5 ผมจะอ่อนโยน NC
กวีวัธน์ยิ้มชั่วร้าย เอาแต่จ้องมองเหยื่อตัวน้อยที่นอนตัวสั่นอยู่ในอ้อมแขน ไม่คิดว่าพิมพ์นารานักแสดงสาวชื่อดังขวัญใจใครต่อหลายคน ทายาทเจ้าพ่อสื่อบันเทิงชื่อดังจะไร้เดียงสากับเรื่องแบบนี้มากกว่าที่เขาคิด ไม่รู้ว่าเป็นการแสดงหรือเปล่า เทียบกับกัญวรายังไม่ได้เลย แต่แค่เพียงคิดถึงเรื่องที่กัญวราหักหลังเขา กวีวัธน์ก็อารมณ์ขุ่นมัว
“ผมจะอ่อนโยน” เขากระซิบ พร้อมจุมพิตเธออีกครั้ง ขบเม้มริมฝีปากนุ่มนิ่มอย่างไม่รู้สึกเบื่อ สิ่งหนึ่งที่เขาต้องยอมรับนั่นก็คือเธอจูบได้เก่งจริง ๆ จูบเก่งจนไม่น่าเชื่อว่ามันเป็นผลพวงที่มาจากการแสดง
“คุณรับปากแล้วนะ” เธอต้องการคำยืนยันให้แน่ใจ
“ครับรับปาก”
กวีวัธน์หยัดตัวลุกขึ้นชันเข่า พร้อมกับก้มตัวลงไปควานหาถุงยางอนามัยในลิ้นชัก ระหว่างนั้นก็ชักรูดแก่นกายของตัวเองไปเรื่อย ๆ เมื่อพร้อมแล้วก็จัดแจงสวมใส่ ท่าทางเช่นนั้นของชายหนุ่มอยู่ในสายตาของพิมพ์นาราตลอดเวลา หญิงสาวกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ดวงตาสีนิลเอาแต่จ้องมองตรงส่วนนั้นที่อยู่ในมือของเขา คนตัวเล็กเผลอเลียริมฝีปากโดยไม่รู้ตัว เธอไม่แน่ใจนักว่า อันขนาดนั้นจะสอดเข้าไปอยู่ในตัวเธอได้ยังไง
“คุณกวี” พิมพ์นาราเรียกเขาด้วยน้ำเสียงตื่น ๆ
“ครับ”
“ขอกินไวน์อีกแก้วก่อนได้ไหมคะ” เธอต่อรอง
ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนต่อรองกับเขาถึงขนาดนี้ ที่เขายอมให้ ก็เป็นเพราะนี่เป็นครั้งแรกของเธอหรอกนะ กวีวัธน์ไม่ได้ปฏิเสธส่งขวดไวน์ให้เธอดื่มจนกว่าจะพอใจ ไวน์แดงในขวดไหลลงมาที่ข้างแก้ม กวีวัธน์อดใจไม่ไหวช่วยยัยขี้เมาโลมเลียทำความสะอาด ใบหน้าของพิมพ์นารากลับมาเป็นสีแดงระเรื่ออีกครั้ง
“อย่ากินเยอะเดี๋ยวปวดหัว” เขาแย่งขวดกลับคืน พลางใช้นิ้วบดเบียดกระตุ้นช่องทางรักของพิมพ์นาราให้เตรียมพร้อมสำหรับกิจกรรมต่อจากนี้ คนตัวเล็กนั่งตัวบิดเกร็ง มือเล็กวางไว้ที่ต้นแขนของชายหนุ่ม พร้อมกับส่งเสียงครางกระสันออกมาเบา ๆ
“อาห์...คุณกวี”
กวีวัธน์ผลักเธอนอนลงไปอีกครั้ง แล้วใช้แก่นกายขนาดใหญ่ของตนเอง ถูไถไปมาที่ร่องสวาทแสนชุ่มฉ่ำที่กำลังเปียกเยิ้มไปด้วยน้ำหวานสีใส รวมถึงเพื่อเป็นการปลุกเร้าเพิ่มความกระสันให้กับหญิงสาวที่อยู่ในการควบคุม นี่ครั้งแรกหรือเปล่ากับผู้หญิงบริสุทธิ์ ร่างสูงค่อย ๆ กดส่วนหัวหยักสีแดง เข้าไปในร่องสวาทของพิมพ์นาราช้า ๆ
มันทั้งคับแน่นและอึดอัด ใบหน้าสวยหวานของพิมพ์นาราบิดเบี้ยวเหยเก เต็มไปด้วยความรู้สึกที่ทั้งเจ็บและเสียว เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยพบเจอมาก่อน
“แน่นจังเลยของขวัญ” เขากระซิบพร้อมจุมพิตพิมพ์นารา ระหว่างนั้นก็ค่อย ๆ สอดแก่นเอ็นแข็งแกร่งแทรกเข้าไปในตัวเธอช้า ๆ จนสุดลำ ความรู้สึกเหมือนบางสิ่งบางอย่างกำลังฉีกขาด ร่องรักอุ่นร้อนของพิมพ์นารากำลังบีบรัดจนเขาเองก็แทบจะทนไม่ไหว
“อ๊ะ” พิมพ์นาราร้องออกมาเบา ๆ
“เจ็บไหม”
“...” เธอได้แต่พยักหน้าหงึก ๆ ทั้งจุกทั้งอึดอัด เป็นความรู้สึกที่ไม่เคยเผชิญมาก่อนในชีวิต
คนตัวเล็กลืมตาขึ้นมาเบะปากทำท่าเหมือนจะร้องไห้ “อย่าเกร็งสิ” กวีวัธน์แทบจะบ้าตายอยู่รอมร่อ ครั้งแรกของเธอจริง ๆ สินะ
เขาเองก็แทบคลั่งและจำต้องกดแช่แก่นกายของตัวเองเอาไว้อย่างนั้นเพื่อให้ยัยตัวแสบคุ้นชินปรับตัวได้ ผ่านไปไม่นานดูเหมือนว่ายัยตัวแสบจะเริ่มมีอารมณ์ความรู้สึกบางอย่างสังเกตุได้ใจสีหน้าที่ดูผ่อนคลาย กวีวัธน์เองก็จะทนไม่ไหวแล้วเช่นกัน จึงค่อย ๆ ขยับเอวอย่างเชื่องช้า เป็นจังหวะ สีหน้าของคนตัวเล็กที่บิดเบี้ยวเหยเกในตอนแรกเริ่มเปลี่ยนไปทีละเล็กทีละน้อย
“อาห์...แน่นมาก” กวีวัธน์ครางออกมาเบา ๆ จังหวะที่เอื่อยเฉื่อยเชื่องช้าค่อย ๆ เพิ่มความเร็วขึ้นทีละนิด ๆ มือหยาบบีบกำสองเต้าอวบของพิมพ์นาราที่ขยับเขยื้อนตามจังหวะเคลื่อนไหวของร่างกาย
“...” คนตัวเล็กยังรู้สึกเจ็บอยู่นิด ๆ แต่หลังจากนั้นไม่นาน ความเสียวซ่านและสุขสมก็เคลื่อนตัวเข้ามาแทนที่ หญิงสาวเม้มปากเป็นเส้นตรงไม่กล้าส่งเสียงร้องน่าละอายออกมา เพราะเขินเกินกว่าจะทำแบบนั้น
“ผมชอบเสียงคุณนะ ร้องดัง ๆ ได้เลย นอกจากผมในห้องนี้ก็ไม่มีใครได้ยินหรอก” เขาบอกกับเธอพลางใช้มือของตนเองบีบเคล้นยอดอกสีชมพูของพิมพ์นาราเพิ่มความกระสัน
“อ๊ะ...คนของคุณอยู่หน้าห้อง” พิมพ์นาราบอก “อ๊ะ อ๊ะ ฉันกลัวเขาได้ยิน”
กวีวัธน์คลี่ยิ้ม “นี่มันโรงแรมห้าดาว ไม่มีใครได้ยินหรอกครับ”
“อ๊ะ...แต่มันก็น่าอายอยู่ดี”
“ถึงขนาดนี้แล้วคุณยังอายผมอยู่อีกเหรอคุณของขวัญ” เขาพูดเบา ๆ
ในเมื่อเธอไม่ยอมเขาก็มีหลากหลายวิธีการที่จะทำให้เธอส่งเสียงร้องออกมา กวีวัธน์เร่งจังหวะเร็วขึ้นรวมถึงใช้นิ้วบดขยี้ติ่งไตสีสวยของพิมพ์นาราไปพร้อมกับการกระแทกเอวสอบ จนได้ยินเสียงของร่างกายกระทบกันดังลั่นห้อง
“อาห์ คุณกวี ยอมแล้ว” พิมพ์นาราบอก
“ดีมาก ร้องดัง ๆ เลยเด็กดี”
“อาห์ อาห์ อาห์” พิมพ์นาราส่งเสียงร้องครวญครางตามความต้องการของกวีวัธน์ หญิงสาวรู้สึกคล้ายกำลังจะถึงฝั่งปรารถนา “คุณกวี คุณกวี ของขวัญไม่ไหวแล้ว อ๊ะ อ๊ะ”
ร่างสูงยิ้มชั่วร้ายมองหน้าคนตัวเล็กที่หลับตาพริ้มอยู่เบื้องล่าง กวีวัธน์กดกระแทกแก่นกายขนาดใหญ่ของตัวเองอีกสองสามครั้ง แล้วจึงปลดปล่อยของเหลวสีขาวใส่ถุงยางอนามัย ทั้งสองร่างนอนกอดก่ายกันอยู่เช่นนั้น พิมพ์นาราหายใจหอบเหนื่อยมองตาของชายหนุ่ม ครู่หนึ่งกวีวัธน์ก็ถอนแก่นกายของตัวเองออก ความรู้สึกวูบโหวงโล่งแปลก ๆ พิมพ์นาราทำท่าจะลุกเข้าไปห้องน้ำ แต่ยังไม่ทันได้ไปไหนก็ได้ยินเสียงฉีกซองพลาสติกดังแว่วผ่านหู
ลำเอ็นของกวีวัธน์แข็งขึ้นมาอีกครั้งอย่างรวดเร็วพิมพ์นาราทำตาโต
“อีกเหรอคะ”
“ครั้งเดียวไม่พอหรอกครับ”
“แต่ของขวัญเหนื่อยแล้ว”
“รอบนี้ของขวัญก็แค่นอนเฉย ๆ ก็พอครับไม่ต้องออกแรงเดี๋ยวผมออกแรงเอง” พูดจบกวีวัธน์ก็กระโจนเข้าหาหญิงสาวอีกครั้ง อุ้มเธอกลับมายังที่นอน
“แต่เมื่อกี้ของขวัญก็นอนเฉย ๆ นะคะยังเหนื่อยเลย” เหนื่อยเหมือนไปวิ่งมาราธอนเสร็จหมาด ๆ พิมพ์นาราพูดยังไม่ทันจบประโยคดีกวีวัธน์ก็เปลี่ยนให้คนตัวเล็กนอนคว่ำหน้า
“เดี๋ยวนวดให้” พูดจบก็ดันเอวสอดแก่นกายขนาดใหญ่เข้าไปจากด้านหลัง
“อ๊ะ...นี่มันนวดแบบไหนกันคะ” พิมพ์นาราอยากจะบ้า ความรู้สึกคับแน่นเสียวซ่านกลับมาอีกครั้ง ถึงจะบอกว่าพอแล้ว แต่เมื่อเขาสอดตัวตนอันแข็งแกร่งเข้ามาอีกรอบ อารมณ์ปรารถนาก็ก่อตัวขึ้นอีกครั้งราวกับเปลวเพลิงที่ลุกไหม้
ชายหนุ่มก้มตัวลงไปกดเอวสอบกระแทกร่องรักของพิมพ์นาราจากด้านหลัง อีกทั้งยังบิดปลายคางให้คนตัวเล็กหันมาจุมพิตอย่างดูดดื่ม
“นวดแบบนี้เร็ว ๆ แรง ๆ ชอบไหมล่ะ”
“อือ...” คนตัวเล็กตอบไม่ได้ มันเสียวจนเอ่ยออกมาเป็นคำพูดได้มาได้ ทำแค่เพียงร้องครางไปตามจังหวะกดกระแทกเอวของกวีวัธน์เท่านั้น
“คุณกวี”
“อะไรกัน เสียวจนเสร็จอีกแล้วเหรอ”
“อาห์ ไม่ไหวแล้วค่ะ” ร่างบอบบางของพิมพ์นาราสั่นและกระตุก เธอเสร็จไปอีกครั้งแต่ดูเหมือนกวีวัธน์จะยังไม่พอใจ เขากระแทกเอวเข้ามาอีกหลายครั้ง เนิ่นนานหลายท่าเสียจนพิมพ์นาราลืมนับ
“อืม...”
จำได้ว่าสุดท้ายพิมพ์นาราได้ยินเสียงเขาครางต่ำอย่างเซ็กซี่ แล้วสุดท้ายเธอก็หลับไปเพราะความเหนื่อยและง่วงในที่สุด