5 ดีแค่ไหนที่ไม่เสียตัว
ไอรดามาถึงคอนโดมิเนียมโครงการหรูที่อยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลมากนัก หญิงสาวเข้าไปติดต่อกับพนักงานขายเพื่อเลือกห้องที่ตัวเองถูกใจมากที่สุด จากนั้นก็โทรศัพท์ไปบอกบริษัทรับย้ายของที่ให้ไปเอาของใช้ส่วนตัวที่เธอแพ็คลงกล่องไว้ที่คอนโดเดิมมายังคอนโดแห่งใหม่ ซึ่งของเหล่านั้นเดิมทีเธอเตรียมจะย้ายไปอยู่ที่บ้านของอติรุจน์หลังแต่งงาน
แต่เมื่อทุกอย่างมันผิดแผนไปหมดเธอจึงต้องหาที่อยู่ใหม่เพราะคอนโดของตนเองนั้นได้ประกาศขายไปแล้ว และเจ้าของคนใหม่ก็จะย้ายเข้ามาอยู่ในเดือนหน้า
คอนโดแห่งใหม่นี้มีขนาดสองห้องนอนสองห้องน้ำเป็นห้องเกือบริมสุด มีระเบียงมองออกไปวิวแม่น้ำพระยา มีห้องนั่งเล่นและครัวอยู่ตรงกลางห้อง ส่วนห้องนอนเล็ก และห้องนอนใหญ่จะอยู่กันคนละฝั่ง อีกด้านจะเป็นพื้นที่ครัว ที่มีโต๊ะทานข้าววางอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ครัวกั้นระหว่างครัวกับพื้นที่นั่งเล่น
ไอรดาพอใจกับขนาดของห้องและพื้นที่การใช้สอยมากในอนาคตเธอวางแผนว่าอาจจะใช้ห้องนอนเล็กเป็นห้องทำงานและห้องหนังสือ แต่วันนี้คงได้แค่เอาของที่อยู่ในกระเป๋ามาจัดให้เข้าที่เพราะบริษัทขนส่งแจ้งพรุ่งนี้พวกเขาถึงจะนำของมาส่งให้เธอได้
เก็บของเสร็จและนั่งดูทีวีได้ไม่นานเสียงออดที่หน้าประตูก็ดังขึ้น หญิงสาวรีบลุกไปเปิดอย่างรวดเร็ว
“อัยย์ เล่ามาให้หมดว่าเกิดอะไรขึ้นทำไมยังไม่เดินทางอีกไหนว่าจะไปฮันนีมูน แล้วนี่คอนโดของใครทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ ไม่ไปอยู่บ้านพี่ติแล้วเหรอ”
“ริตาถามเยอะจังอัยย์ไม่รู้จะตอบคำถามไหนก่อนดี แล้วซื้อของกินมาไหมอัยย์หิว”
“ใครจะมีเวลาซื้อล่ะ เลิกงานก็รีบตรงมาที่นี่เลย”
“เป็นไงล่ะ ขับรถไม่ถึงสิบนาทีใช่ไหม”
“อือ ใกล้ที่ทำงานมาก เฮ้ย! อัยย์อย่าเปลี่ยนเรื่องนะ เล่ามาก่อนว่าเกิดอะไรขึ้น”
“ออกไปหาอะไรกินก่อนได้ไหม อัยย์หิว”
“จะกินอะไรสั่งมาได้ไหมขี้เกียจออกไป”
“ก็ได้ งั้นอัยย์สั่งนะ อยากกินข้าวหมูกรอบ ริตาจะกินอะไร”
“เอาสุกี้น้ำ ไม่ใส่วุ้นเส้น”
“กลัวอ้วนเหรอ”
“อือ ใครจะเป็นเหมือนอัยย์ล่ะ กินเท่าไร่ก็ไม่อ้วน”
“เดี๋ยวอัยย์สั่งข้าวก่อน ริตาไปล้างหน้าล้างตาก่อนไหมดูสิหน้ามันเชียว”
“ไม่ต้องแซวเลยนี่ออกจากห้องผ่าตัดก็รีบมาเลยนะ ดึกนี้มีเคยวางยาสลบอีกเคสคงอยู่กับอัยย์ได้ไม่นานหรอก”
“แค่ริตามาหาก็ดีใจแล้ว”
สิรตารีบเข้าไปล้างหน้าล้างตาก่อนจะกลับออกมานั่งจ้องหน้าไอรดาที่วันนี้เธอควรจะไปฮันนีมูนกับสามี ไม่ใช่มานั่งหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ตรงหน้าเธอแบบนี้
“อัยย์เล่ามาเถอะ ริตารู้ว่าอัยย์กำลังมีปัญหา”
“ปัญหามันใหญ่มากด้วย อัยย์ไม่รู้จะเล่าจากตรงไหนมันสับสนไปหมด”
“ถ้างั้นริตาขอถามว่าทำไมถึงไม่ไปฮันนีมูน”
ไอรดาตอบคำถามเพื่อนจากนั้นก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นตั้งแต่คืนเข้าหอให้กับสริตาฟังรวมถึงเรื่องคอนโดและเงินสิบล้านค่าหย่าที่เพิ่งได้มาอย่างไม่มีปิดบัง
“ตายตาย ริตาไม่อยากจะเชื่อคนเราทำไม่ถึงปิดบังกันได้นานขนาดนี้ ครอบครัวเขาไม่รู้เลยเหรอ”
“อือ ไม่มีใครรู้เลย”
“แสดงว่าที่เขาไปหาอัยย์บ่อยๆ ตอนไปเรียนนั่นก็เพราะผลประโยชน์ของเขาทั้งหมดใช่ไหม”
“ใช้สิ ทุกครั้งที่เขาไปเยี่ยมหรือทุกครั้งที่เราไปเที่ยวด้วยกันเขาจะพาเลขาไปด้วยโดยอ้างว่าเพราะยังมีงานที่ต้องทำ กลางวันเขาก็เที่ยวกันเราปกติ พอกลางคืนเขาก็ไปนอนห้องเดียวกับเลขา ไอ้เราก็หลงดีใจนึกว่าเป็นสุภาพบุรุษหลงปลื้มมาตั้งสามปี มันน่าเจ็บใจไหมล่ะ”
“เรียกแค่สิบล้านยังน้อยไปด้วยซ้ำเพราะตอนนี้ทุกคนรู้แล้วว่าอัยย์แต่งงานแล้ว”
“แต่งแล้วหย่าแล้ว ตอนนี้เราก็แม่หม้ายคนหนึ่ง”
“เอาน่ามันก็แค่สถานะ อย่าไปคิดอะไรมากเลย ลองคิดดูอีกทีริตาว่าอัยย์โชคดีที่รู้รสนิยมของเขา ถ้าไม่อย่างนั้นนั้นคงแย่”
“นั้นสิ คิดแล้วก็นึกภาพไม่ออกเลย ถ้าเรากับเขามีอะไรกัน เวลาอยู่กับเราเขาเป็นสามี แต่พอไปอยู่กับเลขาเขาก็กลายเป็นภรรยา มันคงฟังดูพิลึกมาก”
“อัยย์โกรธเขาไหม”
“โกรธสิ โกรธมาก แต่ก็พยายามเข้าใจความรักของเขานะ แต่เขาก็น่าจะบอกกับทางบ้านไปตรงๆ ไม่ใช่ดึงอัยย์เข้ามาเกี่ยวด้วยแบบนี้”
“นั้นสิ เขาก็เห็นแกตัวอยู่เหมือนกัน แล้วทีนี่อัยย์จะเอายังไงต่อละ”
“ก็อยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ แหละ”
“ตั้งปีหนึ่งเลยนะ”
“เราอยู่มาได้โดยไม่มีแฟนตั้งหลายปี ทนอีกปีเดียวไม่เห็นจะเป็นไรเลย”
“แล้วนี้ต้องอยู่แต่ในห้องไปจนกว่าเขาจะกลับเหรอ น่าเบื่อแย่เลย”
“ไม่หรอกเราว่าคืนนี้จะลองไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาดูบ้าง”
“ไม่กลัวเจอคนรู้จักเหรอ”
“แล้วครั้งนั้นที่อัยย์แต่งหน้าเข้มๆ แต่งตัวโป๊ๆ มารอริตาที่หน้าโรงพยาบาลริตาจำได้ไหมล่ะ”
“อ้อ ลุคนั้นเปรี้ยวจี๊ดเลย ถ้าแต่งแบบนั้นคงไม่มีใครจำได้หรอก”
“อัยย์เป็นแม่หม้ายไม่มีอะไรต้องกลัว เพราะคนที่จะข้ามาคงไม่อยากได้ผู้หญิงมือสองหรอก ริตาว่าจริงไหมล่ะ”
“มันแน่ซะที่ไหน ผู้ชายบางคนก็ไม่สนใจอดีต”
“แต่อัยย์เข็ดแล้วเรื่องผู้ชาย”
“อย่าปิดโอกาสตัวเองสิ ถ้าเจอคนที่ชอบก็บอกเขาไปตรงๆ ถ้าเขารับได้ก็ไม่เห็นต้องกลัวอะไร”
“พูดเหมือนคืนอัยย์ออกไปแล้วจะได้คู่เลยนะ”
“ใครจะรู้ล่ะ อ้อคืนนี้มันคืนคนโสด ร้านพี่ชายริตาจัดกิจกรรมด้วยนะสนใจไหมเดี๋ยวริตาโทรจองโต๊ะให้”
“ไม่ต้องขนาดนั้นก็ได้ อัยย์แค่อยากไปดื่ม”
“ดื่มคนเดียวถ้าเมาจะกลับยังไง”
“อัยย์คงมาเมามายจนไม่ได้สติหรอกน่า แต่ถ้าเมาจริงๆ พี่รัชก็คงให้คนมาส่งเองแหละ” เพราะหลายครั้งแล้วที่เธอนั่งดื่มจนเมาแล้วพี่ชายของเพื่อนก็ในเด็กที่ร้านพามาส่ง
หลังจากทานข้าวอิ่มแล้วสริตาก็ขอนอนพักก่อนจะกลับไปทำงาน พอสี่ทุ่มไอรดาก็ปลุกเพื่อนขึ้นมาล้างหน้าล้างตาอีกครั้ง
“ริตา ไปส่งอัยย์ที่ผับนะ ขากลับอัยย์ว่าจะเรียกแท็กซี่”
“จะกลับกี่โมงล่ะ เผื่อว่าริตาทำงานเสร็จจะได้มารับ”
“อย่าเลยพรุ่งนี้ยังต้องทำงานอีก เข้าเคสเสร็จก็รีบกลับไปพักเถอะอัยย์นั่งแท็กซี่กลับจะสะดวกกว่า”
“งั้นก็ตามใจแต่ถ้าไม่ไหวก็บอกพี่รัชแล้วกัน”
“จ้ะ งั้นไปกับเถอะเดี๋ยวริตาจะไปไม่ทันเข้าเคส”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เขาจะผ่าตัดกันได้ยังไงในเมื่อวิสัญญียังไม่ได้ว่างยาสลบ”
“ใครว่าหมอผ่าตัดสำคัญ อัยย์ว่าหมอวางยาก็สำคัญกว่าอีกนะ”
“ก็สำคัญทุกคนนั่นแหละจ้ะ ถ้างั้นหมอก็คงทำงานไม่สำเร็จ ว่าแต่ชุดนี้ไม่โป๊ไปแน่นะ” สริตามองชุดสายเดี่ยวสีดำตัวสั้นของเพื่อนด้วยความไม่สบายใจ
“ไม่หรอกน่า ไปเที่ยวผับจะให้แต่งตัวเรียบร้อยได้ยังไงล่ะ”