3
“พี่รู้ไหมว่าใครมาบ้านเรา” ลักษมีถามพี่สาว
“ไม่รู้ ใครมาล่ะ”
“เจ้าหนี้ป๊ะป๋า”
“เจ้าหนี้ป๊ะป๋างั้นเหรอ” นาราลักษณ์ตกใจและงุนงง “ป๊ะป๋ามีหนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมพี่ไม่รู้เรื่องล่ะ”
คนที่นั่งในห้องรับแขกคงเป็นลูกน้องของเจ้าหนี้มาร์โก้ นาราลักษณ์รู้สึกได้ว่า เจ้าหนี้คนนี้คงไม่ธรรมดาแน่นอน และจำนวนหนี้ก็ต้องสูงมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่เดินทางมาทวงถึงที่
“พูดเหมือนแม่เลย แม่ก็พูดแบบนี้” ลักษมีพูดขึ้น “เข้าไปคุยกันตั้งนานแล้วนะพี่นารา ไม่รู้ว่ามีอะไรหรือเปล่า”
“แล้วแม่ล่ะ แม่อยู่ไหน เข้าไปคุยด้วยหรือเปล่า”
“อยู่ค่ะ เข้าไปพร้อมกัน”
“เจนนี่รู้จักเจ้าหนี้ป๊ะป๋าหรือเปล่า”
“ไม่รู้จักค่ะ รู้แค่ว่าหล่อลากไส้” ความที่ลักษมีอายุเพียงสิบเก้าปี เธอจึงเพ้อฝันตามประสาสาวแรกรุ่น อีกทั้งยังไม่รู้เรื่องภายนอกมานัก เนื่องจากลักษมีถูกเลี้ยงราวกับไข่ในหิน “แม่ออกมาแล้วพี่นารา”
สองพี่น้องรีบเดินไปหาลักขณาที่เวลานี้น้ำตานองหน้า
“แม่เป็นอะไรคะ แม่ร้องไห้ทำไม” นาราลักษณ์ถามมารดา เวลานี้เธอรู้สึกไม่ดีมากๆ ราวกับว่ากำลังมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในชีวิต
“แม่ขอคุยลูกทั้งสองนะ ไปคุยที่ห้องแม่” ลักขณาไม่ตอบ นางเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน สองพี่น้องมองหน้ากันก่อนเดินตามลักขณา
“แม่มีอะไรคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นคะ” นาราลักษณ์ไม่รีรอ เธอใจร้อนอยากรู้คำตอบมาก
“ป๊ะป๋าเป็นหนี้สี่สิบล้านแปดแสนยูโร” ลักขณาบอกจำนวนหนี้สินทั้งหมดของสามีให้ลูกสาวรับรู้ สองพี่น้องอ้าปากค้าง ตกใจกับจำนวนหนี้สินที่สูงมาก พร้อมกับคำถามว่า มาร์โก้เป็นหนี้ก้อนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
“สี่สิบล้านแปดแสนยูโรหรือคะ ป๊ะป๋าเป็นหนี้ใคร เป็นหนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ แล้วเอาเงินไปทำอะไร” คนถามคือนาราลักษณ์
“ป๊ะป๋าเอาเงินไปลงทุนกับเพื่อน แต่ถูกโกงเงินที่ลงทุนไปก็ไม่ได้คืน แถมยังเป็นหนี้อีก แล้วไม่ใช่แค่หนี้ก้อนนี้นะที่ต้องจ่าย เพื่อนที่โกงป๊ะป๋า ทำเรื่องชั่วๆ เอาชื่อป๊ะป๋าไปกู้เอริคเป็นเงินสิบล้าน เรื่องนี้ป๊ะป๋าเพิ่งรู้หลังจากที่นาราออกไปข้างนอก เอริคโทรมาหาป๊ะป๋าเองแล้วบอกให้หาเงินมาคืนภายในวันพรุ่งนี้พร้อมดอกเบี้ยอีกสองแสนยูโร ไม่งั้นมันจะมายึดบ้าน ยึดของเราทั้งหมด ป๊ะป๋าไม่มีจ่ายทั้งสองราย แต่ด้วยคำขู่และป๊ะป๋าไม่อยากมีปัญหากับใคร ป๊ะป๋าเลยโทรหาใครคนหนึ่งให้ช่วยเรื่องนี้ เขาคนเดียวที่ช่วยป๊ะป๋าได้” ลักขณาบอกสองสาวไปน้ำตาไหลไป นางไม่คิดเลยว่าสามีจะมีหนี้ก้อนโตขนาดนี้
“แล้วไงต่อคะแม่” นาราลักษณ์ถามต่อ “ใครคือเจ้าหนี้อีกคนคะ”
“นี่แหละสำคัญ” ลักขณาพูดขณะใช้มือปาดน้ำตา “เขาคือคุณอันโตรรเนียลเล่ เดอมาร์ชี ลูกชายของคุณมารูแอล เจ้านายเก่าของป๊ะป๋า ป๊ะป๋าไปกู้เงินคุณอันโตร และขอร้องให้เขาช่วยเคลียร์เงินกู้ของเอริคให้ด้วย ซึ่งเขาก็ตกลงแต่มีข้อแม้”
นาราลักษณ์ได้ยินคำว่า ข้อแม้ แล้วรู้สึกไม่ดีขึ้นมาอีกครั้ง
“ข้อแม้อะไรคะแม่” ลูกสาวคนโตถามทันที ลักขณามองหน้าคนถามแล้วร้องไห้โฮ นาราลักษณ์จึงไม่ได้คำตอบ ท่าทางของมารดาแสดงออกชัดเจนว่า ทุกข์ใจกับคำตอบนี้มาก มากจนไม่อยากเอ่ยออกมา ระบายความทุกข์ความกลุ้มด้วยการร้องไห้ “แม่บอกหนูมาเถอะค่ะ หนูรับได้ทุกคำตอบ”
ลักขณายังไม่ตอบในทันที นางร้องไห้ชั่วครู่จึงบอกทุกเรื่องที่เพิ่งได้คุยในห้องทำงานสามี
“คุณอันโตรยื่นข้อเสนอให้ป๊ะป๋า เขาจะใช้หนี้เอริคให้ทั้งหมด และเงินที่ป๊ะป๋าติดหนี้เขาก็จะหมดไปด้วย แต่มีข้อแม้ว่าหนึ่งข้อ” ลักขณามองหน้าลูกสาวคนโต มองด้วยความรักและความสงสาร นาราลักษณ์ได้ยินคำพูดค้างและแววตาของมารดาแล้ว หัวใจสาวเต้นโครมคราม รับรู้ได้ว่า เรื่องนี้ต้องเกี่ยวกับตนแน่นอน “ถ้าเอมไปเป็นเมียเขา แต่ถ้าเอมไม่ยอมเจนนี่ก็ต้องไปแทน ฮือ...ฮือ...แม่ไม่อยากให้ใครไปทั้งนั้น แม่ไม่อยากให้ใครไป ฮือ...ฮือ”
ลักขณาพูดจบใจแทบขาด ลูกสาวทั้งสองคนเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ ให้ใครไปอยู่กับอันโตรเนียลเล่ก็หนีไม่พ้นความเจ็บปวด นางได้ยินข้อแม้ถึงกับร้องไห้ออกมาอย่างสุดกลั้น พยายามขอร้องให้ใช้วิธีอื่น ทว่าเจ้าหนี้มาเฟียก็ไม่ยอม
นาราลักษณ์ตัวชา เธอขยับตัวนั่งลงบนเตียงนอนอย่างคนเลื่อนลอย อันโตรเนียลเล่ เดอมาร์ชี ผู้ชายคนนี้เธอรู้จัก เธอพบกับเขาครั้งแรกในวันคล้ายวันเกิดมารูแอล วันนั้นเธอจำได้แม่นว่า ตกอยู่ในสายตาเขาตลอด เธออึดอัดและไม่พอใจมากที่เขาเปิดเผยความปรารถนาออกมาทางสายตาอย่างชัดเจน แล้วไม่คิดว่า เขาคือ เจ้าหนี้ของพ่อเลี้ยง บุคคลที่เลี้ยงดูตนมาอย่างดี มอบความรัก ความเอาใจใส่ไม่ต่างกับตนเป็นลูกสาวในไส้
“แล้วถ้าเราไม่ยอมล่ะแม่ เขาจะทำอะไรเรา” คนถามคือลักษมี
“คุณอันโตรก็จะไม่ใช้หนี้ให้ป๊ะป๋า ป๊ะป๋าก็ต้องหาเงินมาใช้หนี้เอริคเอง ในส่วนหนี้ของคุณอันโตร ถ้าป๊ะป๋าไม่มีคืน เขาก็จะยึดทุกอย่างของเรา ยึดทั้งหมดที่เรามี เราจะไม่เหลืออะไรเลยแม้แต่บ้านซุกหัวนอน คุณอันโตรยังบอกอีกว่า ทรัพย์สินของป๊ะป๋าไม่สูงเท่าจำนวนหนี้ เขาก็จะตีราคาทรัพย์สินทั้งหมด เอาไปหักกับหนี้สินก้อนนั้น อย่าว่าแต่เงินใช้หนี้คุณอันโตร ใช้หนี้เอริคยังมีไม่ถึง” ลักขณาพูดไปเจ็บหัวใจไป ไม่นึกโทษสามีที่สร้างหนี้สิน เพราะเขาก็ไม่คิดว่าจะโดนโกง และทำทุกอย่างเพื่อให้ครอบครัวสบาย “แม่กลัวว่าป๊ะป๋าจะเครียดมาก โรคหัวใจกำเริบก็เลยต้องให้กินยากันไว้ก่อน แม่ไม่รู้จะช่วยป๊ะป๋ายังไง แม่ไม่รู้...ฮือ”
สมองของนาราลักษณ์ทำงานหนักทันที หนี้สินก้อนแรกสิบล้านสองแสนยูโรว่ามากแล้ว และหาไม่ได้ภายในหนึ่งวันแน่นอน เงินของเธอในบัญชีมีเพียงหนึ่งแสนยูโร ของคนอื่นในบ้านเท่าที่รู้รวมกันแล้วไม่น่าเกินสามแสนยูโร ยังไม่ถึงครึ่งหนึ่งของจำนวนหนี้เอริค เงินหมุนเวียนในบริษัทเล็กๆ มีเพียงห้าล้านยูโร หากนำออกมาใช้ก็ต้องหาเงินก้อนใหม่ไปหมุน ถึงแม้ว่าจะเอาออกมาใช้ก็ยังไม่พอ คิดไปกู้หนี้ยืมสินคนอื่นนาราลักษณ์ก็พอมีตัวช่วย แต่จำนวนเงินที่ยืมก็คงไม่ถึงล้าน เพราะแต่ละคนก็มีภาระหน้าที่ที่ต้องดูแล
พีระพล...นาราลักษณ์นึกถึงคนรัก