บทย่อ
เมื่อทายาทท่านพญามัจจุราชคิดหนีราชบัลลังก์มาอยู่ในโลกมนุษย์ เรื่องวุ่นวายจึงเกิดขึ้นกับร่างที่ทายาทขออาศัยอยู่และเจ้าของร่างกลับจากทัวร์นรกสวรรค์แล้วจะขอร่างคืน ทายาทหนุ่มรูปหล่อจะให้ร่างคืนหรือไม่ในเมื่อเขาตกหลุมรักหญิงสาวที่เป็นมนุษย์เข้าแล้ว
บทที่ 1 ตำแหน่งพญามัจจุราช
บัลลังก์สีทองตั้งเด่นอยู่กลางห้องโถงขนาดใหญ่ เหนือบัลลังก์ร่างของชายวัยกลางคนผิวขาวนวลผ่องนั่งอยู่อย่างสง่างาม ใบหน้าคมสัน ดวงตายาวรีเข้มดุแต่มีแววอ่อนโยนแฝงอยู่ด้วย ที่ศีรษะสวมมงกุฎสีทองสลักลวดลายไทยงดงาม เสื้อผ้าที่สวมใส่ ชุดด้านในเป็นสีดำทั้งเสื้อและกางเกง ปกคอเสื้อขลิบสีขาว ส่วนตัวเสื้อผ่าหน้าเป็นแถบสีขาวยาวถึงชายเสื้อด้านล่าง
เสื้อคลุมสวมทับชุดสีดำเป็นสีทองทั้งตัว รองเท้าสีดำเช่นกางเกง ใบหน้ายามนี้เคร่งเครียด สุวรรณเลขาและสุวาลย์เลขาสบตากันและค่อยๆ เหลือบมองใบหน้าของพญามัจจุราชพร้อมกัน
“พวกท่านไม่ต้องมาแอบมองข้า ท่านรู้ใช่หรือไม่ว่าข้าเครียดเรื่องอันใด ข้าให้ท่านไปตามเหลนของข้ามา ทำไมจึงกลับมาแต่พวกท่าน ไอ้เหลนข้ามันอยู่ที่ใดหรือ”
ท่านพญามัจจุราชเอ่ยเสียงค่อนข้างดัง ดวงตาจ้องมายังใบหน้าของสุวรรณและเบนมาที่สุวาลย์ ยมทูตผู้ซื่อสัตย์ขวาและซ้ายก้มหน้าไม่กล้าตอบคำถามของประมุขแห่งนรกภูมิ
“ท่านตอบสิสุวรรณ” สุวาลย์กระซิบกับเพื่อน
“ท่านนั่นแหละตอบ” สุวรรณกระซิบตอบกลับมา
“ไม่ต้องเกี่ยงกัน มันไปไหน นอน หนีเที่ยวหรือไม่ยอมมา”
“นอนพระเจ้าค่ะ ไม่ยอมมาพระเจ้าค่ะ”
สุวรรณเอ่ยออกมา สุวาลย์เป่าลมออกทางปากแล้วเงยหน้าขึ้นเสริมคำตอบของสุวรรณว่า
“พูดอย่างไรก็ไม่ยอมพระเจ้าค่ะ”
“มันไม่ยอมมาเพราะพวกท่านบอกมันใช่ไหมว่าข้าต้องการอะไรจากมัน”
“พระเจ้าค่ะ”
สุวรรณตอบรับพร้อมสุวาลย์แล้วก้มหน้านิ่ง พวกเขาลืมไปว่าท่านพญามัจจุราชไม่ให้พูดอะไรทั้งสิ้นจนกว่ามัจโจ เหลนของท่านจะมาถึงที่ห้องนี้เสียก่อนแต่สุวรรณพูดอย่างไรมัจโจก็ไม่ยอมลุกจากที่นอนจึงบอกจุดประสงค์ที่พญามัจจุราชเรียกพบ
มัจโจถึงกับส่ายศีรษะเร็วๆ ล้มตัวกลิ้งบนเตียงนุ่มไม่ยอมลุกและปฏิเสธเสียงแข็ง อย่างไรก็จะไม่ไปพบปู่ทวดให้สุวรรณกับสุวาลย์มาเรียนปู่ทวดตามนั้น
“ข้าใช้พวกท่านทีไรไม่ได้เรื่องสักอย่าง ข้าจะไปตามมันเอง”
ร่างสูงใหญ่ลุกยืนแล้วก้าวลงจากแท่นบัลลังก์เดินออกจากห้องโถงไปทางซ้ายมือซึ่งเป็นที่พักของมัจโจ เหลนผู้สืบทอดบัลลังก์เพียงผู้เดียว ท่านเคยพูดกับมัจโจครั้งหนึ่งกับการรับตำแหน่งพญามัจจุราชแทนท่านแต่มัจโจปฏิเสธอ้างว่า พ่อของเขากับปู่ของเขายังไม่ยอมรับหน้าที่นี้ ทำไมปู่ทวดจึงบังคับเขาและเหตุนี้ทำให้ท่านพญามัจจุราชโกรธเหลนมากถึงกับออกคำสั่งให้มัจโจรับตำแหน่งต่อจากท่านไม่ว่าจะเร็วหรือช้ามัจโจก็ต้องขึ้นนั่งบัลลังก์พญามัจจุราช
พญามัจจุราชก้าวเข้ามาในห้องนอนของเหลนที่มีเครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน เหลนชายเป็นหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรงนี่แหละเป็นสิ่งที่ท่านอยากให้เหลนเป็นพญามัจจุราชต่อจากท่าน
“ว่าไงไอ้เหลนรัก ลุกขึ้นมาประเดี๋ยวนี้แล้วไปพบทวดที่ห้องโถงคดีความ ทวดให้เวลาเจ้าแค่นาทีเดียวสำหรับการล้างหน้าแปรงฟัน หากเกินแม้เศษเสี้ยววินาที เจ้าเจอดีแน่ เจ้ารู้ใช่หรือไม่ว่าดีที่ทวดจะให้เจ้าเจอมันคืออะไร”
“โอย.ไม่เอาหรอกปู่ทวด ผมไม่รับตำแหน่งนั่น ปู่ทวดอย่ามาบังคับได้มั้ย ทำไมไม่บังคับปู่กับพ่อผมล่ะมาบังคับผมทำไม”
มัจโจโวยวายกับคำสั่งแกมบังคับของปู่ทวด เขาอ้างปู่กับพ่อให้ปู่ทวดโกรธเล่นๆ เสียอย่างนั้น ท่านพญามัจจุราชถึงกับหน้าร้อนขึ้นมาทันทีทันใด ท่านคิดถึงลูกชายกับหลานชายเมื่อพันกว่าปีที่ผ่านมา ท่านอยากสละบัลลังก์ให้กับลูกชายแต่ลูกรู้ทันและไม่อยากเป็นผู้ตัดสินคดีความต่างๆ จึงหมั่นเพียรทำบุญกุศลแต่เนิ่นๆ กระทั่งถึงเวลาที่พ่อจะให้ก้าวขึ้นไปนั่งบัลลังก์ เขาก็ได้รับบุญกุศลนั้นไปเกิดบนสวรรค์เป็นเทวดา ส่วนลูกชายเมื่อเห็นพ่อหนีปู่ด้วยการรักษาศีล ภาวนาและทำทานก็ทำบ้างเพื่อหลีกหนีการเป็นพญามัจจุราชและก็ทำสำเร็จได้ไปเกิดบนสวรรค์เช่นเดียวกับพ่อ ทิ้งลูกชายไว้กับปู่ซึ่งท่านพญามัจจุราชจะไม่ยอมปล่อยให้เหลนหนีบัลลังก์เช่นเดียวกับลูกชายและหลานของท่าน
ใช่ว่าลูกและหลานจะรังเกียจการรับตำแหน่งพญามัจจุราชแต่เพราะพวกเขาเบื่อการตัดสิน พวกเขามีจิตใจอ่อนไหวไม่เหมาะสมกับตำแหน่งนี้เพราะบัลลังก์แห่งความยุติธรรมต้องเที่ยงตรง ผู้ตัดสินคดีความผิดของมนุษย์โลกที่วิญญาณหลุดจากกายหยาบมาแล้วต้องรับโทษทัณฑ์ที่ตนทำไว้ครบถ้วนทุกคนโดยใครทำกรรมดีไว้ผลกรรมดีก็จะถูกบันทึกไว้ในยมโลก ใครทำกรรมชั่วไว้ก็ถูกบันทึกเช่นเดียวกัน เมื่อถึงเวลาที่ต้องเข้ามารับผลกรรมเหล่านั้น ทุกคนก็ต้องพบกับการตัดสินที่ถูกต้องและตรงประเด็นไม่ผิดเพี้ยนลำเอียงแต่อย่างใด
พวกเขามีเมตตาสูงจึงรับหน้าที่นั้นไม่ได้ ท่านพญามัจจุราชไม่โทษลูกกับหลานที่หนีบัลลังก์แต่เพราะกุศลที่พวกเขาสร้างไว้ส่งให้พวกเขาไปเกิดในที่ที่พวกเขาต้องการ เมื่อกำลังจะหมดสิ้นทายาทรับช่วงต่อ ท่านพญามัจจุราชจึงไม่ปล่อยมัจโจให้เที่ยวเล่นเป็นหนุ่มน้อยเนื้อหอมอีกต่อไป
“ทวดไม่ได้บังคับเจ้าแต่เหลือเจ้าเพียงผู้เดียวเท่านั้นที่จะทำหน้าที่ต่อจากทวด ถึงเวลาที่เจ้าต้องฝึกงานกับทวดแล้วละมัจโจ ตามท่านสุวรรณสุวาลย์ไปพบทวดที่ห้องโถงชำระคดีความประเดี๋ยวนี้”
“โอ้ย.ไม่ไป ไม่ทำ ไม่รับ ไม่ชอบ ไม่..” เขาโวยวายต่อหน้าปู่ทวด
“หยุด..ถ้าเจ้าไม่อยากถูกกักบริเวณจงทำตามคำสั่งของทวด ท่านสุวรรณ ท่านสุวาลย์ จับตัวมันตามข้ามา”