บทที่1.เด็กหลงทาง ......
ชะเอมเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอครางในอก... คฤหาสน์หลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เธอเคยเห็นผ่านตาตอนออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เคยค่อนคอดในใจเพราะแอบอิจฉาเล็กๆ ตัวบ้านหลังใหญ่ปานพระราชวังแวซาย เจ้าของบ้านคงร่ำรวยมหาศาล ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มาพบเจอคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตัวเป็นๆ
“คุณป๊าเอวาไม่อยู่เหรอ? ป่านนี้ทำไมไม่มีใครมาตามหาเอวาเลยล่ะ” เธอบ่นแบบไม่ค่อยเข้าใจ คอยใช้ทิชชูซับมุมปากให้อิรินาบ่อยๆ เป็นความเอาใจใส่แบบที่เด็กหญิงรู้สึกอิ่มเอม หญิงสาวย่นหัวคิ้ว แอบค่อนบิดาของเด็กหญิงในใจคุณหนูของบ้านหายตัวไปเป็นเวลานาน ทำไมไม่มีใครในบ้านนั้นรู้เรื่องสักคน
“อยู่ค่ะ แต่คุณป๊าไม่สนใจเอวาหร๊อก!! เอวาดื้อ” อิรินาเริ่มน้ำตาตกอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงบิดา อเล็กไซบิดาของเธอคงกำลังป้อยอแม่สาวทรงโตที่เขาพามารับประทานมื้อค่ำด้วย เธอไม่พอใจอย่างแรง!! แต่บิดาไม่สนใจ...อิรินาก็เลยหลบออกมาจากบ้านโดยไม่บอกพี่เลี้ยง เพื่อต้องการเรียกร้องความสนใจจากบิดา และป่านนี้ที่บ้านคงวุ่นวาย แต่...ช่างเถอะ!! ทุกคนจะได้รู้เธอไม่พอใจผู้หญิงคนนั้น ไม่ชอบแววตาและการเสแสร้งของหล่อน มันไม่จริงใจ แม้แต่เด็กอย่างเธอยังรู้ แล้วทำไมบิดาถึงไม่รู้!! คงเป็นเพราะบิดาเอาแต่จ้องทรวดทรงของเจ้าหล่อน จนลืมความไม่เอาไหนส่วนอื่น และเธอไม่พอใจอย่างแรง!!
“ไม่มีพ่อ-แม่คนไหนไม่รักลูกหรอกนะจ๊ะ ท่านอาจจะแสดงออกไม่เป็นเพราะเป็นผู้ชาย เอวาเลยเข้าใจผิด”
ชะเอมพยายามช่วย เธอแก้ต่างให้ผู้ชายที่ไม่เคยพบหน้า เพราะสงสารความรู้สึกของเด็กหญิงที่เธอหลงรัก
“เอวาไม่อยากพูด...คุณป๊ามีเวลาให้แม่พวกนั้น แต่กลับเอวา คุณป๊าไม่เคยว่าง” เด็กหญิงจีบปากเล่า มุมปากอิ่มบิดเบี้ยวเมื่อย้อนนึกถึงความหลัง เธอไม่เคยอยู่ในสายตาบิดา...ไม่ว่าจะงานกิจกรรมที่โรงเรียน หรือการออกไปเที่ยวกันเป็นการส่วนตัว...อิรินามักต้องไปกับพี่เลี้ยงหรือไม่ก็คนสนิทบิดา ไร้เงาอเล็กไซ เมื่อเขายุ๊งยุ่ง!!
ชะเอมยิ่งปวดตับ!! เศรษฐีส่วนใหญ่เลี้ยงลูกแบบใช้เงิน ไร้ซึ่งความอบอุ่น
“เอ่อ...พี่เอม” เธอหยุดพูดเมื่ออิรินาช้อนสายตาตัดพ้อขึ้นมอง “เอ่อ...ไม่ชินน่ะ หม่ามี้ขอถามนี๊ด...ได้ไหมคะ” เธอรีบเปลี่ยนสรรพนามและมันได้ผล นางฟ้าของเธอค่อยๆ ยิ้มออก
“ได้ค่า...ถามมาเลย...เอวาจะตอบ”
“หม่ามี้ของเอวาไปไหนเหรอคะ?” เธออยากรู้เพราะหากพูดอะไรผิดๆ ออกไปจะได้แก้ต่างทันนิ้วกลมป้อมชะงักนิดๆ ก่อนจะยกชิ้นพิซซ่าขึ้นกัดกินต่อ ปากอิ่มรูปกระจับขยับตอบ หลังเคี้ยวพิซซ่าชิ้นโตๆ ไปได้สักพัก
“หม่ามี้ฟิริเซีย...อยู่ที่อื่นค่า หม่ามี้ไม่ชอบเอวาหร๊อก!! ชอบว่าเอวาบ่อยๆ ว่าเอวาดื้อ...เอวามีคุณป๊าคนเดียวก็พอค่ะ” คำพูดของเด็กมีปัญหาตรงหน้า มันบ่งบอกถึงสถาบันครอบครัว เด็กที่ยังไม่ประสีประสามักจะจดจำฝังใจกับเหตุการณ์ในชีวิต ชะเอมนึกอยากเห็นหน้าผู้หญิงที่ให้กำเนิดอิรินาเสียยิ่งนัก เด็กหญิงน่ารักเช่นนี้ ทำไมมารดาถึงรังเกียจรังงอน
“คุณป๊าเอวายังไม่ได้แต่งงานใหม่ใช่ไหมจ๊ะ?” ปัญหาโลกแตกที่ไม่ว่าใครก็แก้ไม่ตก เมื่อเป็นความพอใจของคนทั้งคู่ โดยลืมนึกถึงผลพวงที่เกิดตามมา พ่อไปทาง แม่ไปทาง ปล่อยให้สายใยความรักที่ขึ้นชื่อว่า ‘ลูก’ จมอยู่กับความอ้างว้าง และหวาดระแวง
“ค่ะ เอวาไม่เอาแม่ใหม่ ถ้าคุณป๊าจะมีใคร? ต้องถามเอวาก่อน” เด็กหญิงตอบเสียงหนักๆ หากบิดาคิดจะหาใครเข้ามาแทนที่มารดา ท่านต้องถามความเห็นของเธอก่อน ไม่อย่างนั้นเธอจะโวยให้บ้านพัง!!
ชะเอมถอนใจพรวดๆ มันเป็นปัญหาใหญ่ที่เธอสุดปัญญาที่จะสอดมือเข้าไปยุ่ง เมื่อเธอเป็นแค่คนนอก “ตามสบายนะจ๊ะ หม่ามี้ขอไปล้างตัวก่อน เหนียวตัวชะมัด” วันนี้ทั้งวันเธอเดินเที่ยวเสียจนสมอยาก แต่เมื่อเห็นท้องฟ้าครึ้มฝนจึงรีบกลับที่พัก เพราะฉะนั้นเนื้อตัวเลยเหนียวเหนอะหนะ อยากจะอาบน้ำล้างตัวให้ชุ่มฉ่ำสบายอุรา
“ค่า...เอวาอยากอาบด้วย แต่ไม่ดีกว่า”
มีของกินอยู่ตรงหน้า เรื่องเล่นน้ำเลยเป็นเรื่องรอง...