One night stand DADDY&MOM จำเป็น บทที่2...
สามสาวนั่งหน้าซีดพอๆ กันในร้านกาแฟไม่ไกลจากคลินิก
ใบตรวจครรภ์วางอยู่ตรงหน้า พร้อมกับยาบำรุงที่พยาบาลจัดให้
“เอาไงดีเมรี เอาไว้ หรือเอาออก?”
ไพลินถามเสียงเคร่ง สีหน้าทุกคนพลอยเคร่งเครียดไม่ต่างกัน
“บ้าเหรอลิน นี่ ‘ลูก’ ฉันนะ” เมรีครางเสียงหลง เด็กไม่ผิด ผิดที่เธอเอง อย่างน้อยเขาก็อยากมาเกิด แล้วเธอมีสิทธิอะไรไปทำลายเขาทิ้ง
“ไหวเหรอวะ แม่เลี้ยงเดี๋ยวมันไม่ง่ายเลยนะ กับเศรษฐกิจวิบัติแบบทุกวันนี้”
ข้าวยาก หมากแพง ค่าแพมเพิส ค่านม ค่ายา ค่ากินอยู่ ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ เลยสำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว
“ค่อยๆ คิด ค่อยๆ ตัดสินใจ ยังพอมีเวลาน่า”
เบญจาส่งสายตาปรามไพลินไว้
เรื่องนี้ต้องใช้ความคิด วู่วามไม่ได้
“ไม่ต้องคิดหรอก ฉันจะเอาเขาไว้ ฉันเลี้ยงได้ ไหวอยู่แล้ว”
ไม่ค่อยมั่นใจหรอกว่าตัวเองไหวหรือเปล่า แต่เธอทำลาย ‘เขา’ ไม่ลง เลือดก้อนนี้อยู่ในอกเธอแล้วนะ เธอไม่ใช่คนใจดำ ใจยักษ์ใจมารอะไรนี่
“เอางั้นเหรอ ไหวแน่นะ”
เบญจาถามย้ำ เธอไม่ได้คัดค้าน เพราะรู้นิสัยเมรีดี
“ไม่รู้เหมือนกัน แหมแก...พ่อ แม่ยังเลี้ยงเรามาได้เลย ทำไมฉันจะเลี้ยงไม่ได้ล่ะ ลูกคนเดียวเอง”
“โชคดีที่พ่อแม่แกชิงไปสวรรค์ก่อน ไม่งั้นคงลมจับ”
ไพลินบ่นอุบอิบ ที่ห่วงเพราะเมรีตัวคนเดียวนั่นแหละ บิดามารดาเมรีชิงหนีไปบนฟ้า ปล่อยบุตรสาวแก่นแก้วเผชิญโลกวุ่นวายแค่คนเดียว
“โชคดีอีกเรื่อง...ที่ฉันไม่ต้องผ่อนบ้านเหมือนพวกแกไง”
เมรีฝืนยิ้ม มือเรียวเล็กวางบนหน้าท้อง สายใยที่เริ่มถักทอ ทำเอาเธอน้ำตาซึม อย่างน้อย...เธอก็จะมีญาติ ญาติที่เป็นญาติสนิทจริงๆ สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียวอย่างตนเอง
เรื่องราวครั้งหลัง ทำให้เมรีครองตัวเป็นโสด
บิดา มารดาไม่ได้จากไปเหมือนชาวบ้านชาวช่องปกติทั่วไป
มันมีเรื่องสะเทือนใจ และเป็นสาเหตุหลักให้เมรีเข็ดการเริ่มต้น และการมีครอบครัว
มันเป็นเรื่องตลกขบขันสำหรับคนอื่นๆ รอบตัวเธอ บิดาจอมเจ้าชู้ พากิ๊กหลบสายตามารดาของเธอไปแสวงหาความสุขในที่ลับๆ แต่มารดาที่แสร้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาตลอดชีวิต เนื่องจากความรักที่มีต่อตัวสามี
ความอดทนเป็นเรื่องละเอียดอ่อน
และความอดทนที่ถึงจุดสิ้นสุด เรื่องเลยแย่ลงเรื่อยๆ
วันสำคัญของเมรี ควรมีแต่เรื่องน่ายินดี เมรีไม่คิดสักนิด วันที่เธอควรมีความสุข กลับมีแต่คราบน้ำตา
เธอหอบความสำเร็จกลับมาอวดบิดา มารดา เมรีกลับได้รับข่าวร้ายแทน เจ้าหน้าที่บอกข่าวร้ายให้เมรีรับรู้ เมรีแทบล้มทั้งยืน บิดาถูกมารดาปลิดชีพด้วยอาวุธร้ายแรง แล้วฆ่าตัวตายตาม
เสียงก่นด่าของญาติ ‘ผู้หญิงอีกคน’ ของบิดาดังลั่น
เมรีกลั้นน้ำตาไว้ แล้วเดินเข้าไปถามตรงๆ
“ด่าไปก็ไม่เกิดประโยชน์อะไรหรอกค่ะ พ่อ แม่ฉันไม่อยู่แล้ว ความจริง ลุงกับป้าก็น่าจะทำใจได้นะ ลูกของลุง ‘แทรก’ เข้ามาในชีวิตพ่อแม่ฉันเอง ในเมื่อตั้งใจเขามาเพื่อทำร้ายกันแบบนั้น สมควรแล้วล่ะกับความระยำที่เกิดขึ้น มือที่สามน่ะ ไม่มีใครเจริญหรอกนะคะ แย่งผัวเขา แล้วจะมาถามหาความยุติธรรมจากใครล่ะ?”
ใช่เลย ผู้หญิงคนนั้นมาร้องแล่แหกเชอเพื่อทวงสมบัติอันน้อยนิดจากบิดาของเธอ
ฝันไปเถอะ...หล่อนเป็นสาเหตุหลักให้พ่อ แม่เธอสิ้นใจ
แหกปากให้ปากฉีก เมรีก็ไม่คิดจะเจือจารให้
ผู้หญิงพวกนี้ สมควรถูกประณามมากกว่า
เมรีดึงสติตนเองกลับมาในโลกปัจจุบัน อดีตก็เป็นแค่อดีต เธอถูกผู้หญิงคนนั้นตามรังควานอยู่หลายปี กว่าหล่อนจะยอมล่าถอย
สักบาทสักสลึงก็ไม่มีทางกระเด็นไปให้หรอก
‘อยากได้ไปฟ้องเอา’ เมรีบอกผู้หญิงคนนั้นไปแบบนั้น
“เอาไงก็เอา พวกเราจะช่วยเธอ เลี้ยงเด็กคนนี้เอง”
เมื่อเมรียืนกราน ใครล่ะจะคัดค้านได้ หลังปลงตก สามสาวก็ช่วยกันวางแผน จากนี้ไปเมรีต้องระมัดระวัง และดูแลตัวเองมากขึ้น ไอ้ชา กาแฟนี่ คงต้องงดกันยาว เนื่องมาจากมีผลกับเด็กในครรภ์นั่นเอง