EP : 4 เหตุการณ์คล้ายๆ กัน
สามวันแล้วที่มู่จางเสี่ยวอยู่ในถ้ำน้ำตกแห่งนี้ เมื่อเธอลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องตกใจเพราะหยดน้ำค้างสวรรค์มากมายตกลงอยู่กับพื้นของถ้ำราวกับว่ามันเป็นของไร้ค่าเพราะมองไปทางไหนก็เต็มไปหมด
มู่จางเสี่ยวไม่คิดว่าตัวเองจะโชคดีขนาดนี้ ัเพราะคิดเอาไว้ว่าน่าจะมีสักสองสามหยดน้ำค้างสวรรค์เป็นแน่ แต่มันกลับไม่ใช่ นี่มันมากมายเกินไปแล้วเอาไปประมูลขายคงรวยเป็นแน่
“เก็บก่อนแล้วกัน” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นพลางรีบเก็บของดีเอาไว้ในแหวนมิติทันทีอย่างรวดเร็ว บ้าบอเกินไปแล้ว ไม่อยากจะเชื่อว่าหยดน้ำค้างสวรรค์กว่าร้อยหยดจะมาอยู่ในแหวนมิติของเธอ
“นภาขั้นหนึ่ง ไม่ง่ายเลยจริงๆ ที่กว่าจะเลื่อนขั้นไปได้ในแต่ละขั้นแต่ระดับ” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นเมื่อตรวจระดับลมปราณของตัวเอง
“ฝึกตำราเซียนหน่อยก็แล้วกัน” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นเพราะมีตำราเซียนอยู่เล่มเดียวที่อยู่ในแหวนมิติ มู่จางเสี่ยวเปิดไปยังหน้าแรกที่มีคำอธิบายบอกว่าต้องทำอย่างไรก่อน
“ต้องฝึกกระบวนท่ามังกรเหินนภาจนทำให้มีมังกรออกมาเป็นตัวตามรูปภาพ” มู่จางเสี่ยวพูดขึ้นก่อนจะมองตามรูปที่มีการอธิบายบอกอย่างระเอียด
เธออยากจะรู้คืออะไรคือตำราเซียนมันไม่ได้บอกถึงการเป็นเซียนเลยสักนิด หรือมันคือกลลวงหรือคิดชื่อตำราไม่ออกเลยตั้งชื่อนี้กัน
“ช่างมันเถอะฝึกๆ ไปก่อน จะหมูหรือจ่าค่อยว่ากัน” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นก่อนจะฝึกว่าตำราอย่างเคร่งครัดขอแค่ให้เก่งขึ้นพอจะเอาตัวรอดได้ก็พอแล้ว
“แบบนี้ แล้วก็แบบนี้ อืม น่าจะถูกนะ แล้วก็แบบนี้” เสียงพูดอยู่คนเดียวของมู่จางเสี่ยวดังขึ้นในตลอดเวลาของการฝึกมังกรเหินนภาให้เป็นรูปเป็นร่าง มากสุดก็ทำได้แค่หัวมังกรเท่านั้น
ตุ้บ!
“เฮ้อ ยากชะมัดเลย” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นหลังจากที่ตัวเองทิ้งตัวลงนอนกับพื้น พลางคิดว่านางยังไม่ได้ทานอะไรเลยนี่น่า
และน่าแปลกที่เธออยู่ได้โดยไม่รู้สึกหิว แต่ตอนนี้เธอชักจะหิวแล้วสิ มีอะไรพอจะให้เธอทำเป็นอาหารได้บ้างนะ
“มันจะมีปลาให้ตกหรือเปล่านะ” มู่จางเสี่ยวเอ่ยพลางเดินไปยังปากถ้ำน้ำตกที่มีน้ำอยู่เผื่อจะมีปลาหลงว่ายเข้ามาในนี้
“เฮ้อ รู้อย่างนี้น่าจะล่าสัตว์มาเก็บไว้ก็ดี” หลังจากที่เธอมองอยู่นานสองนาน ก็ไม่มีท่าทีว่าจะมีปลาสักตัวว่ายหลงมาเลยสักนิด
“ในถ้ำนี้มีอะไรพอจะทานได้หรือไม่นะ” มู่จางเสี่ยวเอ่ยพลางกวาดสายตามองไปรอบๆ สงสัยต้องเดินไปหาดูสักหน่อยเผื่อมีอะไรพอจะทานได้บ้าง
มู่จางเสี่ยวเดินไปรอบถ้ำน้ำตกเผื่อมีเห็ดให้เธอทานรองท้องได้บ้าง
“มีเห็ดหลินจือหรือโสมหน้าคนก็ดีนะสิ แม่จะเอามาย่างทานเลยคอยดูสิ” มู่จางเสี่ยวเดินไปสอดส่องสายตาไปก็บ่นพึมพำไปด้วย
“เอาจริงดิ นี่มันบ้าชัดๆ” มู่จางเสี่ยวอดไม่ได้ที่จะสบถออกมาเมื่อเดินเข้ามาในถ้ำน้ำตกลึกเรื่อยๆ ก็เดินออกไปทะลุโพลงจนไปเจอกับอีกถ้ำหนึ่งซึ่งมีต้นผลไม้ต้นใหญ่ แถมยังมีผลไม้อย่างอื่นอีกด้วย
“แตงโมเซียน” มู่จางเสี่ยวร้องขึ้นอย่างตกใจเมื่อเห็นแตงโมลูกใหญ่ขนาดเท่ากับเธอ นี่มันสวนผลไม้หรืออย่างไรกัน มีผลไม้ทุกอย่างเลย มีแต่ของหายากในนิยายของเรื่องนี้ทั้งนั้น นี่เธอทำบุญด้วยอะไรถึงได้เจอของดีๆ แบบนี้กัน
“เก็บไปทุกอย่างก็แล้วกัน อืม เก็บเอาไปเผื่อด้วยก็ดีเผื่ออยู่ดีๆ มันหายไปคงแย่แน่” มู่จางเสี่ยวกล่าวจบก็เก็บทุกอย่างเท่าที่จำเป็นก่อนจะกลับไปยังถ้ำน้ำตกตามเดิม
“แตงโมทานวันเดียวก็ไม่หมดหรอก” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นพลางตัดแบ่งส่วนไปด้วยเพื่อที่จะเก็บไว้ทานได้หลายวัน
“อ่า อืม หวานมากๆ เลย” เสียงร้องอย่างมีความสุขหลังจากทานแตงโมเซียนเข้าไปในปาก อืม มันหวานมากๆ จากนั้นเธอก็เบิกตากว้างเมื่อคิดได้ว่านี่ก็สามารถเพิ่มระดับลมปราณได้เหมือนกัน ดูได้จากที่ลมปราณของเธอเริ่มตื่นตัวแต่ลงต้องทานเยอะหน่อย
“ทานนี้เสร็จก็ไปฝึกต่อจากนั้นก็นอนพักก่อนแล้วพรุ่งนี้ก็ฝึกแล้วค่อยดูดซับลมปราณต่อก็แล้วกัน” เมื่อตกลงกับตัวเองเสร็จแล้วมู่จางเสี่ยวก็รีบทานแตงโมเซียนก่อนจะกลับไปฝึกมังกรเหินนภาต่อ จนเหมือนว่าเธอจะทำได้มากกว่าหัวมังกรแล้วนิดหน่อย
“เหนื่อยกว่าซ้อมมวยอีก เฮ้อ” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นพลางนั่งลงกับพื้นอย่างหมดสภาพ มองเนื้อตัวของตัวเองแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจแล้วคิดว่าคงต้องไปอาบน้ำสักหน่อย
“อ่า เย็นสบายสุดๆ” มู่จางเสี่ยวร้องขึ้นอย่างมีความสุขพลางว่ายน้ำเล่นต่อไป ก่อนจะขมวดคิ้วเมื่อเห็นฟองน้ำที่ลอยอยู่ไม่ไกลจากตัวของเธอ
ฟู่!
“เจ้า!!”
มู่จางเสี่ยวร้องเรียกอย่างตกใจเมื่อเจอบุคคลที่ไม่คิดว่าจะมาเจอกันอีกครั้ง แถมเหตุการณ์ยังคล้ายกับครั้งก่อนอีกด้วย
“เฮ้ย!!” ชายหนุ่มที่โผล่ขึ้นมาจากน้ำก็ร้องขึ้นอย่างตกใจเหมือนกันที่เจอเด็กสาวอีกครั้ง แถมยังเจอเหตุการณ์คล้ายๆ กับก่อนหน้านี้อีกด้วย
อันที่จริงที่เขามาที่นี่นั้นก็เพื่อมาตรวจสอบว่าอะไรทำให้พวกสัตว์อสูรถึงได้หนีออกมาอยู่ป่ารอบนอก แต่สำรวจไปมาก็ไม่เจออะไร ก็ว่าจะอาบน้ำเสียหน่อยแต่ก็ว่ายน้ำไปเรื่อยๆ จนมาโผล่ที่นี่และเห็นเด็กสาวที่กำลังอาบน้ำอยู่เหมือนตอนนั้นไม่มีผิด
มันเป็นเพราะอะไรกันทำไมถึงได้ทำให้เขามาเจอนางด้วยเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้งกันนะ ให้คนไปหานางที่ตระกูลก็ไม่เจอ
ใครจะคิดว่าเขาจะได้มาเจอนางอีกครั้งในสถานการณ์เช่นนี้หรือว่านางจะเป็นหญิงสาวที่ผู้หญิงคนนั้นเคยบอกกับเขาเอาไว้กัน
“เจ้า! ตายซะ!” มู่จางเสี่ยวพูดเสียงดังก่อนจะเรียกดาบออกมาแล้วพุ่งเข้าหาอีกคนทันทีพร้อมจ่อดาบที่คอของอีกฝ่ายไปด้วย
“ใจเย็นสาวน้อย ข้าว่าครั้งนี้ข้าคงต้องรับผิดชอบเจ้าจริงๆ แล้วล่ะ” ชายหนุ่มเอ่ยบอกพลางจับมือที่ถือดาบส่วนอีกมือก็จับเอวบางเอาไว้ เขาคิดว่านางต้องเป็นหญิงสาวคนนั้นแน่นอน
“เจ้า! ตาย!!” มู่จางเสี่ยวเอ่ยขึ้นอย่างโมโหเมื่อรู้สึกตัวพลางออกแรงกดดาบมากขึ้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้
“ข้าว่าเจ้าไปใส่ชุดก่อนดีหรือไม่” ชายหนุ่มเอ่ยเตือนอีกฝ่ายที่โมโหเขาจนหน้าแดงไปหมดแล้วในตอนนี้
“งั้นก็ปล่อยข้าสิ!” มู่จางเสี่ยวเอ่ยบอกพลางสะบัดตัวออกจากการเกาะกุมของอีกฝ่าย ไม่ชอบร่างกายของตัวเองตอนนี้เลยจริงๆ เพราะเธอเสียเปรียบอีกฝ่าย
“หันหลังไปด้วย” มู่จางเสี่ยวเอ่ยบอกเมื่อเห็นชายหนุ่มยังคงมองมาที่ตัวเอง น้ำใสขนาดนี้ไม่ต้องบอกก็รู้อีกฝ่ายเห็นอะไรต่อมิอะไรของเธอหมดแล้ว ทำไมเธอต้องรู้สึกว่าตัวเองพ่ายแพ้ให้แก่ชายคนนี้ด้วยก็ไม่รู้
“มีอะไรต้องอายกัน” ชายหนุ่มเอ่ยเพราะอย่างไรเขาก็เห็นหมดแล้วแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยอมหันหลังไปอยู่ดี