บทที่1.เด็กหลงทาง ....
เด็กหญิงเหลียวซ้ายแลขวา ดวงตาสีเขียวเต้นระริก เจ้าหล่อนตื่นตากับความแปลกใหม่รอบตัว บ้านหลังเล็กๆ ชั้นเดียว แต่รอบบ้านกลับเต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้า ที่สำคัญเลย...ดอกไม้สีสวยๆ เต็มไปหมด แตกต่างจากคฤหาสน์หลังโตที่ตัวเองอาศัยอยู่กับบิดา มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันก็จริง แต่กลับแห้งแร้งไร้ชีวิตชีวา มีแต่สิ่งของเครื่องใช้ราคาแพงแต่ไร้จิตใจและความอ่อนโยน อิรินาจึงชมชอบชะเอมมากขึ้น บ้านหลังเล็กๆ ของหม่ามี้ป้ายแดง เต็มไปด้วยความอบอุ่น เพียงแค่เหยียบย่างลงไปในก้าวแรก
“โฮ่งๆ” เสียงสุนัขตัวเล็กเห่าทักทาย ขาหน้าของมันตะกายกรงเหล็กดังแกร๊กๆ เมื่อมีอาคันตุกะหน้าใหม่ตามติดก้นเจ้านายคนสวยของมันมาด้วย
“หูย...มีหมาน้อยด้วย” เด็กหญิงห่อปากทำตาโตๆ เธอยัดปลายนิ้วเข้าไปในปากพร้อมกับเม้มไว้แน่นๆ ทั้งกล้า ทั้งกลัวในเวลาเดียวกัน เมื่อสัตว์หน้าขนนั่น เป็นสิ่งเดียวที่ตัวเองเคยเรียกร้องขอจากบิดา แต่ยังไม่สัมฤทธิผล
“ตัวสีดำชื่อเฉาก๊วย ตัวสีครีมชื่อน้ำตาล อยากเล่นกับเจ้าสองตัวนี่ไหมจ๊ะ...ดื้อนิดหน่อย แต่ซนโคตร!”
ชะเอมเอ่ยแนะนำสัตว์หน้าขนให้รู้จักกับเพื่อนใหม่วัยเยาว์ เธอปิดประตูรั้วบ้าน แล้วจึงเดินไปยังกรงสัตว์เพื่อปล่อย2 ตัวแสบออกมาจากกรง เพื่อให้พวกมันได้วิ่งเล่นยืดขาด้านนอกหลังจากถูกขังกรงมาค่อนวัน “ห้ามคุ้ยดิน ห้ามเห่า ไม่อยากนั้นนอนกรงเหมือนเดิมนะ” เธอยกนิ้วชี้ขึ้นชู พร้อมกับเอ่ยขู่เจ้าตัวซน ขณะที่มือเอื้อมปลดสลักกรงน้อยๆ ปลดปล่อยให้จอมซนออกมาวิ่งเล่น
“นี่พี่เอวา อย่ากวนพี่เขารู้ไหม?” เธอร้องสั่ง เมื่อตัวแสบหน้าขน เดินเข้าไปดมกลิ่นเด็กหญิงเหมือนกำลังทำความรู้จัก “ลองลูบขนเจ้าสองตัวดูสิจ๊ะ จะได้เป็นเพื่อนกัน” เธอเปรยยิ้มๆ เดินเลยไปในส่วนครัว ก้มๆ เงยอยู่หน้าตู้เย็น เพื่อมองหาวัตถุดิบสำหรับการประกอบอาหาร พร้อมกับบ่นอุบอิบ เมื่อตู้เย็นของเธอ แทบจะไม่มีของสดหลงเหลืออยู่ เนื่องจากเจ้าตัวเอาแต่ก้มหน้าทำงาน นานๆ จะได้หยุดพักอยู่ติดบ้านเหมือนคนอื่น “อยากเห็นหน้าพ่อเอวาจัง คงรูปร่างดีไม่เบา...แต่...คงต้องขออบรมหน่อยล่ะใช่ไม่ได้!! ลูกหายออกจากบ้านนานเป็นชั่วโมงขนาดนี้ยังไม่รู้ตัวอีก!!” หญิงสาวบ่นพึม เมื่อลูกสาวหน้าตาดีระดับนี้ คนเป็นพ่อคงหล่อขั้นเทพ
ไส้กรอก แฮม ชีส เธอโกยๆ ออกมาจากตู้เย็น เพื่อมาทำอาหารแสนง่าย เพราะดูจากเค้าหน้า อิรินาน่าจะชินกับนมเนย มากกว่าข้าวสวยร้อนๆ
เด็กหญิงเล่นกับเจ้าตัวซนจนลืมความตั้งใจเดิม เสียงหัวเราะดังกรี๊ดกร๊าด!! ผสมกับเสียงสุนัขเห่าดังขรม ทำให้บรรยากาศเงียบเหงารอบตัวของชะเอมสดใสขึ้น หญิงสาวอมยิ้ม เธอคอยมองอิรินาเป็นระยะๆ เด็กหญิงสดใส ดวงตาของหล่อนเป็นประกายจนลืมความขุ่นใจก่อนหน้านี้หมดสิ้น แป้งที่เธอนวดได้ที่หญิงสาวจึงนำออกมาคลึงเป็นแผ่นกลมๆ เพื่อเตรียมทำอาหารสุดโปรดให้ตัวเองกับเด็กสาวที่เพิ่งรู้จัก ซอสสำหรับทาหน้าพิซซ่ามีติดไว้ในตู้เย็น เมื่อชะเอมนิยมทำรับประทานเอง มากกว่าซื้อจากร้านค้าที่ทำขาย เมื่อแน่ใจได้ว่าอาหารที่ปรุงสะอาดและปลอดภัย
กลิ่นหอมของพิซซ่าฝีมือตัวเองเริ่มส่งกลิ่นฟุ้งรอบๆ บ้าน หลังเธอนำถาดที่ตกแต่งด้วยอาหารสดครบใส่ในเตาอบขนาดกะทัดรัด สายฝนเริ่มโปรยลงมาจากฟ้า มีลมกรรโชกนิดหน่อย แต่กลับทำให้อากาศรอบตัวยิ่งเย็นลง หญิงสาวชะเง้อออกไปมองนอกตัวบ้าน เธอหวังอยากให้ผู้ปกครองของอิรินามายืนอยู่ตรงรั้วบ้านนั่น ชะเอมไม่ได้รังเกียจเด็กหญิง แต่เธอห่วงความรู้สึกเจ้าตัว เด็กวัยแค่นี้...ห่างบ้าน ห่างพ่อ-แม่ เขาคงหวาดกลัวไม่ใช่น้อย เธอไม่อยากให้ความรู้สึกเช่นนั้นฝังอยู่ในความทรงจำของเด็กหญิงนานๆ
“เอวา...บ้านหนูอยู่ตรงไหนจ๊ะ” เธอเริ่มตะล่อมถาม เพราะเฝ้ารอผู้ปกครองของเด็กหญิงมามากกว่า2 ชั่วโมง เขาก็ยังไม่ปรากฏตัวสักที
“หลังใหญ่ๆ ท้ายหมู่บ้านค่ะ นั่นแหละบ้านเอวา” เด็กหญิงตอบ เธอยัดพิซซ่าชิ้นโตๆ เข้าปาก กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยจนคราบซอสเลอะเทอะมุมปาก อาจจะเป็นเพราะหิวจัด เมื่อออกแรงกอดปล้ำ ฟัดกับเจ้าตูบสองตัวอยู่เป็นนาน และพิซซ่าที่เธอกำลังกินมันอร่อยจริงๆ