ตอนที่ 6 ซื้อนมให้สามี
สมศรีตักน้ำแข็งใส่กระติกสองใบให้มาลีจนเต็มและนำไปวางไว้ข้างโต๊ะคิดเงิน
“อุ่นกับเอื้อจะเอาขนมอะไรก็เลือกเอาเลยจ้ะ” มาลีบอกลูกเมื่อเห็นพวกเขายืนเก้ ๆ กัง ๆ เหมือนเกรงใจ
“แม่พูดจริงเหรอคะ” ปกติแม่ไม่เคยซื้อขนมให้กินเลย นานครั้งเธอถึงจะซื้อให้สักห่อ
“จริงสิจ๊ะ” ถึงในกระเป๋าจะเหลือเงินไม่มาก แต่ค่อยคิดหาทางทำกินใหม่ก็แล้วกัน ถ้าเธอหายดีอาจจะพอไปรับจ้างได้ คนขยันอย่างเธอไม่มีทางอยู่เฉยหรอก ยิ่งร่างนี้ค่อนข้างจะอวบเกินไปสำหรับเธอ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องรีดน้ำหนักออกสักสองสามกิโลกรัม จะได้สวยใสตามที่เธอต้องการ
“พี่เอื้อมาเลือกขนมช่วยหนูหน่อยค่ะ”
เอื้อเดินไปหาน้อง ทั้งสองตื่นเต้นมากที่ได้เลือกซื้อขนมคนละหลายห่อเป็นครั้งแรก
เสร็จแล้วเด็ก ๆ ก็เอาขนมมาวางบนโต๊ะคิดเงิน มาลีหยิบนมถั่วเหลืองไปฝากสามีด้วยสองกล่อง
“ทั้งหมดสี่สิบบาทจ้ะ” สมศรีบอกราคาสินค้าทั้งหมด
“นี่ค่ะ” มาลียื่นธนบัตรใบละห้าสิบบาทให้เจ้าของร้าน
“ไม่เป๊กจริงเหรอ” สมศรียังรบเร้าต่อ
“ไม่ล่ะค่ะ” มาลีพูดพร้อมส่ายหน้าให้
“บุหรี่ก็ไม่เหรอ”
“ค่ะ” มาลีตอบเสียงหนักแน่น
“ม่วยจะทนได้เหรอ”
“ไม่มีอะไรต้องทนอีกแล้วค่ะ” เธอจะต้องลบภาพไม่ดีเก่า ๆ ของม่วยคนเดิมให้ได้
“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว” สมศรีว่าอย่างเสียดาย วันนี้เธอขาดรายได้ส่วนนั้นจากมาลีไปตั้งยี่สิบบาท
ไม่ใช่แค่สมศรีเท่านั้นที่แปลกใจ ลูกทั้งสองก็แปลกใจไปด้วยที่วันนี้แม่ไม่ดื่มเหล้าและไม่สูบบุหรี่ ปกติทุกเช้าพวกเขาจะได้กลิ่นเหล้าจากตัวแม่ตลอด ไม่ใช่แค่วันที่มีงานบุญอย่างเมื่อวานนี้ แต่ก็ดีแล้ว พวกเขาไม่ชอบกลิ่นเหม็นของมันเลยสักนิด ไม่รู้ว่าแม่กินเข้าไปได้อย่างไร ขนาดพ่อเป็นผู้ชายพ่อยังไม่กินเหล้าไม่สูบบุหรี่
มาลีกับลูกเดินออกมายังไม่พ้นร้านดีก็มีเสียงพูดขึ้นตามหลังมาให้ได้ยิน มาลีจึงเดินช้าลง
“แกว่าเขาสองคนได้กันยังวะ” เสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น
“ใคร?”
“ก็นังม่วยกับไอ้กลไง เมื่อคืนมั่วกันอยู่หน้าเวทีหมอลำ แกไม่เห็นหรือไง”
“เห็นสิฉันไม่ได้ตาบอด…ก็อาจจะ เพราะเห็นเขาลือกันว่าแอบคุยกันตั้งแต่ผัวไปเมืองนอกแล้วนี่ พอผัวกลับมาก็ยังคุยกันเหมือนเดิม หน้าหนาสุด ๆ” ผู้หญิงอีกคนกล่าวขึ้น
“ถ้าฉันเป็นไอ้เคนนะฉันเลิกไปนานแล้วว่ะ ไม่รู้มันทนเมียสำส่อนแบบนี้ได้ยังไง”
มาลีหยุดเดินแล้วหันหลังกลับมามองหน้าคนที่นินทาเธอตาเขม็ง ยายรัตนากับยายอรอนงค์นี่เอง มาลีกำลังจะเดินไปหาทั้งคู่แต่พวกเขาหลบสายตาแล้วรีบเดินเข้าไปในร้านค้าเสียก่อน
มาลีส่ายหัวน้อย ๆ ก่อนจะพาลูกเดินกลับบ้าน ไม่ว่าใครก็ชอบเรื่องของชาวบ้านทั้งนั้น ยิ่งเป็นเรื่องคาว ๆ คนยิ่งชอบ และที่ผ่านมาเธอก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ามาลีทำให้คนอยากนินทาจริง ๆ
มาถึงบ้านเธอก็เห็นสามีนั่งหอบแฮ่ก ๆ อยู่หน้ารถอีแต๊ก โดยมีแม่สามียืนให้กำลังใจอยู่ห่าง ๆ
“พี่เคนเป็นอะไรเหรอคะ” ดูท่าทางเขาเหมือนคนหมดแรง
“หมุนรถไม่ติด” เขาบอกสียงแผ่ว
ตาย! แล้วแบบนี้จะขับรถถึงนาไหมเนี่ย ขนาดสตาร์ทรถก็ยังไม่ติด
“ไม่ให้แม่ช่วยหมุนล่ะคะ” พูดพร้อมเหล่ตามองหน้าแม่สามีอย่างไม่เกรงกลัว
“นี่แก” ฟั่นทำเสียงเขียวใส่ลูกสะใภ้
“ฉันล้อเล่นค่ะแม่ ทำจริงจังไปได้ มา ให้ฉันช่วยดีกว่าค่ะ” เธอวางกระติกน้ำแข็งไว้บนรถ แล้วเดินไปหยิบมือหมุนกับสามีมาถือไว้
“ม่วยทำไม่ไหวหรอกมันหนัก” เธอไม่เคยทำสักทีจะหมุนรถติดได้อย่างไร
“ไม่ลองก็ไม่รู้ค่ะ” เธอก็ลูกชาวนาคนหนึ่งเหมือนกัน อีกอย่างเธอก็เคยไถนาด้วยรถไถนาเดินตามมาก่อน ขับรถอีแต๋นก็ยังได้ทำไมเธอจะหมุนไม่ได้
มาลีสอดมือหมุนเข้าไปในบล็อกเครื่องยนต์ มือซ้ายกดวาล์ว มือขวาหมุนตามเข็มนาฬิกา เธอหมุนเพียงสี่ห้ารอบเมื่อได้จังหวะจึงถอดมือหมุนและปล่อยวาล์ว
ตั๊ก ตั๊ก ตั๊ก
ทุกคนต่างยืนตะลึงเมื่อมาลีสามารถสตาร์ทรถไถเดินตามเพียงครั้งเดียวก็ติด ลูกทั้งสองต่างยิ้มและปรบมือให้
“แม่เก่งจังเลยครับ” เอื้อกับอุ่นไม่เคยเห็นแม่มายุ่งกับรถไถนาสักครั้ง แต่ทำไมแม่ถึงสตาร์ทรถได้
มาลียิ้มให้ทุกคนแล้วเอ่ยกับสามี “เดี๋ยววันนี้พี่เคนสอนฉันขับรถอีแต๊กนะคะ”
เคนทำหน้าตาเหมือนหวาดกลัวนิด ๆ แล้วคิดในใจ จะรอดเหรอวะ!
“เชื่อใจฉันเถอะน่า เอ้า ฉันซื้อนมมาให้พี่ด้วย” มาลีหยิบนมถั่วเหลืองที่ยังเย็นเฉียบให้สามีหนึ่งกล่อง
เคนมองอย่างลังเล ตั้งแต่แต่งงานกันมา มาลีไม่เคยซื้อนมให้เขาดื่มเลย อย่าว่าแต่ซื้อให้เขา ซื้อให้ลูกกับตัวเองเธอก็ไม่เคย เหตุเพราะเธอขี้เหนียวกับการซื้อของกิน แต่ถ้าเป็นเหล้ากับบุหรี่เธอจะจ่ายไม่อั้น