รู้สึกผิด
ตอนที่ 5
รู้สึกผิด
“ไปช่วยหยิบของหลังรถให้หน่อย”
ชนะภพบอกภรรยาพร้อมกับชี้ไปที่กระโปรงหลังรถที่กำลังเปิดอยู่ทั้งที่เขาไม่เคยจะใช้ให้ญาณิณต้องไปถือของ
“ทุเรียนจากจันทบุรีเพื่อนเอามาฝากช่วยกินให้หมดด้วยนะ”
ท่านประธานหันมาชำเรืองแอบดูสีหน้าของสาวน้อยจากต่างจังหวัดเพราะเขารู้ว่าทุเรียนคือผลไม้ที่ญาณิณชอบกินมากๆ
“ขอบคุณนะคะ”
“ไม่ต้องมาขอบคุณอะไร ผมไม่ได้ซื้อเพื่อนแค่เอามาฝากเก็บไว้ก็เหลือเอามาให้คุณกินจะได้ไม่ต้องเสียดายด้วย”
เรื่องราวเกือบจะดีอยู่แล้วแต่สุดท้ายชนะภพก็ยังหยุดปากเสียไม่ได้ มันคงจะเป็นการป้องกันตัวของเขาที่ไม่ต้องการรู้สึกผูกพันอะไรกับภรรยา
“ไปเอาทุเรียนมาจากไหนญาณิณ”
สมใจรีบเดินมาช่วยลูกสะใภ้ถือเพราะตอนนี้มือทั้งสองข้างของหญิงสาวตัวเล็กมีทุเรียนอยู่ข้างละ 2 ลูกแต่ละลูกก็ค่อนข้างจะหนัก
“คุณชนะภพบอกว่ามีเพื่อนเอามาฝากจากจันทบุรีค่ะ”
ญาณิณตอบตามที่สามีบอกก่อนจะรีบเดินเข้าครัวไปเพื่อแกะทุเรียนมาใส่จานให้เรียบร้อย
“เพื่อนเอามาฝากที่ไหนกันล่ะฉันโทรไปถามที่ร้านทุเรียนเจ้าประจำแล้วชนะภพสั่งให้เขาเอามาส่งที่บริษัทสงสัยจะรู้ว่าเมียชอบกิน เพราะปกติแล้วลูกชายฉันเข้าเหม็นกลิ่นทุเรียนที่สุดห้ามเอาไว้ในตู้เย็นเด็ดขาดบ้านนี้ถึงไม่มีตู้เย็นหลายตู้”
สมใจหันไปส่งยิ้มให้กับลูกสะใภ้เพื่อให้อีกฝ่ายรู้ว่าทุเรียนไม่ได้เกิดจากการที่เพื่อนเอามาฝากแต่มันเกิดจากความตั้งใจของชนะภพที่อยากจะทำให้ภรรยามีความสุขที่ได้กินทุเรียนที่ตัวเองชอบแม้ว่าเขาจะต้องทนเหม็นมาตลอดทางที่ขับรถจากบริษัทมาจนถึงบ้านก็ตาม
“ลูกชายฉันเขาก็มีมุมน่ารักเหมือนกันนะถึงแม้จะปากร้ายไปบ้างก็ตาม”
แม่สามีลูบผมลูกสะใภ้ด้วยความเอ็นดูและสงสารถึงแม้ว่าตอนนี้ชนะภพจะดูเอาใจภรรยาขึ้นแต่มันก็ยังไม่ใช่ความสัมพันธ์แบบสามีภรรยาทั่วไป เขาก็ยังคงทำเหมือนว่าเป็นเพียงแค่คนรู้จักที่ต้องนอนห้องเดียวกันก็เท่านั้น
วันเวลาที่ผ่านไปทำให้ทั้งคู่เริ่มมีมุมที่น่ารักต่อกันไม่ว่าจะการพาไปกินอาหารมื้อเย็นหรือซื้อเสื้อผ้าให้สำหรับคู่สามีภรรยาคู่อื่นมันอาจจะเป็นเรื่องธรรมดามากแต่สำหรับญาณิณมันคือเรื่องพิเศษที่เธอไม่เคยคิดฝันว่าจะได้มีมุมนี้กับเขา
“นี่คือข้อมูลของคุณนาราทั้งหมดครับ”
บริษัทนักสืบส่งซองสีน้ำตาลที่ด้านในมีภาพของนารากับสามีของเธอ ภาพถ่ายเกือบร้อยรูปแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่คบหากันมานานและเงินที่ได้จากสินสอดค่าแต่งงานไป หญิงสาวก็เอาไปใช้ ปลูกบ้านเพื่ออยู่กับสามีของเธอ
“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าเขาสองคนไม่ได้เป็นเพื่อนกัน”
คนโดนทิ้งยังพยายามที่จะหลอกตัวเองต่อไปถึงแม้ว่าภาพถ่ายแต่ละภาพก็แสดงให้เห็นถึงความสนิทสนมของคนทั้งคู่
“ผมไปแฝงตัวอยู่ที่นั่นเกือบครึ่งเดือนจนแน่ใจว่าทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันจริงๆแล้วทุกอย่างก็อย่างที่ผมเขียนบอกเอกสารเงินที่คุณใช้เป็นสินสอดก็ถูกเปลี่ยนเป็นบ้านหลังนั้นและอีกเรื่องนึงที่ผมไม่รู้ว่าคุณอ่านไปถึงหรือยังคือทั้งคู่คบหากันมาได้เกือบ 2 ปีแล้วดังนั้นการหนีการแต่งงานในครั้งนี้คุณนาราตั้งใจครับ”
นักสืบเลือกที่จะอธิบายขยายความเพราะคิดว่าผู้ว่าจ้างคงยังอ่านไปไม่ถึงรายละเอียดที่เขาได้เขียนไว้
“เธอดูมีความสุขไหม” ชนะภพไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะถามให้ได้อะไร
“ก็ดูมีความสุขนะครับแต่เท่าให้ผมไปสืบมาสามีของเธอค่อนข้างจะเจ้าชู้และก็ติดการพนัน”
สำหรับนักสืบมืออาชีพการหาข้อมูลแบบนี้ไม่ใช่เรื่องยากเพราะสังคมต่างจังหวัดก็มักจะชอบซุบซิบพูดถึงคนอื่นอยู่แล้วแค่เพียงเขาแฝงตัวไปคุยกับแม่ค้าที่อยู่แถวบ้านนาราไม่นานเขาก็ได้ข้อมูลรายละเอียดมากกว่าที่คนว่าจ้างต้องการเสียอีก
ชนะภพถึงแม้จะรับรู้เรื่องราวทุกอย่างจนกระจ่างแก่ใจว่าการที่นาราหนีงานแต่งงานในคืนนั้นไม่ได้เกิดจากแม่ของเขาและญาณิณวางแผนแต่มันคือแผนของนาราต่างหากแต่ชายหนุ่มก็ยังทำใจที่จะยอมรับความจริงไม่ได้ เขาได้แต่พยายามหาเหตุผลให้คนรักเก่าเพื่อที่เขาจะได้รู้สึกมีค่าขึ้นไม่กลายเป็นคนถูกหลอก มันทำให้ชนะภพกลายเป็นคนอ่อนแอและเขาก็อายเกินกว่าที่จะมองหน้ามารดาและภรรยาที่เขาย่ำยีเธอเพียงเพราะเข้าใจผิด
“อะไรกันคะ”
ญาณิณถามด้วยความแปลกใจที่สามีของเธอส่งถุงเสื้อผ้าให้และเท่าที่ดูมันก็ไม่น่าจะต่ำกว่า 10 ชุด
“วันหยุดนี้ผมจะไปทำงานที่ต่างจังหวัดจะพาคุณไปด้วยเห็นว่าไม่ได้ไปไหนนานที่นั่นมีทะเลสวยเสื้อผ้าพวกนี้คุณก็เอาไปซักให้เรียบร้อยแล้วก็เตรียมจัดกระเป๋ารอได้เลย”
คนพูดสองมือล้วงกระเป๋าใบหน้านิ่งแววตาไร้ความรู้สึกทั้งที่ความจริงหัวใจของเขาตอนนี้กำลังอยากทำทุกอย่างแทนคำขอโทษที่เขาเคยเป็นคนโง่มองผู้หญิงตรงหน้าผิดไป
“จะสะดวกหรือคะถ้าฉันไปด้วย”
ญาณิณไม่ได้ต้องการจะเล่นตัวแต่เธอแค่ไม่แน่ใจว่าที่เขาชวนเกิดจากความตั้งใจหรือความสงสาร เธอกลัวว่าความจริง ชนะภพอาจจะไม่อยากให้เธอไปแต่อาจจะมีเหตุผลบางอย่างหรือเรื่องนี้อาจจะเกี่ยวกับสมใจหญิงสาวจึงไม่อยากให้ชายหนุ่มรู้สึกอึดอัด
“ผมจะอึดอัดหรือไม่อึดอัดมันก็เรื่องของผม คุณมีหน้าที่ทำตามคำสั่งก็พอ”
คนปากร้ายถึงแม้ตั้งใจว่าจะพูดให้ดีขึ้นแต่มันก็อดไม่ได้แต่คำพูดของเขามันก็เป็นเพียงแค่การปกปิดความรู้สึกของตัวเอง หัวใจของชายหนุ่มกลัวว่าถ้าภรรยารู้เรื่องราวทั้งหมดบางทีเธออาจจะมองเขาเป็นเพียงแค่ผู้ชายไร้ค่าที่โดนผู้หญิงหลอก