One night stand DADDY&MOM จำเป็น บทที่3.
บทที่3.ความวัวยังไม่ทันหายควายดันโผล่มาเสียนี่
เกือบสามเดือนที่ชินแล้วกับคำถามโดยตรงหรือแบบอ้อมๆ จากเพื่อนร่วมงานหรือคนรู้จัก
“เมรี เธอแต่งงานตอนไหนเหรอ?”
“สามีเธอคนไหนล่ะ?”
“หนูๆ ท้องจริงๆ เหรอจ้ะ”
และเพราะเมรีเป็นสาวแกร่งที่ไม่ใคร่จะแคร์ปากคนเท่าไหร่ ในที่สุดคนรอบตัวก็เริ่มหมดความสนใจ เมื่อมีเรื่องใหม่น่าสนใจกว่าเข้ามาแทน
“ไอ้พวกปากหอยปากปูหมดความสนใจแกแล้วแหละเมรี”
ไพลินวางถุงแตงโมไว้ตรงหน้าเพื่อน ช่วงนี้เมรีกินได้แต่ผลไม้ อาการผะอืดผะอมก็ไม่เคยมีให้เห็น ยกเว้นสรีระที่เริ่มขยายมากขึ้นจนเห็นชัด
“ทำไมล่ะ?”
ไม่ได้สนใจนักหรอก เมื่อยัดแตงโมใส่ปาก แค่ถามตามความเคยชินเฉยๆ
“ก็หนุ่มแบงค์ข้างๆ สำนักงาน คนที่เพิ่งย้ายมาใหม่คนนั้นไงล่ะ ดึงความสนใจจากแม่พวกปลากะดี่พวกนั้นไปจากแกจนหมด”
“อ๋อ...” เมรีครางยาวๆ ไม่ได้สนใจจริงจัง
ยัดแตงโมใส่ปากเหมือนกับหิวเสียเต็มประดา ทั้งที่ของกินของตนเองไม่เคยขาดปาก
“นอกจากผลไม้แล้ว มีอะไรที่พอจะกลืนลงไปได้อีกมั่ง”
เบญจาเดินผ่านมาพอดี อดไม่ได้ที่จะสัพยอกเพื่อน
“ไม่มี แต่ฉันก็พยายามฝืนกินข้าวนะ ฉันอยากให้ลูกแข็งแรง”
เมรีตอบ เธอกับเพื่อนศึกษาการเลี้ยงเด็กผ่านหนังสือ และตามเวปต่างๆ ไม่มีใครมีประสบการตรงตัวสักคน สามสาวล้วนแล้วแต่เป็นสาวโสด ที่พยายามเกาะคานไว้อย่างเหนียวแน่น
เมรีเองก็เช่นกัน เธอมีปณิธานในใจ
หากไม่เหลือบ่ากว่าแรงนัก เมรีตั้งใจ เธอจะไม่ขอมีสามี
ประสบการณ์วัยเด็กขมขื่นจนกล้ำกลืนฝืนใจรักเพศตรงข้ามไม่ไหว เมรีพยายามทำใจแล้ว ผู้ชายไม่ได้แย่เหมือนกันทุกคนหรอก ไม่อย่างนั้นผู้หญิงสาวๆ คงไม่ขวนขวายเหลือเกินที่จะมีคู่ครอง
เมรีถอนใจแรงๆ เมื่อเผลอตัวนึกถึงความหลัง
ภาพแม่นั่งจมอยู่กับน้ำตา ชะเง้อรอให้บิดาแวะมาหา ทั้งที่แต่งงานจดทะเบียนสมรสกัน มีพยายานรักคือเธอทั้งคน
บิดาผู้มักมากในเกมราคะก็ไม่สามารถหยุดความปรารถนาล้นอกของตนเองได้
หลายครั้งที่เมรีได้ยินเสียงทะเลาะกัน ระหว่างบิดามารดา และจบด้วยการที่บิดาหายหน้าไปคราวละหลายๆ วัน
ตอนเด็กเมรีไม่เข้าใจนัก
แต่เมื่อโตเป็นสาว พฤติกรรมที่บิดาทำให้เห็น เมรีเลยสาปส่ง
“ว่าแต่แกแวะไปส่องผู้ชายคนนั้นมาบ้างหรือยังยะเบญ” ไพลินเอ่ยปากถาม มือสาละวนกับการเฉาะฝรั่งใส่จาน
“ไปมาแล้ว หล่อจริงๆ แต่...”
“แต่อะไรละ?” ครานี้เมรีเป็นคนถาม น้ำเสียงของเพื่อนแฝงความกังขาไว้ไม่มิด
“คือ...ฉันว่าไม่ใช่แมนหรอก หล่อวัวควายตายพรรค์นั้น จะโสดอยู่จนถึงป่านนี้ได้ยังไง” เบญจาวิเคราะห์ หลังได้เห็นรูปโฉมของหนุ่มในหัวข้อสนทนาเต็มตาแล้ว
“ฉันเห็นด้วยนะ ผู้ชายส่วนใหญ่สมัยนี้ ไม่เกย์ ก็อีแอบ” ไพลินพูดสนับสนุน
“ถ้าเป็นแบบนั้นก็น่าเสียดายแย่เลย” เบญจาบ่นพึมพำ หย่อนก้นทำท่าจะนั่ง
“พวกแกไม่มีงานทำหรือไงยะ” เมรีรั้งไว้เสียก่อน ทั้งเบญจาและไพลินเลยยอมถอย แต่ก็ยังไม่วายป้องปากพูดเสียงแผ่วๆ
“เที่ยงฉันจะพาแกไปส่องผู้ชายคนนั้นนะ ช่วยแสกนให้หน่อยสิว่าใช่หรือไม่ใช่”
เมรีอมยิ้ม...ก้มหน้าทำงานต่อ พยายามไม่สนใจสายตาสอดรู้จากคนใกล้ตัว เธอเริ่มชินเสียแล้วกับสายตาอยากรู้อยากเห็นจากคนเหล่านั้น
เพิงขายอาหารตามสั่งข้างตึกสำนักงาน มีผู้คนมาใช้บริการหนาตา คงเป็นเพราะสะดวกและราคาไม่แพง พนักงานในสำนักงานที่เมรีทำงานอยู่เลยแวะมาอุดหนุนเกือบทุกวัน
จะมีแค่วันเงินเดือนออกวันเดียวมั้งที่ลูกค้าจะบางตา
วันนี้เป็นวันใกล้สิ้นเดือนลูกค้าเลยหนาตาเป็นพิเศษ
“พี่เมรี ทางนี้เลยค่ะ” เสียงร้องเรียกเมื่อเมรีและเพื่อนๆ เดินเข้าไปด้านใน
โต๊ะเต็มทุกโต๊ะ และหากไม่ใช่เพราะความสนิทสนมส่วนตัวกับลูกสาวเจ้าของร้านเธอกับเพื่อนไม่มีทางมีที่นั่ง เมรียิ้มให้เดินตามเสียงเรียกไป
“พี่เมรีดูอวบๆ นะคะ คงไม่ได้กำลังมีน้องใช่ไหมคะ”
คงเป็นเพราะความปากไวตามประสาวัยรุ่นเลือดร้อน แก้วใจเลยเผลอตัวถามออกมา เมรียังไม่ทันได้ตอบ เสียงแหลมๆ ของสายหยุดก็ชิงตอบแทนเสียก่อน