มัจจุราชทะเลทราย (ซีรี่ย์ 3 สิงห์ทะเลทราย)

0 · จบแล้ว
กานจ์แก้ว
52
บท
42.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ไม่ต้องเรียกใครมาช่วยทั้งนั้น ต่อให้มาลูกน้องของผมก็ไม่กล้าเข้ามายุ่งเรื่องส่วนตัวของเจ้านายหรอกจำเอาไว้ คิดว่ายั่วยวนคนของผมได้งั้นเหรอ ไม่มีทาง” น้ำเสียงของเขาเล็ดรอดออกมาทางริมฝีปากที่เผยอขึ้นเล็กน้อยนั้น ก่อนที่ริมฝีปากนั้นจะแสยะยิ้มออกมาอย่างน่ากลัว “ฉันไม่ได้ยั่วยวนใคร ฉันขอโทษนะคะ ปล่อยฉันไปเถอะ ฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้ว ฉันจะเชื่อฟังคุณจะทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง” น้ำเสียงของหญิงสาวสั่นเครือ “ฮึ ฮึ ผมไม่มีโอกาสให้คุณอีกแล้ว...ชญานันท์” เขาเรียกชื่อเธออย่างหนักแน่นก่อนจะก้มหน้าลงฝั่งจมูกกับลำคอเนียนหอมกรุ่นด้วยกลิ่นกายสาวนั้น ชญานันท์สะดุ้งเฮือกกับสัมผัสที่ร้อนผ่าวและวาบหวิวนั้น “อย่านะ! ปล่อย! อย่าทำฉันเลย คุณกาเลน” เสียงอ้อนวอนของเธอดูจะไร้ผลใดๆตอบสนองกลับมา จะมีก็แต่การรุกรานอย่างหนักจากเขา อารมณ์ที่พยายามควบคุมเอาไว้ของชายหนุ่มขาดลง มือหนาร้อนของเขาเลื่อนลงมาตามสีข้างของเธอก่อนจะไปหยุดลงตรงโค่นขาเรียวงาม แล้วดึงชายผ้าของชุดยาวนั้นให้เลิกขึ้นมา “อย่า!” ชญานันท์ร้องเสียสั่น ร่างบางกระเด้งเพื่อหวังให้ตัวเองหลุดพ้นจากร่างหนานั้น แต่มันก็ยิ่งเป็นการกระตุ้นอารมณ์ให้ชายหนุ่มมากยิ่งขึ้นอย่างไม่รู้ตัว “ผมหยุดไม่ได้แล้ว คุณต้องเป็นคนปลดปล่อยผม..ชญานันท์” กาเลนเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าเนียนที่ห่างแค่ไม่กี่เซนฯก่อนจะก้มลงไปหาเรียวปากอวบอิ่มคู่นั้น แต่หญิงสาวสะบัดหน้าหนี ชายหนุ่มจึงเลื่อนมือขึ้นมาจับปลายคางของเธอให้อยู่นิ่งๆ แล้วประทับจูบลงไปอย่างหนักหน่วง

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักพลิกชีวิตแก้แค้นทหารเศรษฐีโรแมนติก

ตอนที่ 1 ของฝากจากเมืองไทย

ภายในผับหรูแห่งหนึ่งของเมืองพัทยา แสงไฟสลัวและหลากสีทำให้ด้านในดูไม่มืดและมองเห็นทุกสิ่งทุกอย่างได้ลางๆ เสียงเพลงที่ดีเจเปิดก็เป็นเพลงสากลที่ไม่เร็วและไม่ช้าจนเกินไป ทำให้ฟังแล้วผ่อนคลาย ผู้คนภายในผับแห่งนั้นก็ดูไม้วุ่นวายมากนัก ทุกคนไม่มีใครสนใจใครนอกจากคนที่มาด้วยกันทำให้ดูเป็นส่วนตัวดีสำหรับคนที่ไม่ชอบผู้คนที่จอแจ และจุดประสงค์ของทุกคนที่มาที่นี่ก็เพื่อพักผ่อนหย่อนคลายสมอง รวมไปถึงชายหนุ่มต่างชาติกลุ่มนี้ด้วย

กาเลนยกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นจิบ ปกติเขาไม่ใช่คนชอบของมึนเมานอกเสียจากจะเข้าวงสังคมหรือสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเท่านั้น วันนี้เขาลูกน้องคนสนิทของตัวเองมานั่งฟังเพลงและจิบกันเล็กๆ น้อยๆ ที่ผับแห่งนี้ก่อนจะเดินทางกลับประเทศในช่วงสายๆ ของพรุ่งนี้

“อยากดื่มอะไรสั่งตามสบายเลย” เขาบอกสั้นๆ สายตาที่คมกริบราวกับมีดแต่เย็นชาคู่นั้นมองนิ่งไปยังฟลอร์เต้นรำที่มีคู่ชายหญิงวาดลวดลายกันอยู่หลายคู่ โดยไม่สนใจสายตาของพวกสาวแก่แม่หม้ายที่มองจ้องเขาเขม็งเหมือนกับอยากจะเข้ามานั่งบนตักแล้วลูบไล้ใบหน้าคมเข้มนั้นเสียเหลือเกิน คิ้วหนาดกดำกับผมซอยสั้นทำให้ใบหน้าของเขาดูดึงดูดสายตามากยิ่งขึ้น

หลังจากเสร็จจากงานที่ทำให้เขาต้องเดินทางมาถึงประเทศไทย เขาก็พาลูกน้องทั้งสองคนที่ติดตามมาคอยปกป้องเขามาเที่ยวพักผ่อน เพราะใครๆก็รู้ว่าถ้ามาเมืองไทยก็ต้องมาเที่ยวที่พัทยาถึงจะคุ้มค่า ที่นี่มีทั้งแสง สี เสียง สุราและนารีเพียบพร้อม ถึงเขาจะไม่ใช่พวกที่เจ้าชู้ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่เคยผ่านพวกผู้หญิง จะมีบ้างก็บางครั้งเท่านั้น แต่ก็เฉพาะกับผู้หญิงที่เต็มใจเท่านั้น

สุนีย์ก็เป็นหญิงสาวอีกคนที่จ้องมองไปยังกลุ่มของชายหนุ่มหล่อทั้งสามคน ชญานันท์หันไปมองตามสายตาของเพื่อนสาว เธอยอมรับว่าพวกผู้ชายต่างชาติพวกนั้นดึงดูดสายตาของพวกสาวๆ ในผับนี้ได้ไม่น้อย โดยเฉพาะคนที่สวมเสื้อยืดสีดำที่นั่งไขว้ขาอยู่ ผิวสีแทน ผมถูกซอยสั้นรับกับใบหน้าที่ได้รูป คิ้วดกดำ จมูกโด่งเป็นสัน ท่าทางของเขาราวกับพญาราชสีห์ก็ไม่ปาน ดูน่าเกรงขามและน่ากลัวในเวลาเดียวกัน แต่ผู้ชายยิ่งหล่อยิ่งอันตราย เธอเคยเห็นมามากแล้ว ชญานันท์นึกค้อนอยู่ในใจก่อนจะหันกลับมามองทางเพื่อนสาวที่นั่งมองตาเยิ้มอยู่ข้างๆ

“สนใจคนไหนล่ะฉันจะได้ไปขอให้”

“บ้า” คนถูกแซวหันมายิ้มกับเพื่อนรัก

“บ้าอะไร ก็ฉันเห็นเธอนั่งมองพวกเขาตาไม่กระพริบเลย จะหิ้วกลับไปสักคนไหมล่ะ?” หญิงสาวพูดปนหัวเราะ ก่อนจะหันไปมองทางประตูทางเข้าผับเพื่อหาอะไรบางอย่างก่อนจะหันกลับมาทางเพื่อนสาวอีกคน

“แล้วเมื่อไรเจ้าภาพของงานจะมาเนี่ย ทำเป็นพวกตัวสำคัญไปได้ ต้องให้ชาวบ้านเขามารอ” ชญานันท์บ่นอย่างหงุดหงิด

“เดี๋ยวก็คงจะมา ใจเย็นๆ ก่อนน่า” สุนีย์แตะแขนเพื่อนสาวเบาๆ

สุนีย์เป็นผู้หญิงที่สวยสะดุดตา ผิวขาวอมชมพูผมสั้นแค่ไหล่ ใบหน้ายาวรูปไข่ ส่วนคนที่หญิงสาวกล่าวถึงเมื่อครู่จะเป็นหญิงสาวที่สวยแบบฉูดฉาด ดูเปรี้ยวและเหย่อหยิ่ง ส่วนอีกสาวหนึ่งดูเรียบๆ ผิวสีคล้ำกว่าสองสาว ผมดำหยักศกยาวแค่หลัง คิ้วเรียวยาวดำอย่างเป็นธรรมชาติ จมูกโด่งรับกับริมฝีปากเรียวเข้ารูป แต่สิ่งที่สามสาวมีเหมือนกันก็คือรูปร่างสูงเพรียวที่เรียกได้ว่าน่าจะเป็นนางแบบได้สบายๆ

ฮิสมานั่งมองไปยังโต๊ะของหญิงสาวอีกฝั่งนิ่ง ท่าทางสนใจนั้นทำให้ผู้เป็นเจ้านายต้องหันไปมองตามสายตาของลูกน้อง และสิ่งที่เขาเห็นก็คือหญิงสาวสองคน คนหนึ่งผิวขาวเนียน สวยสะดุดตา ส่วนอีกคนผิวคล้ำกว่า แต่ดูสวยคมไปอีกแบบ

“สนใจหรือไง?” เขาหันมาถามลูกน้องพร้อมกับอมยิ้ม

“ก็ไม่เชิงครับ แต่พวกเธอก็ดูน่าสนใจกว่าผู้หญิงกลุ่มอื่นไม่ใช่หรือครับ” ฮิสมาบอกพร้อมกับเหลือบหางตามามองทางนายหนุ่ม

“ใช่ แต่ดูพวกเธอจะเจนจัดไม่เบา ไม่งั้นก็คงไม่มาเที่ยวในที่แบบนี้หรอก” ชายหนุ่มให้ความเห็นก่อนจะยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่ม

“แต่ผมว่าคนที่มาใหม่ดูเปรี้ยวจี๊ดจ๊าดน่าดูเลยนะครับนาย” โซฮันบุ้ยปากไปทางโต๊ะของพวกหญิงสาวที่พวกเขากำลังใช้สนทนากัน ทั้งสามหนุ่มหันไปมองพร้อมกัน

กิตติมาอยู่ในชุดเดรสสั้นเลยเข่าสีแดงสดเข้ากับริมฝีปาก ใบหน้าสวยถูกแต่งแต้มเอาไว้อย่างบรรจง หญิงสาวนั่งลงข้างๆกับเพื่อนสาวที่ชื่อสุนีย์ ก่อนจะมองปราดไปที่ชญานันท์

“ไม่คิดว่าเธอจะมาด้วย เพราะไม่ได้เชิญ”

“ฉันก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาอยู่แล้ว แค่มาเป็นเพื่อนนีเขา กลัวว่าเธอจะทำให้เพื่อนของฉันเสียคน” ชญานันท์สวนกลับอย่างทันควันก่อนจะนั่งกอดอกพิงกับพนักเก้าอี้แล้วมองหญิงสาวที่มาใหม่อย่างไม่พอใจ

“เอาน่าเจส ฉันเป็นคนชวนนันเขามาเป็นเพื่อนเอง เธอก็อย่าโมโหไปเลย วันนี้วันเกิดเธอ ทำจิตใจให้สบายแล้วก็สนุกกันดีกว่า บอกตรงๆนะว่าฉันไม่เคยมาเที่ยวที่พรูๆแบบนี้หรอก” สุนีย์สารภาพตามตรง อย่างมากเธอกับชญานันท์ก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยวกันตามข้างทางมากกว่า

“เพราะแบบนั้นไง ฉันถึงได้ชวนเธอมาเที่ยวเสียบ้าง จะได้รู้ว่าอะไรมันเป็นอะไร ไม่ใช่อยู่แต่ในห้อง ทำตัวเป็นคนแก่หัวโบราณเหมือนกับบางคน” กิตติมาพูดพร้อมกับเชิดหน้าไป ทางชญานันท์ที่ยกขาขึ้นไขว้กันเอาไว้ น่องขาเรียวเนียนสร้างความตื่นตาให้กับชายหนุ่มรอบข้างได้ไม่น้อย

“สั่งอะไรมาดื่มกันดีกว่า ฉันไม่อยากเสียบรรยากาศ” เธอกระแทกเสียงใส่แล้วมองหาบริกร พลันสายตาของเธอก็หันไปสบเข้ากับสายตาคู่คมของชายหนุ่มต่างชาติคนหนึ่ง ซึ่งเธอดูอย่างผิวเผินแล้วน่าจะเป็นพวกชาวตะวันออก หญิงสาวหัวใจเต้นแรง เธอไม่เคยเจอใครที่หล่อบาดใจเธอได้ขนาดนี้เลย หญิงสาวคลี่ยิ้มไปให้อย่างมีไมตรี และพวกชายหนุ่มก็ยิ้มตอบกลับมา ชญานันท์หันไปมองตามสายตาของเพื่อนแกมคู่อริอย่างหมั่นไส้

“พวกนี้อีกแล้วหรือ หล่อตรงไหน?” เสียงหญิงสาวพึมพำเบาๆ

“ที่เธอมองพวกเขาไม่หล่อก็เพราะพวกเขาไม่ได้สนใจเธอน่ะสิ” กิตติมาหันมายิ้มเยาะ

“ถึงฉันจะไม่สวย ไม่รวยเหมือนกับเธอ ฉันก็พอใจที่จะมีอยู่แค่นี้เพราะฉันไม่ใช่คนที่ทะเยอทะยาน” ชญานันท์เอนตัวขึ้นมาหยิบแก้วน้ำดื่มขึ้นจิบ

“เชอะ” อีกฝ่ายทำเสียงขึ้นจมูกแล้วหันมาทางสุนีย์ที่อมยิ้มมองไปทางชายหนุ่มกลุ่มเดียวกับตนเอง “เธอชอบคนไหนหรือนี ฉันชอบคนที่ใส่เสื้อสีดำทั้งหล่อ ทั้งแมน” หญิงสาวทำท่าทางเพ้อฝัน

“ฉันชอบอีกคนที่นั่งข้างซ้ายของเขา ดูเขาจะสุภาพดี” สุนีย์บอกอย่างเขินๆ ใบหน้าขาวแดงระเรื่อเมื่อกลุ่มผู้ชายโบกมือให้

“ว้าย! นีดูสิพวกเขาโบกมือมาทางพวกเราด้วย วันนี้ฉันว่าเราหาเจ้ามือได้แล้วนะ”กิตติมาบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง วันนี้เธอคงได้ใช้เสน่ห์อย่างคืนที่ผ่านๆมา

“เงินตัวเองก็มียังจะไปเบียดเบียนคนอื่นอีก น่าไม่อายจริงๆ” ชญานันท์พูดออกมาตรงๆ ทำให้กิตติมาหันมามองตาขวาง

“นี่ ถ้าไม่มีอะไรจะพูดก็หุบปากไปเลยนะก่อนที่จะโดนตบ”

“ตบก็ตบสิ คิดว่าฉันกลัวเธอหรือไง” ทั้งคู่เชิดหน้าเข้าหากัน แต่ก็ยังดีที่สุนีย์ใช้มือกันทั้งสองสาวออกจากกันได้ แล้วหลิวตาไปทางด้านหน้าโต๊ะ

“พอได้แล้ว โน่นหนุ่มหล่อเดินมาโน่นแล้ว” หญิงสาวบอกพร้อมกับอมยิ้มให้กับชายหนุ่มที่เธอแอบมองอยู่

ฮิสมาโค้งให้กับสามสาวก่อนจะเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพด้วยภาษาอังกฤษ “นายของพวกเราอยากเชิญคุณผู้หญิงทั้งสามไปร่วมโต๊ะกับพวกเราครับ จะรังเกียจไหมครับ”

“รังเกียจ” ชญานันท์ตอบกลับไปอย่างไม่คิด

“ไม่...ไม่รังเกียจค่ะ พวกเรายินดีค่ะ” กิตติมาหันมาทำตาดุใส่คู่อริแล้วหันมายิ้มให้กับฮิสมา

“ถ้างั้นเชิญที่โต๊ะของพวกเรานะครับ” ชายหนุ่มผายมือไปที่โต๊ะของตนเอง กิตติมารีบลุกขึ้นเดินนำหน้าเพื่อนสาวทั้งสองคนไป

“ไปเถอะนัน เป็นเกียรติให้เขาหน่อย ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา ถือว่าเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูต” สุนีย์หันมามองหน้าเพื่อนรัก ที่นั่งทำหน้างออยู่

“แล้วเธรู้เหรอว่าพวกเนี่ยจะขอเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูตกับพวกเธอแบบไหน ฉันไม่ไปแล้วเธอก็ห้ามไปด้วย ปล่อยแม่นั่นไปคนเดียวเถอะ เรื่องพวกนี้ยัยนั่นถนัดอยู่แล้ว” หญิงสาวเสไปมองหญิงสาวที่นั่งลงข้างๆกับชายหนุ่มเสื้อดำ ฮิสมาเลิกคิ้วเหมือนเป็นเชิงถาม สุนีย์ยิ้มให้เขาก่อนจะหันมาทางเพื่อนสาวอีกครั้ง

“ไปเถอะนัน ถือว่าเป็นเพื่อนกันนะ เผื่อมีอะไรเธอจะได้ช่วยฉันได้ด้วย นะ ไปนะ” เธอบอกพร้อมกับดึงแขนเพื่อนสาวให้ลุกขึ้น ชญานันท์ขืนตัวเอาไว้แล้วนิ่งคิด ก่อนจะลุกขึ้นยืน

“ก็ได้ แต่แค่แป๊บเดียวนะ ฉันไม่ชอบพวกผู้ชายต่างชาติ”

“จ้ะ” สุนีย์ยิ้มร่าแล้วเดินจูงแขนเพื่อนสาวไป โดยที่ทั้งสองสาวไม่รู้เลยว่าบทสนทนาที่เป็นภาษาไทยของพวกเธอนั้นชายหนุ่มต่างชาติฟังออกทุกคำ และเขาก็แอบขำที่ในโลกนี้ยังมีหญิงสาวที่ไม่สนใจคนหล่อๆ อย่างพวกเขาอยู่ด้วย โดยเฉพาะเจ้านายของเขา ถ้ารู้คงหัวเราะขำกลิ้งแน่ๆ เพราะผู้หญิงทั้งที่คูลฮาร์นและสาวสวยจากต่างแดน ต่างก็ต้องการอยู่เคียงข้างนายหนุ่มของเขาทั้งนั้น 3 สิงห์ทะเลทรายที่ทุกคนร่ำลือกันในกิตติศักดิ์ความร่ำรวย ความร้ายกาจในฝีมือและความหล่อเหลา ตอนนี้ 2 สิงห์ได้แต่งงานมีครอบครัวไปแล้ว เจ้าชายเรฮานกับพระชายาชุติกาญจน์ นักธุรกิจหนุ่มอาเหม็ดกับอภัสราหญิงสาวลูกครึ่ง คงเหลือแต่เพียงเจ้านายของเขาเท่านั้นที่ยังครองตัวเป็นโสดอยู่หลังจากที่ล้มเหลวกับการแต่งงานมาแล้วครั้งหนึ่ง ฮิสมาคิดมาถึงตรงนี่ก็ต้องอมยิ้มอีกครั้งแล้วเดินตามสองสาวไทยไป

“เชิญครับ” กาเลนผายมื้อเชื้อเชิญแต่ก็ไม่ได้ลุกขึ้นอย่างอีกหนุ่ม โซฮันลุกขึ้นแล้วยกเก้าอี้ให้กับชญานันท์นั่ง เช่นเดียวกับฮิสมาที่ทำให้กับสุนีย์

“ผมขออนุญาตแนะนำนะครับ” ฮิสมาบอกแล้วผายมือไปทางเจ้านายของตนเอง

“คนนี้เป็นเจ้านายของพวกผมชื่อ กาเลน ส่วนนั้น โซฮัน และผม ฮิสมาครับ”

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ ฉันชื่อกิตติมาหรือเรียกเจสก็ได้ค่ะ” เธอบอกแล้วยื่นมือออกไปจับกับชายหนุ่มทั้ง 3 คน ก่อนจะหันมาแนะนำอีก 2 สาว

“คนนั้นชื่อสุนีย์ ส่วนอีกคนชื่อชญานันท์ค่ะ” หางตาของเธอมองค้อนให้กับชญานันท์ แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้สนใจอะไร

“ยินดีที่ได้รู้จักครับ” กาเลนตอบแทนพวกที่เหลืออีก 2 คน สายตาที่มองมานั่นแม้ว่าจะเรียบเฉยแต่มันก็ทำให้ชญานันท์รู้สึกร้อนๆ หนาวๆ

ชญานันท์มองสำรวจสามหนุ่มอย่างคราวๆ ชายคนที่ใส่เสื้อดำสายตาดูมีอำนาจ สายตาของเขาทำให้หัวใจของเธอเต้นแรงอย่างไม่มีสาเหตุ ส่วนชายอีก 2 คน สวมเสื้อยืดสีเทาเข้ม ผมตัดสั้นซอยอย่างเป็นระเบียบ แต่ก็ดูหล่อเข้ม

“ดูท่าทางเพื่อนของคุณจะไม่ชอบพวกเราสักเท่าไรเลย” กาเลนยิ้มที่มุมปากแล้วเบนสายตามาทางชญานันท์ที่นั่งคู่กับโซฮัน

“ใช่ค่ะ ฉันไม่ชอบพวกผู้ชายที่เห็นผู้หญิงเป็นไม่ได้” ชญานันท์ตอบแล้วมองกลับอีกฝ่ายอย่างหมิ่นๆ โซฮันเลิกคิ้วไม่คิดว่าหญิงสาวจะพูดตรงขนาดนี้ ไม่เคยมีใครกล้าพูดกับเจ้านายของเขาแบบนี้สักคน

คิ้วหนาดกดำขมวดเข้าหากัน กาเลนเพิ่งเจอผู้หญิงที่กล้าเถียงเขาก็วันนี้เอง เขากระตุกยิ้มที่มุมปาก ชักเริ่มสนุกเสียแล้ว

“คุณคงจะไม่รวมหมายถึงพวกผมหรอกนะครับ เพราะผมแค่ต้องการเชื่อมไมตรีด้วยเท่านั้น” เขาตอบยิ้มๆ

“อย่าไปถือสาหล่อนเลยค่ะ แม่นี่ก็เป็นแบบนี้แหละ มองโลกในแง่ร้ายเสมอ มาค่ะมาดื่มฉลองให้กับมิตรภาพของพวกเรา” กิตติมายกแก้วขึ้นมาชนกับแก้วของกาเลน

“ฉันขอตัวก่อนนะ จะไปเข้าห้องน้ำ” ชญานันท์บอกแล้วลุกเดินไปดื้อๆโดยไม่แคร์สายตาของใครทั้งสิ้น

กาเลนมองตามหลังไปพร้อมกับหัวเราะในลำคอ ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้สวยโฉบเฉียว แต่ดูท้าทายและน่าลิ้มลอง มองใกล้ๆ ก็ยิ่งน่ามอง