บทที่ 4
เมื่อวางแผนจะไปเซอร์ไพรส์พี่ชายถึงประเทศคานาร์ กันติศาก็จัดกระเป๋าเดินทางต่อพร้อมกับฮัมเพลงอย่างมีความสุขระคนตื่นเต้น ที่จะได้แกล้งให้พี่ชายให้ตกใจเล่นกับการปรากฏตัวของเธอ และตั้งใจว่าจัดกระเป๋าเดินทางเสร็จแล้วค่อยจัดการเรื่องหาตั๋วเครื่องบินไปประเทศคานาร์
แต่! จัดกระเป๋าเดินทางยังไม่เสร็จดี ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขัดจังหวะอีกครั้ง และก็รีบคว้าโทรศัพท์มากดรับสายโดยไม่ได้มองหมายเลขที่โทร.เข้ามา และเพราะคิดว่ามารดาคงไปถึงวัดแล้ว และได้โทร.มาบอกเธอ จึงเอ่ยถามออกมาว่า
“แม่หมูไปถึงวัดและพบหลวงพ่อแล้วใช่ไหมคะ”
“เปล่าครับ ผมเพิ่งมาถึงลอสแอนเจลิสครับ”
คำตอบที่ได้รับเป็นเสียงห้าวทุ้มของผู้ชาย ซึ่งแน่นอนว่าไม่ใช่เสียงของบิดาของเธอ และต้นทางที่โทร.มาก็พูดเป็นภาษาอังกฤษด้วย ทำเอากันติศาต้องขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่ง พร้อมกับลดโทรศัพท์ลงเพื่อดูหมายเลขที่โทร.เข้ามาว่าใช่หมายเลขของมารดาหรือไม่ เมื่อเห็นเบอร์โทรศัพท์ที่โทร.เข้าซึ่งเธอไม่รู้จัก ก็เอ่ยถามอีกฝ่ายกลับคืนเป็นภาษาอังกฤษบ้าง
“ขอโทษค่ะ คุณโทร.ผิดหรือเปล่าคะ”
“ไม่ผิดครับ ผมตั้งใจโทร.มาหาหนูชมพู่โดยเฉพาะ”
การเรียกชื่อเล่นของเธออย่างสนิทสนมยิ่งทำให้กันติศาสงสัยหนักกว่าเดิมว่าเจ้าของน้ำเสียงห้าวทุ้มคนนี้คือใคร และที่สำคัญเขารู้เบอร์โทรศัพท์ของเธอได้อย่างไร
“คุณเป็นใครคะ รู้เบอร์โทรศัพท์ของฉันได้ยังไง”
กันติศาถามเสียงห้วน บอกกับตัวเองหากได้รับคำตอบที่ไม่เข้าหูก็เตรียมกดวางสายในทันที แต่...คำตอบที่ได้รับกลับเพิ่มความสงสัยให้ทวีมากขึ้นกว่าเดิม
“ผมได้เบอร์โทรศัพท์ของหนูชมพู่มาจากเจ้าหญิงอลิยาครับ”
“จากเจ้าหญิงอลิยา”
กันติศาทวนคำ เกิดอาการหงุดหงิดใจอยู่บ้างเมื่อต้นทางที่โทร.มาไม่ยอมแนะนำตัวเองสักที จนต้องถามซ้ำอีกครั้งด้วยน้ำเสียงติดห้วนๆ และฟังดูเหมือนออกคำสั่งกับต้นทางไม่มีผิด
“ทำไมไม่แนะนำตัวให้ฉันรู้จัก บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าคุณเป็นใคร และได้เบอร์โทร.ของฉันมาจากเจ้าหญิงอลิยาได้ยังไง”
คนที่ถูกออกคำสั่งเสียงห้วน ถึงกับกระตุกยิ้มและหันไปมององครักษ์ของตนเอง ซึ่งนั่งคู่กันอยู่ภายในรถยนต์ จากนั้นก็ตอบคำถามที่กันติศาเฝ้ารออยากได้ยิน
“ผมชื่อทาริส เป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลิยา และที่ผมโทร.มาหาคุณก็เพราะได้รับคำสั่งจากเจ้าหญิงอลิยาครับ”
กันติศาเริ่มรู้สึกดีขึ้นและผ่อนคลายความหงุดหงิดใจลงบ้าง เมื่อต้นทางได้แนะนำตัวเอง นอกจากนั้นความระหวาดระแวงก็เริ่มลดลงเช่นเดียวกัน เพราะเธอรู้จักและสนิทสนมกับเจ้าหญิงอลิยา ราชิต ซึ่งเป็นคู่หมั้นของพี่ชายของเธอ
“เจ้าหญิงอลิยามีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่าถึงให้คุณโทร.หาฉัน ว่าแต่ทำไมเจ้าหญิงไม่โทร.หาฉันเอง”
แม้เริ่มวางใจว่าอีกฝ่ายเป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลิยา แต่กระนั้นก็ยังมีข้อกังขาให้ทวงถามในประโยคท้าย
และคนที่ปลอมตัวเป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลิยา ก็หาเหตุผลมาตอบโต้สร้างความเชื่อ
ถือให้เกิดขึ้นกับผู้ตั้งคำถาม
“เจ้าหญิงอลิยากำลังยุ่งอยู่กับการจัดงานอภิเษกของเจ้าหญิงอลิลา จึงไม่มีเวลาโทร.หาคุณ และได้มอบหมายให้ผม ซึ่งเป็นองครักษ์ได้โทร.หาคุณครับ”
“เจ้าหญิงให้โทร.หาทำไม”
กันติศายังคงตั้งคำถามเดิม ซึ่งต้นทางไม่ยอมตอบคำถามนี้สักที
แผนการลักพาตัวน้องสาวสุดรักสุดห่วงของภูมินิทโดยละม่อม ถูกวางแผนมาอย่างดิบดี ทั้งเรื่องการเดินทาง การหาเบอร์โทรศัพท์ของกันติศา รวมทั้งการซักซ้อมหาคำตอบไว้เสร็จสรรพหากถูกหญิงสาวตั้งคำถาม
และ...เจ้าชายทาริส ผู้ฉลาดเป็นกรด ได้คาดเดาเป็นการล่วงหน้าแล้วว่ากันติศาต้องตั้งคำถามเช่นนี้ จึงเอ่ยตอบได้อย่างไหลลื่นเป็นที่สุด
“เจ้าหญิงต้องการให้คุณเดินทางไปประเทศคานาร์ เพื่อเซอร์ไพรส์คุณบลู ที่จู่ๆ ก็ได้พบกับน้องสาว ที่ไม่ได้พบกันมานานหลายเดือนแล้ว”
มันแน่ยิ่งกว่าแช่แป้งว่า...หากเจ้าชายทาริส สนใจผู้หญิงคนไหนแล้ว ข้อมูลส่วนตัวและข้อมูลของครอบครัวของเธอจะถูกสืบเสาะหาอย่างละเอียดยิบ แม้แต่ตัวกันติศาก็นึกไม่ถึง
ใช่แล้ว! องครักษ์อัสมานทำงานได้ดีเยี่ยม หาข้อมูลมาได้อย่างละเอียดว่ากันติศาไม่ได้เจอกับภูมินิทผู้เป็นพี่ชายมาหลายเดือนแล้ว และนั่นทำให้กันติศาเชื่ออย่างสนิทใจว่ารัชทายาทแห่งประเทศนิรานที่ปลอบตัวมานั้น เป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลิยาจริงๆ
กันติศาเบิตตาโตกับคำตอบที่ได้รับ เพราะเธอเองก็ตั้งใจจะบินไปประเทศคานาร์เพื่อเซอร์ไพรส์พี่ชาย เธอไม่นึกว่าเจ้าหญิงอลิยาจะใจตรงกันกับเธอที่คิดอยากเซอร์ไพรส์คู่หมั้นเช่นเดียวกัน
“ตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์พี่บลู แต่ถูกเจ้าหญิงอลิยาซ้อนแผนเซอร์ไพรส์เราแทนหรือนี่”
กันติศาพึมพำออกมา และเสียงพึมพำที่เล็ดลอดผ่านสัญญาณโทรศัพท์ให้ต้นทางได้ยิน ทำเอาเจ้าชายทาริสแทบกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่
“ปลากำลังจะฮุบเหยื่อแล้ว”
เจ้าชายทาริสลดโทรศัพท์ลงจากใบหู แล้วหันมาพูดกับองครักษ์อัสมานเบาๆ ด้วยภาษาอาหรับ ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้กันติศาจะได้ยิน แต่หญิงสาวก็ฟังภาษาอาหรับไม่ออก
องครักษ์อัสมานถึงกับยกนิ้วให้กับความชาญฉลาดของเจ้าเหนือหัว จากนั้นก็รอฟังว่าเจ้าชายทาริสจะหลอกล่อกันติศาอย่างไรต่อ
ทางด้านของกันติศาเมื่อหลงเชื่อในเกมของเจ้าชายทาริส ก็เอ่ยบอกถึงแผนที่ตนตั้งใจจะไปเซอร์ไพรส์พี่ชายเช่นเดียวกัน โดยไม่รู้เลยว่าคำพูดของเธอทำให้เจ้าชายทาริสแทบหลุดเสียงหัวเราะออกมาหลายครั้ง
“ฉันตั้งใจจะบินไปเซอร์ไพรส์พี่บลูเหมือนกัน ไม่นึกว่าเจ้าหญิงอลิยาจะใจตรงกันกับฉัน”
“ใจตรงกันเป๊ะเลยครับ”
เจ้าชายทาริสเอ่ยตอบหลังจากพยายามกลั้นเสียงหัวเราะจนหน้าแดงไปหมด จากนั้นก็ปูทางให้กันติศาเดินเข้าสู่กรงทองที่ได้เปิดกรงรอไว้แล้ว
“เพราะอยากให้คุณไปเซอร์ไพรส์พี่ชาย เจ้าหญิงอลิยาจึงได้ส่งผมกับองครักษ์อีกหนึ่งคนมารับคุณถึงลอสแอนเจลิสครับ”
“มารับ?” กันติศาทวนคำ เลิกคิ้วขึ้นสูงด้วยความสงสัยจนอดถามต่อไม่ได้ว่า “หมาย ความว่ายังไงคะที่ว่ามารับฉัน”
“เจ้าหญิงส่งเครื่องบินเจ็ทมารับคุณถึงลอสแอนเจลิสครับ มีผมเป็นสจ๊วตและองครักษ์อีกคนเป็นกัปตัน ซึ่งเครื่องบินพร้อมบินกลับประเทศคานาร์ภายในห้าชั่วโมงนี้ครับ”
“ทำไมมันรวดเร็วนักละคะ”
กันติศาถามเสียงหลง ไม่แปลกใจเรื่องที่เจ้าหญิงอลิยาส่งเครื่องบินเจ็ทมารับเธอ เพราะต่างก็รู้ว่าท่านชีคดาจิม พระบิดาของเจ้าหญิงอลิยาร่ำรวยมาก มีเครื่องบินเจ็ทในครอบครองถึง 3 ลำ และการส่งเครื่องบินเจ็ทมารับเธอก็ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ที่แปลกใจเพราะทุกอย่างดูรวดเร็วจนเธอตั้งตัวไม่ติด และก็ต้องตกใจอีกรอบกับคำตอบที่ได้รับจากองครักษ์ตัวปลอมที่เอ่ยตอบว่า
“เจ้าหญิงใจร้อนครับ อยากให้คุณบินไปประเทศคานาร์เร็วๆ นอกจากอยากให้คุณไปเซอร์ไพรส์พี่ชายแล้ว เจ้าหญิงก็เซอร์ไพรส์คุณด้วย ที่ได้ส่งเครื่องบินมารับคุณโดยเฉพาะ”
ใช่! มารับกันติศาโดยเฉพาะ แต่เป็นเจ้าทาริส เฟริสส์ นิราน ต่างหากที่เดินทางด้วยเครื่องบินเจ็ทมารับน้องสาวของภูมินิท
“เจ้าหญิงทำให้ฉันเซอร์ไพรส์จริงๆ ค่ะ” กันติศาตอบกลั้วเสียงหัวเราะ
“เซอร์ไพรส์ยังไม่หมดเท่านี้ครับ คุณจัดกระเป๋าเดินทางรอได้เลยครับ เพราะผมจะขึ้นไปพบคุณภายในห้านาทีนี้ครับ”
“อะไรนะ!”
กันติศาร้อนเสียงหลง ผุดลุกขึ้นยืนแทบจะทันทีกับคำพูดของคนที่แอบอ้างว่าเป็นองครักษ์ของเจ้าหญิงอลิยา และเธอก็เชื่อซะสนิทใจด้วย และไม่มีโอกาสถามไปมากกว่านี้ เมื่อต้นทางตัดบทสั้นๆ ว่า
“เดี๋ยวเจอกันครับ รอเปิดประตูห้องให้ผมด้วย” เอ่ยบอกแล้วเจ้าชายทาริสก็กดตัดสายในทันที
เพราะได้ยินเสียงหัวเราะใสของกันติศาในก่อนนี้ ทำให้เจ้าชายทาริสอยากเห็นตัวจริงของผู้เป็นเจ้าของน้ำเสียงจนแทบทนไม่ไหว พอกดวางสายแล้ว ก็หันมาบอกกับองครักษ์อัสมานด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงความเจ้าเล่ห์อย่างเหลือร้าย
“ไปกัน...อัสมาน ไปลักพาตัวน้องสาวของนายบลูโดยละม่อม...”