บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 โชคชะตาชีวิต

ชญานันท์โยนกระเป๋าลงบนเตียงด้วยอารมณ์ที่ยังคุกรุ่นอยู่ ก่อนจะกระแทกตัวลงนั่งอย่างแรง

“เธอไม่น่าไปทำแบบนั้นเลยนะนัน ไม่รู้ว่าพวกนั้นจะโกรธมากแค่ไหน ดูท่าทางของพวกเขาไม่ใช่ธรรมดาเลยนะ เธอไม่กลัวเหรอ” สุนีย์หย่อนตัวลงนั่งข้างๆเพื่อนสาว

“ฉันไม่เคยกลัว บ้านเมืองเรามีกฎหมายนะนี มันไม่กล้าทำอะไรหรอก แล้วที่ฉันทำลงไปก็ยังน้อยไปสำหรับการดูถูกผู้หญิงไทยอย่างเรา คิดว่าเงินซื้อทุกอย่างได้เหมือนกับประเทศของเขาหรือไง ไอ้พวกบ้านั้นคงไม่ใช่คนดีแน่”

“แล้วเราทิ้งเจสมาแบบนี้มันจะดีเหรอ ถ้าเกิดพวกนั้นทำอะไรเจสละ” สุนีย์บอกอย่างเป็นห่วง

“เธอไม่ต้องเป็นห่วงหรอก แม่นั่นเอาตัวรอดได้สบาย เจนจัดขนาดนั้น” ชญานันท์บอกแล้วก็ลุกขึ้น เดินไปที่ตู้เสื้อผ้าของตนเอง

“ฉันจะอาบน้ำนอนแล้ว บอกตรงๆ ว่าเหนื่อยมาก พรุ่งนี้เช้ามีงานด่วนด้วย ลืมแล้วเหรอว่า บก. เรียกพบแต่เช้า”

“อืม..” สุนีย์พยักหน้ารับ อีกคนจึงเดินหายเงียบไปทางห้องน้ำ เธอและชญานันท์เป็นคนต่างจังหวัดเหมือนกัน คุยกันถูกคอจึงชวนกันมาเช่าคอนโดอยู่และช่วยกันออกค่าเช่าห้อง พ่อแม่ของเธอเสียไปหมดแล้ว ส่วนพ่อแม่ของชญานันท์แยกทางกันและผู้เป็นพ่อก็ได้เสียชีวิตไปเมื่อ 1 ปีที่แล้ว จึงเหลือแต่แม่ที่ติดการพนันเป็นอาจิณ

เช้าวันรุ่งขึ้น 2 สาวจึงรีบเข้าออฟฟิตแต่เช้า และก็มาเจอเข้ากับกิตติมาที่หน้าทางเข้าออฟฟิต กิตติมาเท้าเอวมองหน้าชญานันท์อย่างเอาเรื่อง

“ไงย่ะ ทำเรื่องแล้วหนีหายไปเลย ดีนะที่เขาไม่เอาเรื่องอะไร”

“เหรอ ฉันนึกว่าเธอโดนรุมโทรมไปแล้วเสียอีก” ชญานันท์ย้อนกลับทันทีเหมือนกันพร้อมกับตั้งท่ารับอยู่แล้ว

“นี่ นังชญานันท์!” กิตติมาเต้นผาง

“ทำไมนังกิตติมา!” ชญานันท์เท้าเอวบ้าง

“พอ พอได้แล้วทั้งคู่ เจอหน้ากันทีไรเป็นต้องกัดกันทุกที” เสียงที่ดังแทรกขึ้นทำให้หญิงสาวทั้ง 3 คนหันไปมองพร้อมกัน

“บก.” เสียงเรียกดังขึ้นพร้อมกัน

“ใช่ ผมเอง เชิญด้านใน” ผู้เป็น บก. เปิดประตูแล้วเดินนำหน้าเข้าไปด้านในออฟฟิตก่อนจะตรงไปยังห้องประชุมเล็กๆ โดยมี 3 สาวเดินตามเข้าไป และเมื่อทั้งหมดนั่งลงพร้อมแล้ว เขาก็เริ่มประชุมทันที

“ที่ผมเรียกพวกคุณมาเพราะมีงานที่จะให้ทำ และงานนี้ก็สำคัญมากด้วย”

“งานอะไรคะ” สุนีย์ถามพร้อมกับเลิกคิ้วสูง

“งานสัมภาษณ์” เขาบอกสั้นๆ

“สัมภาษณ์ใครกันคะ แล้วต้องใช้เราถึง 3 คนเลยหรือคะ” ชญานันท์ถามอย่างสงสัย

“ใช่ เขาเป็นหนุ่มโสด นักธุรกิจค้าน้ำมันรายใหญ่ของคูลฮาร์นเชียวนะ เป็นที่หมายปองของสาวๆ ทุกคน ไม่เคยมีใครที่จะเข้าใกล้เขาได้เลย นับเป็นโอกาสดีของเราที่เขาอนุญาตให้เราได้เข้าสัมภาษณ์คนระดับเขา งานนี้เป็นงานใหญ่เชียวนะทำอะไรต้องระวังให้มาก ไม่ใช่เรื่องง่ายที่ผมจะขอเข้าพบเขาได้ ในซองข้างหน้าของพวกคุณจะมีรายละเอียดอยู่แล้ว ลองไปศึกษาดู”

“เขาอยู่ที่ไหนคะ” กิตติมาพรสนใจขึ้นมาทันทีเมื่อได้ยินคำว่าหนุ่มโสด และเขาต้องหล่อมากด้วย

“ประเทศคูลฮาร์น”

“อ้อ ที่ออกข่าวหน้าหนึ่งไปทั่วโลก ทั้งในหนังสือพิมพ์และนิตยาสารนั้นเหรอคะ ที่เขาว่าเจ้าชายของประเทศนั้นอภิเษกสมรสกับหญิงสาวชาวไทยที่ชื่อชุติกาญจ์” สุนีย์นึกถึงภาพของบุคคลทั้งคู่

“ใช่ แต่คนที่พวกคุณจะต้องไปสัมภาษณ์ก็คือชีคกาเลน อิสมา บินล์รา จาราฟ 1ในสิงห์ทะเลทรายที่เป็นที่กล่าวขานไปทั่ว เขาชำนาญทั้งด้านรักและด้านรบ ผมจึงส่งพวกคุณไปไง เขาต้องยินดีต้อนรับพวกคุณแน่” บก. ยิ้มกว้าง เขาภูมิใจที่มีลูกน้องทั้งสาวและสวย

“ฉันขอถอนตัวได้ไหมคะ บก. ให้ 2 สาวเขาไปกันก็พอแล้ว งานแค่เนี่ยเอง” ชญานันท์ทำหน้าหงุดหงิด

“ดี ไม่ไปก็ดีจะได้ไม่ขวางหูขวางตา” กิตติมาแขวะใส่อีก

“ไม่ได้ งานนี้ผมวางใจพวกคุณ จะขาดใครไปก็ไม่ได้” เขายื่นคำขาด

“ฉันไม่อยากไปทะเลาะกับใครบ้างคนให้เสียงาน”

“เธอกำลังหมายถึงใครไม่ทราบ” กิตติมาหันขวับมามองอีกคนตาเขียว

“ใครอยากได้ก็รับไปสิ” ชญานันท์ยักไหล่ กิตติมาได้แต่นั่งเน้นเคี้ยวเน้นฟันอยู่อย่างไม่พอใจเพราะอีกฝ่ายก็ไม่ได้เอ่ยชื่อเธอออกมาตรงๆ

“บก. แน่ใจนะคะว่างานจะเสร็จก่อนที่จะพังเพราะ 2 คนเนี่ย” สุนีย์มองหน้า บก.แล้วหันไปมองซ้ายทีขวาที

“เรื่องนั้นผมไม่รู้ แต่ที่ผมต้องการก็คืองานต้องเสร็จ แล้วอย่าไปมีเรื่องกันให้ทางเราต้องเสียหายล่ะ ผมขอเตือน”

“ก็ใครกันล่ะคะที่หาเรื่องก่อน” ชญานันท์มองค้อนไปที่กิตติมา

“พอกันทั้งคู่นั้นแหละ ถ้าใช้สมองให้เหมือนกับที่ใช้ปากก็คงจะดี เอาล่ะพวกคุณไปสะสางงานที่เหลือกันได้แล้ว อีก 2 วันพวกคุณจะต้องเดินทางแล้ว พอไปถึงที่นั่นคนของชีคกาเลนจะมารอรับที่สนามบิน

“ค่ะ” 3 สาวรับคำพร้อมกันก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินออกไป

หลังจากออกมาห้องประชุม กิตติมาก็ทำท่าเพ้อฝันแล้วเดินหมุนตัวมายืนขวางหน้าของสุนีย์และชญานันท์เอาไว้

“ฉันอยากให้เขาหล่อเหมือนกับผู้ชายในผับเมื่อคืนก็พอแล้ว ผู้ชายอะไรน่ากินไปทั้งตัว”

“บ้าผู้ชาย” ชญานันท์พูดขึ้นเบาๆแล้วเดินเลี่ยงไปอีกทาง

“แกว่าใคร เดี๋ยวสิอย่าเดินหนีสิ” กิตติมาจะเดินตามหญิงสาวอีกคนไป แต่ก็ถูกสุนีย์ดึงแขนเอาไว้

“พอเถอะเจส เข้าห้องทำงานต่อเถอะ” หญิงสาวบอกแล้วดันให้กิตติมาเดินเข้าห้องทำงานของตัวเองไป ก่อนที่ตัวเธอจะเดินเข้าไปอีกห้องที่อยู่ตรงข้ามกัน ที่นี่ห้องทำงานของแต่ละคนจะแบ่งเป็นสัดส่วน เพื่อให้ทุกคนมีสมาธิในการทำงาน แต่มีพื้นที่ไม่มากเหมือนกับห้องทั่วไป

ชญานันท์หยิบเอกสารที่อยู่ในซองสีน้ำตาลขึ้นมาเปิดอ่าน สายตาไล้ไปตามตัวหนังสือก่อนจะวางมันลงกับโต๊ะทำงาน นี่ก็เป็นอีกครั้งที่เธอจะต้องเดินทางไปต่างประเทศ และไปยังดินแดนที่ตัวเองไม่รู้จัก ในเอกสารบอกว่าคูลฮาร์นอยู่ทางแถบตะวันออก เป็นดินแดนแห่งทะเลทรายที่สวยงามและมีนักท่องเที่ยวอยู่หลายประเทศที่อยากจะเข้าไปเยี่ยมชม โอกาสนี้น่าจะเป็นโอกาสทองของเธอก็ได้ที่จะได้ไปเที่ยวและทำงานพร้อมกัน

สนามบินกลาง ประเทศคูลฮาร์น

พอลงจากเครื่อง 3 สาวต่างก็สอดส่องสายตาเพื่อหาคนที่จะมารับพวกเธอ กิตติมาหยิบหมวกปีกกว้างพร้อมกับแว่นกันแดดขึ้นมาสวม พร้อมกับใช้มือพัดไปมา

“ไม่คิดเลยว่าที่นี่จะร้อนมากขนาดนี้ ดีนะที่ทาครีมกันแดดมาด้วย”

“ก็ที่นี่มันทะเลทรายนี่นา จะให้เย็นสบายเหมือนกับเมืองที่มีต้นไม้ได้ยังไง” สุนีย์ส่ายหน้าพร้อมกับมองมองเพื่อนสาว ก่อนจะหันมามองอีกคนที่กำลังยื่นมองออกไปด้านนอกด้วยท่าทางที่ชื่นชอบ

“ชอบละสิ” เธอพูดขึ้นเบาๆ

“ชอบสิ ฉันรู้สึกว่าที่นี่มีบางอย่างที่ฉันต้องการ” ชญานันท์บอกพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

“แน่ละสิ พวกบ้านนอกก็ต้องชอบแบบนอกๆ แบบนี้แหละ” กิตติมากระตุกยิ้มเหลือบหางตามามองทางชญานันท์ หญิงสาวมองตอบด้วยแววตาขึงขัง ก่อนมาที่นี่สุนีย์ได้ขอร้องเธอเอาไว้ว่าอย่าให้ต่อปากต่อคำกับกิตติมาเพราะเธอกลัวว่างานจะเสียหาย และเธอก็รับปากเอาไว้แล้ว เธอจะทนจนกว่าจะถึงที่สุดเท่านั้น ในระหว่างที่ 3 สาวกำลังทำสงครามกันด้วยแววตาอยู่นั้น ก็มีชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดดำยาวกรอมเท้า โพกผ้าสีดำทั้งหน้า มีเพียงดวงตาเท่านั้นที่โผล่พ้นออกมา

“ขอโทษครับ คุณ 3 คนมาจากเมืองไทยใช่ไหมครับ” เขาเอ่ยถามขึ้นเป็นภาษอังกฤษ

“ค่ะ” สุนีย์ตอบแทนอีก 2 สาวที่ยืนนิ่งอยู่

“ชีคให้ผมมารับคุณทั้ง 3 คนครับ รถอยู่ทางด้านนี้ครับ” เขาบอกแล้วเดินนำหน้าไปที่รถ หญิงสาวทั้ง 3 คนลากสัมภาระของตนเองเดินตามไป

ภาพบ้านหลังใหญ่หรืออาจะเรียกได้ว่าเป็นคฤหาสน์สีส้มอ่อนตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางต้นไม้นานาพรรณ หรือเรียกว่าเป็นโอเอซิสกลางเมืองก็น่าจะได้ 3 สาวเบิกตากว้างแต่ต่างความรู้สึกนึกคิดกัน

“ไม่ธรรมดาจริงๆ” ชญานันท์บอกพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างขณะที่รถกำลังเคลื่อนผ่านไปตามทางที่ปูด้วยหินอย่างดี จนกระทั่งจอดลงที่หน้าคฤหาสน์หลังนั้น

“เชิญครับ” คนที่ทำหน้าที่ขับรถหันมาบอกแล้วก้าวลงไปก่อน และหญิงสาวทั้ง 3 จึงก้าวตามลงมา กิตติมาเงยหน้าขึ้นมองความสูงของตัวคฤหาสน์ที่ตกแต่งเอาไว้อย่างสวยงาม

“ขอต้อนรับสู่คูลฮาร์นครับ” เสียงที่ดังขึ้นทางหน้าประตู ทำให้สาวไทยทั้งหมดหันไปมอง แล้วสายตาทั้ง 3 คู่ ก็เบิกกว้างขึ้นอย่างตกใจ โดยเฉพาะชญานันท์ที่เย็นวาบไปทั่งตัว อ้าปากมองอีกฝ่ายตาค้าง เธออยากให้ภาพผู้ชายตรงหน้าเป็นเพียงภาพลวงตา แต่พอเธอกระพริบตาภาพนั้นก็ยังคงอยู่

“คุณเองเหรอคะ” กิตติมาดูท่าทางจะได้สติก่อนใครเพื่อน เธอรีบเดินขึ้นไปทักทายเขาเหมือนกับคนที่คุ้นเคย

“นัน” สุนีย์แตะแขนเพื่อนรักเบาๆพร้อมกับกระซิบเบาๆ “ฉันฝันไปหรือเปล่า”

“เปล่า ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง” ชญานันท์บอกพร้อมกับลอบกลืนน้ำลาย เธอเหมือนกับหนูที่เข้ามาติดกับดักของเจ้าแมววายร้าย เธอเดินมาให้เขาแก้แค้นถึงที่ ถ้ารู้ว่าเป็นแบบนี้เธอคงจะไม่มา แต่ในเมื่อมาแล้วและยืนอยู่ตรงหน้าเขา เธอก็ห้ามกลัวหรือแสดงอาการใดๆ ให้เขาเห็น

“สวัสดีครับ และยินดีที่ได้พบกันอีกครั้ง” เขาตอบพร้อมกับเบนสายตามาทางชญานันท์ ซึ่งหญิงสาวก็เชิดหน้าขึ้นสู้ แล้วมองสบตากับเขาอย่างไม่เกรงกลัว ชายหนุ่มยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง

“เชิญด้านในครับ ของเอาวางไว้ตรงนั้นเถอะครับเดี๋ยวผมจะให้คนมาเก็บไปไว้ที่ห้อง”

“ไหนทาง บก.บอกพวกเราว่าได้เตรียมโรงแรมเอาไว้ให้แล้ว” ชญานันท์ค้านขึ้น และเห็นว่าชายหนุ่มหันมายิ้มให้ก่อนจะตอบ

“ผมสั่งยกเลิกไปแล้ว ผมอยากให้พวกคุณพักอยู่ที่นี่ ที่บ้านของผมดีกว่าที่โรงแรม ผู้คนก็ไม่พลุกพล่านด้วย อีกอย่างคุณจะมาสัมภาษณ์ผมไม่ใช่เหรอ น่าจะเป็นการดีกว่าถ้าจะพักอยู่ด้วยกันที่นี่” กาเลนบอกยิ้มๆ เขาเองก็ไม่คิดว่าโลกมันจะกลมขนาดนี้ จนกระทั่งเมื่อเช้าวาน ฮิสมาเอารายละเอียดของคนที่จะขอสัมภาษณ์เขามาให้ดู เขาเองก็ตกใจที่เป็นหญิงสาวทั้ง 3 คนที่เขาเจอที่ผับ และนั้นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้เขาโทรไปยกเลิกการจองโรงแรมของพวกเจ้าหล่อน แม้แต่คนสนิทของเขาทั้งสองคนก็ไม่รู้ว่านายของตนเองกำลังจะทำอะไร แต่ที่พวกเขารู้ก็คือผู้หญิงผิวสีน้ำผึ้งคนนั้นต้องมีส่วนด้วยแน่ๆ

“ดีค่ะ เจสจะได้สัมภาษณ์คุณได้สะดวกสบายยิ่งขึ้นและเป็นกันเองมากมากขึ้นด้วย” หญิงสาวบอกพร้อมกับส่งสายตาหวานไปให้กับชายหนุ่ม ชญานันท์เห็นแล้วก็ต้องเบะปากอย่างหมั่นไส้

“น่าทุเรศมากกว่า”

“นัน” สุนีย์สะกิดเตือนเพื่อนสาว ชญานันท์หันมามองแล้วเบือนหน้าไปมองทางอื่น ก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ต้นปาล์มใหญ่ที่เธอคิดว่าเห็นเงาของใครบางคนอยู่แว่บๆ แต่พอมองดูดีๆ ก็ไม่เห็นสิ่งอะไรผิดปรกติ

“เชิญเข้าด้านในกันดีกว่าครับ ด้านนอกแดดร้อนแล้ว” กาเลนผายมือเชิญหญิงสาวทั้งหมด ก่อนจะเดินนำหน้าเข้าไปที่ห้องรับแขกแล้วนั่งลง

“เชิญครับ” เมื่อหญิงสาวเดินเข้ามาเขาก็ผายมือเชิญให้นั่ง

“ขอบคุณค่ะ” กิตติมานั่งลงแล้วคลี่ยิ้มกว้างให้กับเจ้าของบ้านหนุ่ม

“ที่นี่น่าอยู่นะคะ สงบเงียบ เจส ช๊อบ ชอบ”

“ดีครับที่คุณชอบ เพราะผู้หญิงส่วนใหญ่จะชอบความหรูหราและสะดวกสบายมากกว่า ไม่มีใครชอบที่ร้อนๆ เผาผิวขาวๆนวลๆของพวกเธอหมด”

“เรามาคุยเรื่องงานกันเลยไหมคะ” ชญานันท์เบื่อคำพูดยอกันไปยอกันมาเต็มทนแล้ว

“ใจเย็นๆสิครับ ไม่ต้องรีบ รับรองว่าผมไม่ผิดสัญญากับบริษัทของคุณแน่ พวกคุณเพิ่งมากันเหนื่อยๆ พักผ่อนให้หายเหนื่อยกันก่อนจะดีกว่า”

“เสียมารยาทจริงๆ เลยเธอเนี่ย เราเพิ่งมาถึงกันนะ ฉันเหนื่อยนะอยากพักผ่อนก่อน อยากให้คุณกาเลนพาเที่ยวชมเมืองด้วยค่ะ จะได้หรือเปล่า” ท้ายเสียงอ่อยลงและหันมามองทางชายหนุ่ม

“ยินดีครับ ถึงคุณกิตติมาไม่บอกผมก็จะพาไปอยู่แล้ว” เขาพูดกับอีกคน แต่สายตากลับมองมาที่หญิงสาวอีกคนที่นั่งหน้าบึ้งตึงอยู่

“คงจะไม่มีเวลามากขนาดนั้นหรอกค่ะ พวกเราต้องรีบทำงานให้เสร็จตามกำหนดไม่งั้นทางบริษัทจะเสียหายได้” สุนีย์รีบพูดขึ้นก่อนเมื่อเห็นว่าชญานันท์กำลังจะอ้าปากพูด

“ไม่เป็นไรครับ ผมโทรไปคุยกับทางบริษัทของพวกคุณให้แล้วว่าทุกอย่างผมจะออกค่าใช้จ่ายให้เอง พวกคุณไม่ต้องเป็นห่วง”

“แต่พวกเราก็ยังมีงานที่รออยู่ จะมัวมาเที่ยวเล่นไม่ได้หรอกค่ะ พวกเราไม่ใช่พวกคนรวยที่ไม่ต้องทำอะไรก็มีกินนี่คะ” ชญานันท์มองสบตากับอีกฝ่ายโดยตรงเพื่อให้เขารู้ว่าเธอหมายถึงใคร

“หึ หึ คำพูดของคุณน่าคิดนะครับ ไม่แน่นะครับคุณอาจจะได้มีโอกาสเป็นคนรวยก็ได้ใครจะไปรู้” เขาอมยิ้มอย่างมีนัย

“อย่าไปสนใจยัยนันเลยค่ะ รายนั้นพูดอะไรไม่รู้จักคิด บางทีก็พูดแต่เรื่องไร้สาระ สนใจเจสดีกว่า เจสอยากเที่ยวชมรอบๆบ้านจะได้ไหมคะ” กิตติมารู้สึกหมั่นไส้เพื่อนร่วมงานที่แย่งความสนใจของชายหนุ่มไปจากเธอ

“ได้สิครับ จะไปกันหมดเลยหรือเปล่าครับ” กาเลนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

“ฉันขอตัว ฉันอยากพักผ่อนมากกว่า ช่วยให้ใครพาฉันไปที่ห้องพักจะดีกว่า” ชญานันท์ลุกขึ้นยืน กาเลนอมยิ้มก่อนจะหันไปพยักหน้ากับสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าห้อง

“ช่วยพาคุณผู้หญิงไปพักที่ห้องด้วย”

“ค่ะ นายท่าน” สาวใช้ย่อตัวลงแล้วเดินนำหน้าไป หญิงสาวรีบสาวเท้าตามออกไป กาเลนมองตามหลังหญิงสาวไปก่อนจะลอบอมยิ้มที่มุมปากเหมือนกับกำลังพอใจอะไรบางอย่าง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel