One night stand DADDY&MOM จำเป็น บทที่2.
แรงดิ้นของหล่อนทำให้กระดุมเม็ดแรกหลุด และยิ่งขยับตัว กระดุมเม็ดต่อไปก็หลุดตามกันมาติดๆ เขาพยายามไม่มอง เพราะมีเจตนาดี เขาต้องการให้หล่อนสงบ ไม่เคยคิดสักนิดว่าจะล่วงเกิน
พอดิ้นไปสักพัก อาการวิงเวียนคงเพิ่มขึ้น
คราวนี้มาทั้งเสียงและกลิ่น หลังจากนั่นหล่อนก็นอนหอบแฮ่กๆ
บนตัวนะโมมีแต่คราบสกปรก บนตัวของหล่อนก็เช่นกัน
อารมณ์กรุ่นๆ ก่อนหน้านี้หายเป็นปลิดทิ้ง คงเพราะสมเพชหล่อน พร้อมกับสังเวชตัวเองด้วย
ครั้งต่อไป ต่อให้เพื่อนร่วมงานคะยั้นคะยอมากแค่ไหน เขาสัญญาจะไม่มีวันหลวมตัวแน่ๆ
นะโมใช้ผ้ากวาดคราบสกปรกบนตัวหล่อน ตลบผ้าห่มคลุมไว้ และจัดการถอดเสื้อเลอะๆ นั่นออกจากตัว นับหนึ่งถึงหนึ่งพันพอดี ตอนที่ตัวเสื้อหลุดออกจากร่างกลมกลึง หล่อนฮึดฮัดนิดหน่อย แต่ก็ยอมสงบลงโดยดี
เขาก้มมองเสื้อผ้าบางๆ ในมือ ก่อนจะตัดใจเดินเข้าไปในห้องน้ำ
ลงมือล้างคราบสกปรกบนเสื้อสะบัดแรงๆ และพาดไว้ที่ราวแขวน แล้วก็หันไปจัดการกับตัวเอง ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว เขาเสียเงินไปไม่น้อยกับค่าห้อง ค่ารถ
เลยถือวิสาสะอาบน้ำ ล้างกลิ่นเหม็นๆ ออกจากตนเองบ้าง
เขาคิดผิด และตัดสินใจผิดตั้งแต่ต้น เขาไม่ควรพาหล่อนมาที่นี่เลย
บทที่2.เรื่องแย่ๆ ที่อยากลืม
เมรีถอนใจรอบที่ร้อย เธอจำอะไรไม่ได้เลย ภาพเหตุการณ์ปะติดปะต่อ แต่ไม่ชัดเสียทีเดียว เธอพยายามนึก พยายามที่จะเค้นความคิด ‘ผู้ชายคนนั้น’ เป็นใคร เธอรู้จักเขาไหม?
ไม่เลย...
เธอไม่เคยแม้แต่เห็นหน้า ไม่เคยรู้จักมักจี่
แต่อะไรชักพาล่ะ ทำไมเธอตื่นขึ้นมาบนเตียงเดียวกับเขา
“ไอ้เพื่อนบ้ากรอกเหล้าฉันจนเมาหัวทิ่มเลย” เธอบ่นพึมพำ เพราะการออกไปเที่ยวครั้งแรก ทำให้เธอสูญเสียบางสิ่ง
เท่าที่เมรีจำได้ หลังมองหน้าผู้ชายคนนั้นจนจำได้ขึ้นใจ
เธอรีบเผ่นออกจากที่แห่งนั้นแบบไม่คิดชีวิต อย่างน้อยก็หนีไปตั้งหลักไกลๆ ก่อน อย่างอื่นค่อยว่ากัน
เมรีพยายามลืม แต่ไม่เคยลืมได้สักครั้ง
เธอโล่งใจไปหนึ่งเปราะ ผู้ชายคนนั้นก็ไม่เคยโผล่มากวนใจ ให้เธอปวดหัวซ้ำ
ช่างเถอะ...ถือเสียว่าถึงคราวซวย คิดเสียว่า ‘หมาเดินมาเยี่ยวใส่หลังเท้า’
เมรีสะบัดหน้าแรงๆ ไล่ความคิดสับสนในใจทิ้ง
แต่แล้วอาการในร่างกายก็ทำให้เธอตระหนก
อาการผะอืดผะอมเหมือนอยากจะคายของเก่าในช่องท้อง เหงื่อแข่งกันผุดขึ้นมาเหนือเนินหน้าผาก เมรีใจหายแว๊บ!!
‘เธอคงไม่ถึงคราวซวย’ ใช่ไหม
เมรีควานมือหาถ้ำยาดมมาจ่อที่ปลายจมูก เธอสูดกลิ่นสมุนไพรแรงๆ จนอาการที่เกิดขึ้นบรรเทาลง
จากนั้นก็รีบสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ เพื่อดูบันทึกความทรงจำที่ตนเองตั้งไว้
‘เวรแล้วไหมล่ะ’
กากบาททับบนวันที่ที่เป็นวันแดงเดือด วันที่เคยเป็นทุกเดือน แต่เดือนนี้กลับหายไปดื้อๆ
เธอจะไม่มานั่งกลุ้มใจเลย หากไม่เกิดอุบัติเหตุบ้าๆ กับตัวเอง
ทุกครั้งหากวันสำคัญไม่มา เมรีก็แค่หัวเราะ ต่อให้คลาดเคลื่อนไปเป็นเดือนก็ไม่เดือดร้อนสักนิด
เธอไม่เคยมีแฟน ไม่เคยมีความสัมพันธ์ทางกายกับเพศชาย
แต่ครั้งนี้มันไม่ใช่ไง...
ครั้งนี้เพราะมันมีปัญหา เมรีเลยเริ่มร้อนใจ
“เมรี ทำไมหน้าซีดจังวะแก?”
เบญจา เพื่อสนิททักเสียงแหลม
เมรีเงยหน้ายิ้มกร่อยๆ ให้ “เบญ เราจะซวยไหมวะ?”
เสียงอ่อยๆ สีหน้าหงอยๆ ของเพื่อน เบญจาเลยลากเก้าอี้มานั่งตรงหน้า จับมือเมรีมากุมไว้ พร้อมกับพลอยถามเสียงอ่อยไปด้วย
“เมนไม่มาเหรอรี?”
เมรีไม่เคยมีความลับกับเพื่อน เรื่องวุ่นวายวันนั้น มีเบญจาและไพลินรู้เรื่องอย่างละเอียด เหมือนเผชิญเหตุการณ์วันนั้นมาด้วยกัน
ใบหน้าเล็กๆ ผงกขึ้นลง พร้อมกับเสียงถอนใจแรงๆ
“ไปตรวจกัน เดี๋ยวฉันแวะไปชวนไพลินไปด้วย” อะไรจะเกิดมันย่อมเกิด แต่ควรมีสติตั้งรับ เบญจาภาวนาเอาใจช่วย ขอให้ความซวยของเพื่อน เป็นแค่เรื่องที่แอบกังวลไปเอง
แต่...โชคไม่เข้าข้างเมรีเลย
ผลตรวจออกมาค่อนข้างชัดเจน
เธอท้อง...