บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 06 ทะเลาะ

ก๊อกๆๆ

"ใคร?"

"ฉันเอง"

แกร้ก!

ฉันลุกออกไปเปิดประตูให้กับเขา ปกติหลังจากที่เราสองคนแยกย้ายกันเข้าห้องแล้ว ก็จะไม่ได้มารบกวนอะไรกันอีกมีเรื่องอะไรก็จะคุยกันตอนเช้าอีกทีเลย

"มีอะไร?"

"เพ็ญเขาจะขอนอนที่นี่สักคืนนึง เธอไม่ว่าอะไรใช่ไหม ฉันให้ภาจัดห้องนอนเอาไว้ให้แล้วอยู่ฝั่งโน้น"

"เรื่องของคุณสิบ้านหลังนี้ไม่ใช่ของฉันสักหน่อยจะมาถามฉันทำไม"

"....."

"แค่นี้ใช่ไหมที่จะมาพูด ฉันจะได้นอน"

"เดี๋ยว..."

"อะไรของคุณอีก?"

"เมื่อกลางวันได้ทะเลาะอะไรกับเพ็ญหรือเปล่า"

"คุณก็ไปถามคนของคุณเอาเองสิ ฉันพูดอะไรไปคุณจะเชื่อหรือไง"

"ก็ยังไม่ทันได้พูดเลย ฉันจะรู้ได้ยังไงว่าควรเชื่อหรือไม่ควรเชื่อ"

"คนที่จะเชื่อฉันอยู่แล้วนี่"

"...."

"ฉันไม่อยากยุ่งอะไรกับใครทั้งนั้น แค่นี้แหละที่คุณจะได้ยินจากฉัน"

ปัง!

ฉันปิดประตูใส่หน้าเขาทันที ฉันไม่ชอบพูดอะไรให้มันยืดเยื้อในเมื่อเรื่องมันจบไปแล้ว คนอย่างฉันถ้าจะเอาเรื่องจริงๆ ฉันเอาเรื่อง ณ ตอนนั้นเวลานั้นไปแล้ว ไม่ปล่อยผ่านมาจนถึงตอนนี้หรอก

************

สายๆ ของวันถัดมา

ฉันตื่นตามเวลาปกติซึ่งน่าจะเป็นเวลาสายๆ ของที่นี่เลย แต่พอลงมาแล้วก็เจอเรื่องน่าเบื่อเลยล่ะ

"ตื่นสายนะคะคุณเขม"

"เรื่องของฉันมาสาระแนอะไรด้วย?"

"เขม..."

"...." ฉันหันไปมองเขาตาขวาง ดูเหมือนว่าเขากำลังปรามฉันไม่ให้ฉันพูดจาไม่ดีใส่ผู้หญิงคนนี้ เขาคงไม่รู้หรอกเพราะผู้ชายแบบเขาคงจะมองมารยาผู้หญิงไม่ออก

"กินข้าวเช้าไหมจ๊ะคุณนาย"

"ไม่ล่ะ ฉันไม่ชอบร่วมวงกินกับใคร เดี๋ยวไปกินในครัวด้วยละกัน"

"เดี๋ยวสิ ฉันนั่งอยู่ตรงนี้ ก็นั่งกินข้าวมันตรงนี้เลย ให้ภามากินข้าวตรงนี้ด้วย"

"นึกว่าคุณอยากอยู่กันสองต่อสองซะอีก"

"....."

"อ้อ...ลืมไปว่าฉันเป็นภรรยานี่นา ภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายซะด้วย แหม่..ลืมไปเลยนะเนี่ย ภรรยาก็ต้องกินข้าวกับสามีสิจะให้คนอื่นมากินข้าวกับสามีตัวเองได้ยังไง"

ฉันพูดด้วยใบหน้าที่เปื้อนยิ้ม แต่คำพูดของฉันมันแดกดันไปที่ใครบางคนจนหน้าของเธอถอดสีไปเลย ต่อหน้าอีตาบ้านี่หล่อนคงไม่กล้าแผลงฤทธิ์สินะ คงคิดว่าจะเอาคืนฉันหลังจากที่เขาไปทำงานแล้วล่ะสิ

"นี่คุณ..."

"อะไร?"

"ครอบครัวของเรารบเร้ามากันแล้วนะว่าเมื่อไหร่เราจะมีลูกด้วยกันสักที นี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ เราก็ทำกันอยู่ทุกวัน แต่ทำไมถึงยังไม่ท้องได้นะ" ถ้าฉันท้องได้ก็คงแปลกแล้วล่ะ ฉันไม่เคยมีอะไรกับเขาเลยนี่นา ขนาดนอนยังนอนแยกห้องกันเลย ฉันจะให้อีตาบ้านี่เปิดความบริสุทธิ์ฉันง่ายๆ ได้ยังไงกัน

"เอ่อ...ว่าแต่นายหัวจะเข้าไปในเมืองอีกเมื่อไหร่หรอ?"

"น่าจะเดือนหน้ามั้ง ถ้าไม่ได้ออกไปซื้ออะไรที่จำเป็นก็คงไม่ออกไป"

"ถ้าอย่างนั้นแวะไปรับเพ็ญที่บ้านหน่อยนะคะ"

"บ้านก็อยู่ใกล้ๆ นี่ นั่งรถไปแป๊บเดียวก็ถึงแล้วแบบนั้นไม่สะดวกกว่าหรอ"

"พอดีว่าต้องนั่งรถต่อไปในเมืองอีกที่นึงอ่ะ เลยจะให้นายหัวไปส่งที่สถานีรถไฟ"

"เดือนหน้าเลยนะ"

"อื้ม..."

"โอเค"

ทำไมฉันได้เห็นท่าทีอิดออดของผู้หญิงคนนี้แล้วรู้สึกหมั่นไส้จริงๆ เลยนะ ต่อหน้าฉันไม่ใช่ผู้หญิงดีวางตัวเรียบร้อยแบบที่ทำอยู่ตอนนี้เลย แต่พออยู่ต่อหน้านายหัวพูดเสียงอ่อนเสียงหวานสายตาที่ใช้จับจ้องก็หยาดเยิ้ม

ผ่านไปไม่นาน

"ฉันจะออกไปทำงานแล้วนะ"

"อือ"

"อะไรของเธอเนี่ยเป็นไบโพล่าหรอ ตอนกินข้าวยังคุยกับฉันอย่างกับ..."

"มันก็แค่การแสดง ฉันแค่หมั่นไส้คน"

"อยู่บ้านดีๆ ล่ะห้ามก่อเรื่องเด็ดขาด บ้านของฉันยังไม่อยากสร้างใหม่เพราะงั้นไม่ต้องเผาล่ะ"

"จิ๊ อีตาบ้า!"

"....." เขารีบเดินไปขึ้นรถทันที จากนั้นก็ออกไปพร้อมกับคนงานนั่งท้ายกระบะอีกหลายสิบคน

"นายหัวเขารักเธอจริงๆ หรอ?"

"ถามทำไม?" เดินมาตอนไหนเนี่ย ไม่ให้ซุ่มให้เสียงเลย ตกใจหมดนึกว่าผี

"เปล่าฉันก็แค่อยากรู้ ตั้งแต่ที่รู้จักกับนายหัวมาเขาไม่คิดที่จะหาคนรักไม่คิดที่จะมีครอบครัวเลย ก็เลยแอบสงสัยน่ะว่าไปคบกันตอนไหนแล้วแต่งงานกันเร็วจัง"

"เรื่องของครอบครัวคนอื่น ไม่ต้องยุ่งบ้างก็ได้ เอาเวลาไปใส่ใจนิสัยของตัวเองดีกว่า"

พูดจบฉันก็หันหลังเดินกลับเข้าไปในบ้านทันที และนี่ก็เป็นอีกวันที่ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากเดินไปเดินมา หาของกินบ้าง นอนบ้างนั่งเล่นบ้าง ไม่รู้สิฉันเป็นคนที่ไม่มีงานอดิเรกทำกับเขา แต่ฉันไม่ชอบอยู่เบื่อๆ แบบนี้

แถวนี้ก็มีแต่ป่าที่ฉันเดินไปไหนมาไหนไม่ค่อยได้ เพราะภาบอกเอาไว้ว่าแถวสวนงูจะค่อนข้างเยอะแต่งูจะไม่เข้าบ้านเพราะนายหัวเขาป้องกันเอาไว้แล้ว

"เธอไม่ใช่คนแถวนี้หรอ?"

"ใช่"

"ถึงว่า ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย ว่าแต่ไปคบกับนายหัวตอนไหน คบกันมานานเท่าไรถึงตัดสินใจแต่งงานกัน"

"อืม...คบกันมายี่สิบกว่าปีได้แล้วนะ นับตั้งแต่ฉันเกิดน่ะ พ่อกับแม่ของนายหัวเขาจองตัวฉันเป็นลูกสะใภ้ตั้งแต่อยู่ในท้องแม่แล้วล่ะ"

"จะบอกว่า ที่แต่งงานกันเพราะพ่อกับแม่หมั้นหมายเอาไว้ให้งั้นหรอ"

"ก็ไม่เชิงหรอก ที่ฉันยอมมาอยู่กับเขาก็เพราะว่าฉันชอบเขา และก็มีแพลนจะมีลูกแล้วด้วยล่ะ แต่งงานกันเพราะถูกหมั้นใหม่กันไว้ก็จริง แต่เรามาอยู่ด้วยกันเพราะความรู้สึกดีๆ ต่อกันต่างหาก"

"คิดหรอว่านายหัวจะรักเธอจริงๆ"

"อย่างน้อยฉันก็มีสิทธิ์แหละน่า รักหรือไม่รักจริงๆ ฉันก็ได้ครอบครองเขาอยู่ดี ใครที่กำลังคิดจะมาเป็นเมียน้อยหรือจะมาเป็นมือที่สาม ก็คิดให้มันดีๆ เพราะถ้าเมียหลวงเขาจับได้แล้วเอาเรื่องขึ้นมา เขาจะฟ้องเอาได้"

"เหอะ! ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง ฉันว่าคนอย่างเธอคงรู้ไม่ทันหรอก บางทีเขาอาจจะแอบกินกันลับๆ ก็ได้ ใบทะเบียนสมรสมันก็ไม่ช่วยอะไรหรอก ของแบบนี้มันอยู่ที่ใจ"

"ถ้าเป็นแบบนั้นเขาเรียกว่าผู้หญิงหน้าด้านต่างหากล่ะ"

"เอ๊ะนังนี่!"

"มาดิ!"

"อย่าคิดว่าตัวเองดีเลิศเลอขนาดนั้น ถูกแย่งไปได้เมื่อไหร่ ขอให้รู้เอาไว้ว่าฉันนี่แหละคือคนที่แย่งของรักของหวงของเธอไปเอง"

"ถ้ามีความสามารถขนาดนั้นก็ไปสิ แต่ก็นะ คิดไปเองฝ่ายเดียวมันก็เท่านั้น ผู้ชายไม่เล่นด้วยเธอจะทำอะไรได้"

"เดี๋ยวเธอก็รู้ว่าทำได้หรือทำไม่ได้"

"ฉันจะรอดูผู้หญิงหน้าด้านก็แล้วกัน สงสัยจะเป็นเปรตถึงได้มายืดตัวร้องขอส่วนบุญอยู่แถวนี้"

ผลั่ก!!

"อีบ้า!" จู่ๆ ผู้หญิงคนนั้นก็ลุกขึ้นมาแล้วผลักฉันจนหลังกระแทกกับเก้าอี้ ข้อศอกกระแทกเข้ากับไม้พอดี เลยทำเอาแขนของฉันรู้สึกเจ็บจี๊ดมาก

"คิดหรอว่าฉันจะยอม!"

ปัก!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel