ตอนที่ 4 พี่อยากเลิกกับเธอ
เธอลุกขึ้นนั่งอีกครั้งยกถ้วยที่ใส่น้ำร้อนขึ้นมาเป่าแล้วยกขึ้นดื่มอย่างว่าง่าย เคนมองภรรยาด้วยความแปลกใจ ตั้งแต่เธอตื่นขึ้นมาเธอยังไม่พูดอะไรผิดหูเขาสักคำซึ่งผิดวิสัยของมาลีคนเดิม อีกทั้งน้ำต้มฟางข้าวนี้เธอไม่เคยคิดที่จะแตะต้องมันเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกครั้งที่มีงานบุญไม่ว่าจะบุญบ้านตัวเองหรือหมู่บ้านใกล้เคียงเธอก็เมาแบบนี้ตลอด แต่ทุกครั้งที่เขาต้มฟางให้ดื่ม เธอก็ไม่คิดจะเหลียวแลมันเลย ปกติเธอจะเดินไปถอนสักเป๊กสองเป๊กที่ร้านค้าในหมู่บ้านแค่นั้นก็จบ
“อุ่นกับเอื้อลงไปเล่นข้างล่างก่อนนะลูก แม่จะได้พักผ่อน” เคนอยากหาโอกาสคุยกับเมียสองต่อสองจึงบอกลูกเช่นนั้น
“ครับ/ค่ะ”
มาลีวางถ้วยที่ดื่มน้ำจนหมดลงข้างตัวแล้ว เคนเหลือบเห็นต่างหูโบราณที่ติ่งหูของเธอเขาจึงถามขึ้น “เธอได้ต่างหูคู่นั้นมาจากไหน” เคนไม่เคยเห็นภรรยาใส่มัน เพิ่งเห็นเมื่อเช้านี้ หรือว่า…สกลเป็นคนให้มา
“เอ่อ…” มาลีเอื้อมมือไปจับต่างหูที่ยมทูติให้มาแล้วตอบเขา “มะ แม่ให้ฉันมาค่ะ ฉันเพิ่งนำออกมาใส่เมื่อคืน” มาลีกล่าวคำลวงออกไปแล้วยิ้มแหยให้
เคนไม่ได้เชื่อสิ่งที่ภรรยาพูดออกมานัก แต่ก็ตัดสินใจพูดเรื่องสำคัญออกไป “พี่ต้องการเลิกกับเธอ” ต่างหูเธอจะได้มาจากไหนก็ช่าง เพราะถึงอย่างไรตอนนี้เขาก็เจ็บช้ำมากพอแล้ว
มาลีอึ้งไปนิดหนึ่งที่โดนผู้ชายที่เพิ่งเจอหน้าครั้งแรกบอกเลิกอย่างกะทันหัน ยังไม่ทันได้ลิ้มลองการมีสามีเลยก็โดนบอกเลิกเสียแล้ว “มะ หมายถึงพี่ต้องการหย่ากับฉันอย่างนั้นเหรอ”
“ใช่”
“แล้วลูก…”
“พี่จะดูแลพวกเขาเอง” ปกติมาลีก็ไม่ค่อยได้ดูแลเขากับลูกสักเท่าไรอยู่แล้ว ตั้งแต่เขากลับจากไต้หวันมาได้สองปี เขาก็รับหน้าที่ดูแลทุกอย่างในครัวเรือนเองทั้งหมด รวมถึงออกไปรับจ้างหาเงินด้วย ส่วนมาลีก็อยู่กับลูกตอนที่เขาออกไปทำงาน พาอุ่นเดินไปเล่นบ้านนั้นบ้านนี้รอให้เอื้อเลิกเรียนค่อยกลับมาบ้านตัวเอง ถ้าวันไหนเขาอยู่บ้านเพราะออกไปรับจ้างไม่ไหว เธอก็ออกไปหาเพื่อนทิ้งลูกสาวไว้ให้เขาดูแลตลอด
“แต่ว่า…” ตอนนี้ตัวเขาผอมมากเลยนะ แค่คุยกับเธอก็ยังหอบ
“พี่คิดดีแล้ว ครั้งนี้เธอทำผิดมากจริง ๆ คนเขาเห็นกันทั้งหมู่บ้านว่าเธอไปดูหมอลำกับไอ้กลสองต่อสอง แถมยังไปเต้นมั่วกันอยู่หน้าเวทีหมอลำอีก ไม่พอแค่นั้นเมื่อเช้ามันยังเป็นคนมาส่งเธออีก” ตอนเช้ามืดสกลกับสินชัยเพื่อนของเขาเอาร่างของมาลีที่นอนสลบไสลใส่รถมอเตอร์ไซด์มาส่งถึงบ้าน เขาอึ้งจนพูดไม่ออก เมื่อรู้ว่าภรรยาแอบย่องไปดูหมอลำกับญาติสนิทของเขา
“ฉัน ฉันขอโอกาสอีกสักครั้งไม่ได้เหรอคะ” เป็นครั้งแรกในรอบหลายปีที่ทะเลาะกันแล้วมาลีไม่ขึ้นเสียงกับเขา และเป็นครั้งแรกที่ทั้งสองไม่พูดเสียงดังเอะอะโวยวายจนได้ยินไปหลายหลังคาเรือน
“ไม่ พี่เจ็บมามากแล้วม่วย ปล่อยพี่อยู่กับลูกเถอะ” แววตาเขาดูขมขื่นเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ กี่ครั้งแล้วที่มีคนมาพูดเข้าหูเขาว่ามาลีแอบนัดแนะกับแฟนเก่าอย่างไอ้สกล แต่เขาก็แสร้งเป็นหลับหูหลับตาและทำเป็นไม่รู้สึกรู้สาอะไร เพราะเขายังรักภรรยาอยู่มาก อีกทั้งลูกทั้งสองของเขาก็ยังเล็ก แต่รอบนี้เขารับไม่ได้จริง ๆ เธอออกหน้าออกตากับสกลเกินไป
มาลีได้แต่รู้สึกกระอักกระอ่วนใจ เธอจะไม่ลำบากใจเลยถ้าเจ้าของร่างนี้ไม่ได้ฝากลูกและสามีไว้กับเธอ ตัวเธอเองไม่ได้มีความผูกพันกับพวกเขาทั้งสามคนอยู่แล้ว เลิกหรือไม่เลิกก็มีค่าเท่ากัน
ฉันขอโทษเธอด้วยนะม่วยที่ไม่สามารถทำตามที่เธอขอได้
ถ้าเขาต้องการเช่นนั้นเธอก็คงไม่ขัดข้อง มาลีบอกคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นสามีอย่างไม่ลังเล “งั้นฉันเลิกกับพี่ก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ฉันจะย้ายของไปอยู่กับแม่” เขาคงเจ็บมามากพอแล้ว ความทรงจำเดิมของร่างนี้บอกว่า สิ่งที่เธอเคยทำกับเขามันสุดจริง ๆ แต่ก็ยังดีมาลียังแค่แอบคุยกับสกลยังไม่ถึงขั้นมีความสัมพันธ์ทางกายต่อกัน แต่สำหรับเธอก็ถือว่าร้ายแรงอยู่ดี ถือว่าเคนเป็นคนที่ใจเย็นและรักเมียมากถึงได้ยอมมาตลอด
ในใจของเคนสลดวูบลงเมื่อได้ยินคำว่าเลิกจากปากภรรยาง่ายกว่าทุกครั้ง เธอจะไม่รั้งไม่ง้อเขาเลยหรืออย่างไร แสดงว่าเธอมีใจให้กับสกลจริง ๆ อย่างนั้นเหรอ ทุกครั้งเธอไม่เคยยอมรับว่าเธอผิด และไม่เคยตกลงเลิกกับเขาง่ายเหมือนครั้งนี้
พวกเขาสองคนคงคุยกันไว้แล้วกระมัง
ปัง! เสียงประตูห้องนอนถูกปิดลง ผัวเมียสบตากันด้วยความตกใจก่อนที่จะเดินตามลูกทั้งสองออกมา พวกเขามาแอบฟังพ่อกับแม่คุยกันตั้งแต่เมื่อไร
ลูกทั้งสองนั่งอยู่หน้าเตาไฟที่เป็นชานยื่นออกจากเรือนย้าว ซึ่งบ้านหลังนี้ถูกปลูกต่อจากยุ้งข้าว ภาษาชาวบ้านเรียกว่าตูบต่อเล้า มันมีแค่ห้องเดียวเท่านั้น อุ่นนั่งอยู่บนตั่งไม้ขนาดใหญ่ข้างพี่ชาย เอียงศีรษะพิงไหล่พี่ แล้วร้องไห้ไปด้วยกัน ไม่มีคำพูดใด ๆ หลุดออกมาจากปากเด็กตัวน้อยทั้งสอง มีเพียงเสียงสะอื้นที่ทั้งสองส่งเสียงออกมาเป็นระยะ พวกเขาร้องไห้จนตัวโยน คนพี่ก็กอดปลอบน้องอย่างรู้ความ