ความสูญเสีย(3)
ความพลุกพล่านภายในสนามบิน ทำให้หญิงสาวนั้นต้องเบียดเสียผู้คนเพื่อเดินออกมา ด้านนอก มาริสาชะเง้อมองไปยังด้านหน้า มองหาพี่ชายที่บอกว่าจะมารอรับ เธอหรี่ตาเล็กน้อยเมื่อเห็นชายหนุ่มร่างสูงหน้าตาคุ้นเคยยืนอยู่ไม่ไกล
ใบหน้าของเขายังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน แต่สิ่งที่แปลกไปคือทรงผมของพี่ชายที่ยาวถึงติ่งหู
มาริสาหลุดหัวเราะเมื่อเธอนั้นยืนอยู่ตรงหน้าชายร่างสูง
“มาถึงก็หัวเราะทรงผมฉันเลยนะ”
เมธาวินเอ่ยด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ โดยปกติแล้วเขาเป็นผู้ชายเซอร์ๆไว้ผมยาวมาโดยตลอด แต่เมื่อ วันก่อนลูกสาวตัวดีดันเอาหมากฝรั่งมาแปะที่ผม เขาจึงต้องจำใจตัดทิ้ง แต่ด้วยความเสียดายและกลัวว่าผมนั้นจะยาวช้าจึงไม่ได้ตัดออกทั้งหมด ยังคงเหลือไว้เสมอติ่งหู
“เกิดอะไรขึ้นทำไมตัดผมทรงนี้”
หญิงสาวเอ่ยถามพร้อมหัวเราะไปด้วย เมธาวินพ่นลมหายใจเมื่อเสียงหัวเราะของน้องสาวนั้นเรียกความสนใจของผู้คนรอบข้าง เขารู้สึกเขินเมื่อเห็นรอยยิ้มของคนที่มองมา
“พอได้แล้วจะหัวเราะอะไรนักหนา หลานสาวตัวดีของแกนั่นแหละเอาหมากฝรั่งมาแปะหัวฉัน ก็เลยต้องตัดทรงนี้”
“แล้วทำไมไม่ตัดแบบที่ผู้ชายเขาตัดกันล่ะ จะเหลือไว้ทำไม”
น้องสาวยังคงหยุดขำไม่ได้ พี่ชายเธอรูปร่างสูงและกำยำ แต่ตัดผมราวกับนักเรียนหญิงมัธยมต้น ใครเห็นก็คงอดหัวเราะไม่ได้
“ฉันไม่ได้อยากตัดผมแบบผู้ชาย ฉันอยากไว้ผมยาวเว้ย”
“แล้วทำไมไม่หาวิกมาใส่ก่อนล่ะ ใส่ไปพลางๆระหว่างที่รอผมยาวไง”
ชายหนุ่มชะงักคล้ายกับว่าคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ เขามองน้องสาวก่อนจะเผยรอยยิ้ม
“ทำไมฉันคิดไม่ได้ งั้นเดี๋ยวก่อนเข้าบ้านขอแวะซื้อวิกก่อนก็แล้วกันนะ”
มาริสาพยักหน้า พี่ชายของเธอเป็นคนที่ไม่ค่อยมีไหวพริบสักเท่าไหร่ เรื่องง่ายๆก็คิดไม่ค่อยได้ต้องรอให้คนอื่นมาจุดประกายให้อยู่เรื่อย
หลังจากได้ทรงที่ถูกใจ เมธาวินก็อารมณ์ดี เขาขับรถไปผิวปากไปก่อนจะนึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมา
“แกจะไปช่วยงานศพคุณท่านหรือเปล่า”
หญิงสาวพยักหน้าดวงตาหม่นแสง เธอได้รับข่าวร้ายว่าผู้มีพระคุณเสียชีวิตจึงได้รีบกลับมาจากจีนเพื่อมาช่วยงาน แบ่งเบาภาระคุณนวลนางที่ตอนนี้ ล้มป่วยกระทันหัน
“ไปอยู่แล้ว ฉันอยากทำอะไรเพื่อท่านเป็น ครั้งสุดท้าย”
นับตั้งแต่วันที่เธอนั้นได้ทุนการศึกษาไปเรียนที่ประเทศจีน ก็ไม่เคยได้กลับมากราบอิศราอีกเลย ตอนที่ผู้มีพระคุณล้มป่วยนอนโรงพยาบาล น่าเสียดายที่เธอติดการสอบครั้งใหญ่จึงปลีกตัวมาไม่ได้
“ท่านเป็นคนดีมาก ช่วยเหลือครอบครัวของเรามาโดยตลอด”
ชายหนุ่มเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้า ตอนที่ทราบข่าวจากเพื่อนสนิทอย่างอัครนัยตัวเขาเองก็ตกใจกับการจากไปกระทันหันของคุณอิศรา
“แล้วพี่จะไปช่วยงานด้วยหรือเปล่า”
เมธาวินส่ายหน้า งานวันแรกๆเขาคงไม่สะดวกไปเพราะต้องสลับกับภรรยาเพื่อเลี้ยงลูกคนเล็กที่เพิ่งคลอด
“คงไปไม่ได้หรอก ต้องช่วยลูกปัดดูแลเด็กๆ”
ป่านนี้ปัทมาคงจะชะเง้อรอคอยเขาอยู่หน้าบ้านแล้ว ช่วงนี้ภรรยาสาวคนสวยเพิ่งคลอดลูกและมีภาวะหลังคลอดที่ค่อนข้างรุนแรง ทำให้เขาต้องคอยประคบประหงมตลอดเวลา