ตอนที่ 8 เป็นลม
“บางคนก็ห้าสิบขึ้น” สำเริงบอกน้อง พร้อมกับแกะกล่องที่ใส่ซุบหน่อไม้ดอง และเนื้อทอดที่เหลือจากงานบุญออกมา
“เป็นฉันคงไม่รอ” ดอกคูณออกความเห็น แต่เธอก็ไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวเรื่องของป้ากับลุงเลยแม้แต่ครั้งเดียว ทำได้เพียงมองอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ สงสารก็แต่อุ่นกับเอื้อเท่านั้น
“แม่ครับผมกินข้าวกับอะไรครับ” เชิดชัยลูกชายวัยสี่ขวบเงยหน้าถามแม่ เธอจึงหันไปใส่ใจกับลูกที่นั่งอยู่ข้างกาย
“กับเนื้อทอดจ้ะ”
“ผมหิว”
ดอกคูณฉีกเนื้อเป็นชิ้นเล็กแล้วป้อนลูก ทุกคนเริ่มลงมือกินข้าว และไม่คุยเรื่องของเคนกับมาลีอีก
สี่คนพ่อแม่ลูกคนเดินมาถึงป่าไผ่เคนจึงเอ่ยบอกภรรยา “ม่วยกับลูกรอพี่อยู่ด้านนอกนะ ข้างในยุงมันเยอะ”
“ฉันอยากเข้าไปหาช่วยพี่จังเลยค่ะ” นานมากแล้วที่เธอไม่ได้ทำในสิ่งที่ชอบในวัยเด็ก นั่นก็คือการหาหน่อไม้ เก็บเห็ดป่า แหย่ไข่มดแดง และการช้อนลูกอ๊อด
“หนูก็อยาก”
“ผมก็อยาก”
เคนมองทั้งสามที่ทำสายตาอ้อนวอนแล้วก็อดใจอ่อนไม่ได้ ปกติภรรยาเขาไม่ใช่คนชอบเข้าป่าเธอไม่ชอบยุง บอกว่ายุงกัดแล้วทำให้ผิวเป็นรอยแผลเป็น ไม่ชอบให้ไม้ขีดข่วนตามร่างกาย “งั้นอุ่นเอาผ้าขาวม้ากับแม่มาคลุมหน้า ส่วนเอื้อเอาของพ่อไป”
“ครับ/ค่ะ” ทั้งสองรับคำพ่อด้วยความดีใจที่จะได้เข้าไปหาหน่อไม้
มาลีเอาผ้าขาวม้าของตัวเองมาคลุมหน้าให้ลูก ส่วนเธอกับสามีมีหมวกปีกคนละหนึ่งใบสวมอยู่บนศีรษะ ที่จริงการสวมหมวกเข้าไปหาหน่อไม้ก็เป็นเรื่องลำบากเช่นกัน มันชอบเกี่ยวกิ่งไม้จนทำให้รู้สึกรำคาญ
แขวนย่ามห่อข้าวไว้กับต้นไม้ด้านนอก ทุกคนดื่มน้ำคนละแก้วก่อนเดินเข้าป่าไผ่
เพียงย่างเท้าเข้าไปในป่าไผ่พวกเขาก็เห็นหน่อไม้แล้ว
“พ่อคะ นั่นหน่อไม้ใช่ไหมคะ” อุ่นร้องถามพร้อมกับชี้นิ้วอ้วนป้อมไปที่หน่อไม้
“ใช่แล้ว”
“โอ้โฮ! หน่อไม้เยอะจังเลยครับ”
ลูกทั้งสองตื่นเต้นเมื่อเห็นหน่อไม้ขึ้นเต็มไปหมด หน่อที่โผล่พ้นดินขึ้นมายาวแล้วมาลีก็ใช้มีดตัดใส่ย่าม เพราะเสียมมีเล่มเดียว
พ่อแม่ลูกทั้งสี่ช่วยกันหาหน่อไม้จนลืมเวลา เคนดีใจที่ลูกกับภรรยามาหาหน่อไม้ด้วย เพราะพวกเขาส่งเสียงเจื้อยแจ้วตลอดเวลา
มาลีมองหน้าสามีที่มัวแต่ใช้เสียมสับหน่อไม้แล้วก็ต้องตกใจ “พี่เคนทำไมหน้าซีดจังเลยคะ” เหงื่อเม็ดโตผุดขึ้นมาเต็มใบหน้าที่มองเห็นกรอบหน้าได้อย่างชัดเจน
“พี่รู้สึกตัวสั่นยังไงไม่รู้ สงสัยจะหิวข้าว” เมื่อเช้าเขากินข้าวไม่ค่อยลงจึงกินไปแค่สามสี่คำ ปกติก็ไม่ค่อยเจริญอาหารอยู่แล้ว พอรู้ข่าวไม่ดีของเมียก็ยิ่งกินไม่ได้เลย
“ฉันว่าเราออกไปกินข้าวกันดีกว่านะคะ” ว่าจบมาลีก็เข้าไปถือถุงย่ามช่วยสามี ในนี้อากาศร้อนอบอ้าวด้วย เขาต้องออกไปอยู่ในที่ที่มีอากาศถ่ายเทมากกว่านี้
ทุกคนเดินออกมาด้านนอก เคนรีบทิ้งกายลงนั่งที่โคนต้นไม้ใหญ่แล้วปิดเปลือกตาลงช้า ๆ เสียงหายใจแผ่วลงเรื่อย ๆ “ม่วย พี่รู้สึกเหมือนจะเป็นลม”
“จะเป็นลมเหรอคะ” มาลีถามด้วยความตกใจ
“อืม”
มาลีวางถุงย่ามแล้วรีบวิ่งเข้าไปปลดกระดุมเสื้อให้สามีออกจนสุดเพื่อให้อากาศถ่ายเท แล้วให้สามีนอนลงกับพื้นราบ “เอื้อเอาหมวกมาพัดให้พ่อหน่อยเร็ว แม่จะไปหารังมดแดง” ม่วยบอกลูกด้วยความรีบร้อน ตอนนี้หน้าเขาขาวซีด
“ครับแม่” อุ่นกับเอื้อช่วยกันใช้หมวกปีกพัดให้พ่อคนละฝั่ง มาลีรีบวิ่งไปหารังมดแดงมาให้สามีดม
ไม่นานก็เจอ “อโหสิกรรมให้ฉันด้วยนะเจ้ามดแดง” ว่าแล้วก็หักรังมดที่ขนาดเท่ากำปั้นมาขยำให้มันปล่อยกรดน้ำส้มออกมา แล้วรีบวิ่งกลับไปหาสามีกับลูก
มาลีส่ายรังมดไปมาใกล้จมูกสามี ให้เขาสูดดมกลิ่นของมัน ลูกทั้งสองก็ใช้หมวกพัดไม่หยุด
“เอื้อมาถือรังมดให้แม่หน่อย”
“ครับ” เอื้อรับรังมดจากแม่มาแล้วก็ส่ายไปมาตรงจมูกพ่อ
มาลีตักน้ำเย็นในกระติกน้ำเทรดผ้าขาวม้าแล้วนำมาเช็ดใบหน้าอันซีดเซียวของสามี เรื่อยต่ำมาตามลำคอ หน้าอกและลำตัวที่มองเห็นกระดูกซี่โครงทุกคู่เรียงกันอยู่เบื้องหน้า
คนอะไรผอมได้ผอมดีจริง ๆ
ผ่านไปเกือบห้านาที เคนอาการดีขึ้นจึงลืมตาขึ้นมา ถ้าไม่ได้เมียกับลูกเขาคงแย่แน่ มากกว่านั้นเขารู้สึกแปลกใจที่มาลีดูแลเขาได้เป็นอย่างดี ทั้งที่เธอไม่เคยปฏิบัติกับสามีอย่างนี้มาก่อน
เคนทำท่าจะลุกขึ้นแต่มาลีกลับดันไหล่เขาไว้ “อย่าเพิ่งลุกขึ้นเลยนะคะ นอนพักอีกสักหน่อยเถอะค่ะ”
เคนไม่ได้ขัดขืน เขานอนลงไปที่เดิมอีกครั้ง ใต้ร่มไม้นี้ อากาศถ่ายเทดีกว่าด้านในมาก และอาการเขาก็ดีขึ้นมากแล้ว
มาลีปลีกตัวไปจัดอาหารที่สามีเตรียมมาด้วย ในถุงย่ามมีกระติบข้าวเหนียว กระปุกปลาร้า หอมแดงสามหัว พริกสดสามสี่เม็ด และกระปุกพลาสติกอีกใบ มาลีเปิดฝากระปุกพลาสติกออกดูก็ต้องตกใจ ปลาทูตัวเดียวนอนอยู่ด้านใน กับปลาร้าสับอีกหนึ่งถ้วยเล็กอยู่ในกระติบข้าว หอมแดงกับพริกสดเขาคงเอามากินกับปลาร้า
เห็นแม่นิ่งไปอุ่นจึงถามขึ้น “แม่เป็นอะไรเหรอคะ”
“ปะ เปล่าจ้ะ” เห็นกับข้าวแล้วมาลีก็คิดหนักพวกเขาจะกินอิ่มได้อย่างไร ทั้งที่เพิ่งผ่านงานบุญมาแท้ ๆ เคนคงทำตามที่ภรรยาเคยบอกไว้ มาลีคนเดิมเป็นคนขี้เหนียวเรื่องอาหารการกิน ปลาทูเข่งหนึ่งมีสามตัวต้องกินได้สามมื้อ ถ้ามีหน่อไม้เหมือนวันนี้ก็อย่าหวังว่าจะได้กินอาหารที่อยู่ตามร้านค้า ยิ่งถ้าสามีหาปลามาได้มาลีก็ยิ่งชอบ เพราะเธอจะไม่ได้เสียเงินซื้อปลาทู หรือปลากระป๋องเลย
ทำไมเรื่องเหล้าเรื่องบุหรี่เธอไม่เห็นประหยัดแบบนี้นะ ไม่งั้นก็คงรวยไปนานแล้ว ไม่ต้องมาอยู่บ้านต่อกับยุ้งข้าวแบบนี้หรอก
ที่สามีผอมขนาดนี้หรือว่าเขาขาดสารอาหาร เพราะกินแต่ของเดิม ๆ และมันก็ทำให้เขาไม่อยากอาหาร และกินน้อยลงทุกวัน หรือไม่เขาก็ยอมอดอาหารเพื่อลูกเพื่อเมีย
มาลีผ่อนลมหายใจออกมาเบา ๆ หันไปหยิบกล่องนมในถุงขนมของลูกแล้วยื่นให้สามี “พี่เคนดื่มนมก่อนนะคะ” ได้ดื่มน้ำหวานเขาอาจจะดีขึ้น
เคนค่อย ๆ ลุกขึ้นโดยมีภรรยาพยุงแล้วรับกล่องนมไปดื่ม