บท
ตั้งค่า

7. ตัวประกัน

“เหอะ! ยุคสมัยไหนก็หนีไม่พ้นคำนินทาสินะ” พึมพำกับตนเอง ทว่าซือซือหาได้ใส่ใจไม่ หากตนเอ่ยสิ่งใดออกไปคงเป็นที่สงสัย ภายหน้าออกมาข้างนอกก็คงลำบาก

“ไปที่อื่นกันเถอะ” หันมาชักชวนคนของตน ซึ่งยามนี้สาวใช้มีสีหน้าหงุดหงิดไม่น้อย เมื่อได้ฟังคำของสตรีทั้งสามเอ่ยถึงผู้เป็นนาย แม้มันจะจริงอย่างที่ได้ยินก็ตาม

“คุณหนูไยท่านไม่อาละวาดคนพวกนี้ให้อับอายไปเลยเจ้าคะ แอบซุบซิบนินทาผู้อื่นเช่นนี้ไม่สมกับเป็นคุณหนูตระกูลใหญ่เลย” สีหน้าและท่าทางชิงหลิวทำเอาซือซืออดขำไม่ได้

“หึหึ ไปเถอะ หากข้าทำเช่นที่เจ้าว่า คงเป็นเรามากกว่าที่จะอับอาย ลืมไปแล้วหรือชื่อเสียงข้าเป็นเช่นไร” บอกพร้อมกับคล้องแขนชิงหลิวเดินออกมาจากร้าน

ทั้งคู่เดินไปเรื่อยเปื่อยในตลาด จนกระทั่งมาถึงประตูเมือง ร่างเล็กหยุดยืนมองความสวยงามในแบบสมัยโบราณอย่างชื่นชม ริมฝีปากอิ่มเผยยิ้มบางภายใต้ผ้าคลุมหน้าที่ยังปิดอยู่

“เมืองในแบบโบราณของจริง สวยมากเลย เสียอย่างเดียวไม่มีความเจริญล้ำสมัยแบบยุคปัจจุบัน” นึกไปถึงเครื่องมือสื่อสาร อุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ใช้อำนวยความสะดวก

“บ่นอันใดอีกแล้วเจ้าคะ” คนอายุน้อยกว่าถามทันที แม้ว่านางจะเริ่มชินกับท่าทางแปลก ๆ ของผู้เป็นนายแล้วก็เถอะ ทว่าหลายอย่างมันก็ประหลาดเกินไป โดยเฉพาะนิสัย

“ไม่มีอะไร ว่าแต่เราขึ้นไปบนกำแพงได้หรือไม่” หันมาถามคนข้างกาย อีกฝ่ายก็ได้แต่ยิ้มแห้ง เพราะชิงหลิวก็ไม่เคยออกนอกจวน ยิ่งไปกว่านั้นที่นี่ไม่ใช่เมืองเกิดของนาง จึงไม่รู้ว่าคนทั่วไปจะขึ้นไปบนนั้นได้หรือไม่

“ไม่เป็นไร ถามทหารที่เฝ้าประตูก็ได้” ว่าแล้วก็เดินตรงไปทันที สาวใช้ตัวน้อยจึงต้องรีบวิ่งตามผู้เป็นนาย

“พี่ทหาร ข้าขอขึ้นไปบนกำแพงเมืองได้หรือ…อ๊ะ!” ยังไม่ทันได้ไถ่ถามเอาความเสร็จ ร่างของซือซือก็ถูุกกระชากปลิวตามแรงดึงเสียก่อน พร้อมกับมีดแหลมคมจ่ออยู่ที่คอ

“คะ คุณหนู” ชิงหลิวร้องเรียกเสียงสั่น ชาวบ้านต่างก็ตื่นกลัวกับภาพที่เห็น ชายฉกรรจ์รูปร่างผอมเพรียวใช้สตรีตัวน้อยเป็นที่กำบัง เพื่อไม่ให้คนของหน่วยพยัคฆ์จับกุมตนได้

“ปล่อยสตรีผู้นี้เสีย ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่ปรานีเจ้า” เสียงเย็นเปล่งออกมา พร้อมกับร่างสูงของหัวหน้าหน่วยองครักษ์ซึ่งยืนเล็งคันธนูรอโอกาสเหมาะเพื่อยิง

“ใต้เท้านั่นคุณหนูเจ็ดภรรยาท่านนะเจ้าคะ” ชิงหลิวรีบวิ่งมาหาสามีของผู้เป็นนาย เพราะทั้งคู่ใช้ผ้าปิดบังใบหน้าไว้ คนไม่คุ้นชินจึงจำไม่ได้ว่าสองคนนี้เป็นใคร

“หาเรื่องดีจริงเชียว” ตำหนิออกมาทันที ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ลดคันธนูลง สายตายังคงแน่วแน่ที่คนร้าย

‘อีตานี่กะจะยิงเราให้ตายไปพร้อมคนร้ายเลยหรือไง’ นึกในใจเมื่อเห็นสายตามุ่งมั่นของสามี

“ปล่อยคนแล้วข้าจะไว้ชีวิตเจ้า” เสียงเหี้ยมเปล่งออกมา เมื่อเห็นว่าคนร้ายไม่คิดจะวางมีด มิหนำซ้ำมันยังกดให้คมมีดบาดลงที่คอคนตัวเล็กจนเลือดซึมออกมาเปื้อนผ้าคลุมหน้า

“คะ คุณหนู ใต้เท้าช่วยคุณหนูด้วย นางนิ่งถึงเพียงนี้ มิใช่หวาดกลัวจนสติล่องลอยไปแล้วหรือเจ้าคะ” เพราะซือซือไม่มีท่าทีตื่นกลัวหรือร้องขอให้ช่วย ทำให้สาวใช้เกิดกังวลมาก

“นางอยากออกมาหาเรื่องใส่ตัวเอง หากถูกคนร้ายฆ่าตายนั่นก็เป็นโชคชะตาของนาง” เอ่ยเสียงดังพอให้ภรรยาตัวน้อยได้ยิน ซึ่งมันทำให้ซือซืออดแค้นใจอีกฝ่ายไม่ได้

ทว่ายามนี้เองที่นางสังเกตเห็นปากเขาเหมือนกำลังเอ่ยบางสิ่งอยู่ เพียงแต่มันไม่มีเสียงก็เท่านั้น

‘นับถึงสามงั้นหรือ หมายความว่าไง เขาจะให้เราหลบลูกศรเองงั้นเหรอ แล้วซ้ายหรือขวาล่ะ’ นึกในใจอย่างตื่นเต้น เพราะไม่รู้ว่าสิ่งที่ตนเข้าใจนั้นมันถูกต้องหรือไม่

ทว่าพอเห็นนิ้วเรียวซึ่งกำคันธนูชี้ไปที่ด้านขวามือ ซือซือจึงขยับมือชี้นิ้วใส่ตนเองแล้วส่งสัญญาณตามเขา หมายจะสื่อว่าตนต้องขยับไปด้านนี้ใช่หรือไม่ เมื่ออีกฝ่ายยกยิ้มนางก็เข้าใจ

“หาม้ามาให้ข้า ไม่เช่นนั้นนางตาย” ว่าพร้อมกับกดมีดลงที่คอของตัวประกันอีกรอบ และมันทำให้เลือดไหลออกมาอีก

“โอ๊ยเจ็บนะ เดี๋ยวก็ตายกันพอดี” แผดเสียงใส่คนที่ทำร้ายตนเองอย่างเหลืออด อุตส่าห์จะทำตัวอ่อนแอไร้ทางต่อสู้ เพื่อไม่ให้ตนเองเป็นที่สนใจของผู้คน แต่ยามนี้คงอยู่เฉยไม่ได้แล้ว มัวแต่รีรอไม่แน่อาจจะตายเปล่าไปดื้อ ๆ ก็ได้

มือเล็กยกขึ้นกุมข้อมือคนด้านหลัง ซึ่งมันไม่ได้ทำให้อีกฝ่ายตื่นตระหนก เพราะเข้าใจว่านางคงเจ็บเมื่อเขากดมีดลง ยามนี้เองที่คนร้ายนั้นได้ผ่อนมือ เพราะเกรงว่าตนจะทำให้นางตายเสียก่อนได้หลบหนี

เป็นจังหวะให้ซือซือเอนกายโน้มไปด้านหลัง พิงอยู่บนร่างคนร้าย และขยับเท้าตนออกไปด้านนอก ขวางขาของคนด้านหลังไว้ ให้นางย่อตัวได้สะดวกขึ้น ทุกสิ่งอย่างซือซือทำด้วยความคล่องแคล่วและรวดเร็วจนคนร้ายไม่ทันตั้งตัว

นางใช้แรงที่มีจับร่างสูงแต่ไม่ค่อยมีน้ำหนักทุ่มลงผ่านหัวตนไปอย่างง่ายดาย พร้อมกับจับแขนบุรุษผู้นี้ไขว้หลังไว้ และใช้เท้าเหยียบกดไว้อีกที ช่างเป็นภาพที่ทำให้ชาวเมืองงงงวยดียิ่ง

“จะยืนดูอีกนานไหม” หันมาตำหนิคนของทางการ รวมถึงสามีของตนที่ยืนมองราวกับนางนั้นเป็นตัวประหลาด

“จะ จับคนร้ายสิ” จางหย่ารีบเอ่ยกับพรรคพวก

ซือซือจึงถอยออกมายืนหลบทางให้ ชิงหลิวรีบมาดูผู้เป็นนายทันที เพราะที่คอยังมีเลือดไหลอยู่

“คุณหนูเจ็บมากหรือเปล่าเจ้าคะ” ถามเสียงเครือเมื่อเห็นร่องรอยของมีดที่บาดเป็นทางยาว

“แค่นี้ไม่ตายหรอก กลับเรือนกันเถอะ” เอ่ยพร้อมกับจูงมือสาวใช้ ทว่าเสียงทุ้มดังขัดขึ้นมาเสียก่อน

“กว่าจะถึงเรือนเลือดคงออกหมดตัวแล้วกระมัง ไปกับข้า” บอกพร้อมกับจับต้นแขนคนตัวเล็กให้เดินตาม ท่ามกลางสายตาของผู้คน ซึ่งทั้งหมดต่างก็สงสัยว่าสตรีผู้นี้คือใครกัน ไม่เว้นแม้แต่บุตรชายของนายอำเภอที่ยืนดูอยู่ไม่ไกลนัก

“ไปสืบมาสตรีกล้าหาญผู้นี้เป็นใคร ข้าชอบนางยิ่งนัก” เอ่ยสั่งคนของตน ทว่าสายตาเขาก็ยังจับจ้องไปที่ร่างเล็ก คนสนิทรับคำแล้วก็เดินออกไปสั่งลูกน้องของตนอีกที

“แปลกนะขอรับคุณชาย ปกติเผยหย่งอวี้ไม่เคยใส่ใจสตรีใดมาก่อน แต่นี่เขากลับจับมือถือแขนนางพาไปด้วย หมายความว่าอย่างไรกันขอรับ” มู่เหยียนกล่าวกับผู้เป็นนาย

“นั่นสิ น่าแปลกจริงเชียว” คล้อยตามคำของคนสนิท เขารู้จักกับหัวหน้าหน่วยพยัคฆ์มานาน ไม่เคยเห็นหย่งอวี้ใส่ใจสตรีมาก่อน ยกเว้นคุณหนูชุยซึ่งเป็นสตรีที่อีกฝ่ายพึงใจ แต่ก็ไม่เคยเห็นทั้งคู่อยู่ด้วยกัน เพราะครอบครัวฝ่ายหญิงไม่ยอมรับนั่นเอง

“หรือว่านางคือภรรยาที่พึ่งแต่งเข้ามาขอรับ”

“พี่มู่เหยียน สตรีผู้นั้นเสียสตินะขอรับ ได้ยินว่านางเอาแต่เก็บตัวไม่เคยออกไปที่ใดเพราะหวาดกลัวผู้คน แต่สตรีผู้นี้เก่งกาจยิ่งนัก จะเป็นภรรยาของหัวหน้าหน่วยได้เยี่ยงไร” ผู้ติดตามอีกคนรีบท้วง สองนายบ่าวมองหน้ากันครู่หนึ่ง ความสงสัยเริ่มมีมากขึ้น พวกเขาอยากรู้ว่าสตรีนางนี้เป็นใคร

“ตามไปดูดีหรือไม่ขอรับ” มู่เหยียนเอ่ยแนะ

“หย่งอวี้พาไปที่หน่วย จะตามไปได้เยี่ยงไร” หันมาตำหนิทันที ก่อนจะยืนครุ่นคิด เพราะอยากรู้ว่าสตรีตัวน้อยเป็นใครกันแน่ ไยเขาไม่เคยเห็นมาก่อน และไม่เคยได้ยินว่ามีสตรีเก่งกาจเพียงนี้ในเมืองโจว ทั้งที่เขาเป็นถึงลูกชายนายอำเภอ

“สั่งคนเฝ้าแล้วตามนางไปที่เรือน หากหย่งอวี้ปล่อยตัวออกมาแล้ว ข้าต้องรู้ให้ได้ นางเป็นใคร” เซี่ยะเฟยสั่งคนของตน

และมันไม่ได้มีแค่เขาที่บอกผู้ติดตามเช่นนี้ ยังมีอีกหนึ่งที่สั่งให้คนสนิทตามสืบดูว่าสตรีหาญผู้นี้เป็นใคร เพราะเขารู้สึกถูกใจนางเป็นอย่างมาก ไม่คิดว่าจะมีคนที่เก่งกาจเพียงนี้ จับบุรุษทุ่มลงพื้น ทั้งที่ตนเองก็ตัวเล็กกว่ามาก

“ข้าต้องรู้ให้ได้ว่าเจ้าเป็นใคร” 

#เป็นไงลูกสาวเรา จับบุรุษทุ่มลงพื้นเพียงนี้ ยังมีคนอยากจะเกี้ยวอีก ช่างไม่กลัวกันเสียเลย 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel