู่ทวด เอ้ย จากท่านพญามัจจุราช ท่านบอกว่าผมจะเห็นแค่ระยะสั้นๆ ไม่นาน พ่อ แม่ ยัยวิมาลาแม่”

มัจโจเอ่ยออกมาตรงๆ ไม่อ้อมค้อมเพราะเขาพูดไม่เป็น เวทิตยกมือตีหน้าผากตัวเอง ถอนหายใจเฮือก มัจโจไม่ใช่มนุษย์ มองโลกในแง่ดี ไม่เหมือนเขาทั้งนิสัยและความมีเหตุมีผลแต่เขาเลือกไม่ได้หากไม่ให้มัจโจอยู่ดูแลร่างของเขา เมื่อถึงเวลาที่เขาหมดกรรม วันนั้นร่างเน่าเปื่อย เขาจะกลับไปเป็นคนไม่ได้ กลายเป็นวิญญาณเร่ร่อน เขายอมให้เป็นเช่นนั้นไม่ได้

“นังวิ นังวิมาลาพ่อกับแม่ทำไม นังวิมันอยู่คอนโดฯของมัน วันก่อนมันเพิ่งซื้อของมาฝากแม่เองนะ”

วิไลพูดถึงลูกสาวซื้อผลไม้มาฝากหล่อน กรรณิกาบอกกับหล่อนว่าจะมาหาพ่อกับแม่อาทิตย์หน้า จะมาทานข้าวที่บ้าน กรรณิกาเพิ่งกลับไปสองวันเท่านั้น ทำไมเวทิตจึงบอกว่ากรรณิกามาลา ลาไปไหน ลาทำไม

“แม่ ฟังผมนะ ยัยวิตายแล้ว ถูกยิงตาย ตอนนี้ศพอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ”

“ไม่จริง แม่ไม่เชื่อ แกรู้ได้ยังไง” วิไลเสียงดังขึ้นมาทันที หัวใจของหล่อนเต้นแรง หากเวทิตพูดความจริง กรรณิกาเสียชีวิตแล้วจริงๆ หล่อนจะทำอย่างไร

“ใช่ แกรู้ได้ยังไงเว” สมชายถามเร็ว

“นั่นสิพี่เว รู้ได้ยังไง ก็พี่บอกฉันไม่ใช่เหรอว่าจะไปหานังวิ พี่ยังไปไม่ถึงมันด้วยซ้ำ พี่ถูกรุมกระทืบก่อน” ประยงค์เอ่ยขึ้นอย่างสงสัย ไกรวิทย์จ้องหน้ารุ่นพี่อย่างใช้ความคิด สนธยามองหน้าเวทิตเช่นกัน

“ใช่พี่ พี่จะไปหานังวิแต่ถูกไอ้พวกนั้นทำร้ายก่อนแล้วพี่รู้ได้ยังไงว่านังวิตายหรือว่า..”

ไกรวิทย์ถามอีก เวทิตมองหน้าทุกคนก่อนจะเหลือบมามองกรรณิกา หล่อนพยักหน้าทั้งน้ำตา เขาหันกลับมามองวิไลพร้อมตอบคำถามที่ทุกคนอยากรู้

“ผมได้พรวิเศษไงแม่ เห็นวิญญาณ ยัยวิมาหาผม บอกผมเดี๋ยวนี้เอง ตอนนี้ยัยวิยืนอยู่ข้างๆ แม่ครับ”

“อะไรนะ” วิไลเหลียวมองซ้ายขวาอย่างตกใจ สมชายขยับเข้ามายืนข้างหล่อน

“จริงครับแม่ ยัยวิมาหาแม่กับพ่อ มาขอโทษที่ไม่เชื่อแม่ ยัยวิเป็นเมียน้อยเสี่ยเดช เมียหลวงสั่งฆ่า ยัยวิกำลังจะลงไปรับกรรมในนรก มาลาพ่อกับแม่ครั้งสุดท้าย”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel