4 ข้อตกลง
ไอรดาโทรไปถามนุกูลผู้เป็นลุงถึงอาการป่วยของคุณยายก็ได้รับคำตอบว่าเป็นจริงอย่างที่อติรุจน์พูด แต่พอเธอบอกจะกลับไปเยี่ยมลุงของเธอก็ถามถึงการไปฮันนีมูน ทำให้หญิงสาวน้ำท่วมปากไม่กล้าพูดเรื่องที่ตัวเธอกำลังจะหย่า
“หนูอัยย์ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ ตอนนี้คุณยายท่านกำลังใจดียิ่งเห็นว่าหนูอัยย์แต่งงานและมีความสุขดี ท่านก็ยิ่งมีความสุขไปกับหนูอัยย์ด้วย”
“แล้วเรื่องผ้าตัดล่ะคะคุณลุง อัยย์จะลองถามเพื่อนๆ ดูว่ามีหมอที่ไหนเก่งๆ บ้าง”
“เรื่องนี้ก็ไม่ต้องเป็นห่างหรอกจ้ะ หมอที่รักษาคุณยายน่ะท่านเก่งมาก จบจากเมืองนอกเลยนะ”
“กำหนดผ่าตัดวันไหนคะ”
“วันที่ 15 เดือนหน้าจ้ะ”
“อีกตั้งสองอาทิตย์เลยนะคะลุงนุ”
“คุณหมอเขานัดผ่าตัดตามอาการคนไข้น่ะลูก”
ไอรดาเข้าใจเงื่อนไขข้อนี้ดีแต่เธอก็ยังเป็นห่วงคุณยายมาก ถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยลดระยะเวลาการรอคอยได้เธอก็อยากจะทำ
“ลุงนุบอกชื่อหมอมาได้ไหมเผื่อว่าอัยย์จะรู้จัก”
“ถ้าหนูใช้ความเป็นหมอ ใช้ความสนิทสนมไปขอลัดคิว ลุงว่ามันไม่ยุติธรมกับคนไข้คนอื่นเลย หนูอัยย์คงไม่ทำแบบนั้นใช่ไหม”
“อัยย์รู้ว่ามันผิดแต่อัยย์ก็อยากให้คุณยายได้ผ่าตัดไวๆ”
“ลุงว่าหนูลืมเรื่องนี้ไปก่อนแล้วไปฮันนีมูนให้สนุก กลับมาก็มีแหลนให้คุณยายอุ้มดีกว่าไหม”
“อัยย์ไม่อยากไปเลยอัยย์เป็นห่วงคุณยาย”
“ลุงกับป้าและพี่ณัฐก็อยู่ หรือหนูอัยย์คิดว่าพวกเราดูแลคุณยายไม่ได้พอ หนูอัยย์ไม่ไว้ใจพวกเราขนาดนั้นเลยเหรอ”
“คุณลุงขาอัยย์ไม่เคยคิดอย่างงั้นเลย”
“ถ้าไม่คิดก็ทำทุกอย่างไปตามแผนเดิม กลับจากฮันนีมูนค่อยกลับมาหาคุณยาย ถ้าท่านรู้ว่าอัยย์ไม่ยอมไปเที่ยวเพราะเป็นห่วงท่าน ลุงว่าท่านคงจะเสียใจ”
“โอย ทำไมกดดันกันอย่างนี้คะงั้นอัยย์จะกลับไปที่บ้านสวนหลังจากกลับมานะคะ”
“ได้สิ ลุงขอให้หนูเที่ยวกันอย่างมีความสุขนะลูก”
“ขอบคุณนะคะลุงนุ อัยย์ฝากลุงนุดูแลคุณยายด้วยนะคะ”
“ได้สิ ลุงกับป้าและพี่ณัฐจะดูแลคุณยายอย่างดี”
หลังจากวางสายแล้วไอรดาก็เดินกลับมายังห้องรับแขกอีกครั้ง
“พี่ว่าเรามาหาทางออกร่วมกันดีกว่าไหม” อติรุจน์พยายามจะคุยกับไอรดาอย่างสันติที่สุด
“มันจะมีทางออกอะไรอีกเหรอคะพี่ติ” ไอรดามองไม่เห็นทางออกสำหรับเรื่องนี้เลยสักนิด
“เราจะยังไม่หย่ากันจนกว่าสุขภาพของคุณยายจะดีขึ้น พี่จะพาอัยย์ไปเยี่ยมท่านที่บ้านทุกอาทิตย์”
“พี่ติจะได้อะไรจากเรื่องนี้คะ”
“ถ้าอัยย์กับพี่ยังอยู่ด้วยกันทางบ้านพี่ก็จะไม่มาวุ่นวายกับชีวิตพี่ไง”
“แต่อัยย์ว่าเราควรหย่ากันนะคะ หย่าแบบเงียบๆ ก็ได้ อัยย์ไม่อยากให้ทะเบียนสมรสต้องสร้างปัญหาทีหลัง”
“แต่เรื่องนี้ต้องปิดเป็นความลับ รอเวลาที่เหมาะสมแล้วเราก็บอกกับพวกท่านว่าเราอยู่ด้วยกันไม่ได้ พ่อกับแม่พี่ก็คงไม่อยากจะจับให้พี่แต่งงานกับใครอีก”
“แน่นะคะ”
“แน่สิ แต่ระหว่างนี้อัยย์ห้ามคบคนอื่น”
“อัยย์ว่าพี่เห็นแก่ตัวมากนะคะ ห้ามอัยย์คบคนอื่น แต่ตัวเองมีความสุข”
“ก็ได้ๆ พี่ไม่ห้ามก็ได้ อัยย์จะคบใครก็ได้ ขอแค่อย่าเพิ่งเปิดตัวรอจนกว่าทุกอย่างจะโอเค”
“ฟังยังไงอัยย์ก็เสียเปรียบนะคะ เพราะหลังจากหย่ากันแล้วคนที่เสียหายก็คืออัยย์ ไหนจะต้องทำตัวเหมือนคนมีสามีตั้งนาน”
“แต่พี่ไม่ได้ทำอะไรให้อัยย์เสียหาย”
“ใครเขาจะเชื่อล่ะคะ ในเมื่อเราแต่งงานกันแล้ว”
“พี่ให้ค่าเสียหายอัยย์ห้าล้าน” อติรุจน์ยื่นข้อเสนอเพราะถ้าไอรดาไม่ยอมแล้วไปบอกพ่อกับแม่ของเขาเรื่องคงจะบานปลายมากกว่านี้อย่างแน่นอน
“พี่ติคะ เงินห้าล้านอัยย์ขอจากคุณยายก็ได้ค่ะ”
“อัยย์จะเอาเท่าไหร่”
“เงินสิบล้านกับคอนโดของพี่ที่อยู่ใกล้โรงพยาบาล อ้อ แล้วอัยย์ขอเงินเดือนเดือนละหนึ่งแสนด้วยนะคะ” ในเมื่อจะต้องทนอยู่กับสถานะสามีภรรยาไอดราก็เริ่มยื่นข้อเสนอ
“มันเยอะหรือเปล่า สินสอดทองหมั้นก็ได้ไปแล้วนะ” ชายหนุ่มพยายามต่อรองถึงแม้เงินจำนวนนี้จะไม่ทำให้เขาเดือดร้อนแต่ก็คิดว่าไอรดาขอมากเกินไป
“อัยย์ว่ามันไม่เยอะหรอกค่ะ ถ้าเทียบกับความสุขที่พี่กับคุณพนาจะมีร่วมกัน”
เพราะการแต่งงานเกิดขึ้นแล้ว คงไม่มีใครคิดหรอกว่าเธอกับเขาจะไม่เคยนอนด้วยกัน เพราะฉะนั้นเธอจะต้องให้เขารับผิดชอบ ถึงแม้ตัวเองจะไม่เดือดร้อนเรื่องเงินใครจะยอมให้เขาไปมีความสุขโดยที่ไม่ต้องเสียอะไรล่ะ เรื่องสินสอดทองหมั้นเธอคิดว่าถ้าเรื่องทุกอย่างจบลงเธอจะคืนให้กับครอบครัวของเขา เพราะฉะนั้นเงินเดือนกับเงินที่เธอขอมันก็คนละส่วนกัน
“งั้นก็ตกลงตามนั้น”
“ตกลงค่ะ แต่ทุกอย่างต้องจบภายในสามเดือน”
“ถ้าอัยย์ขอขนาดนั้นพี่ขอหนึ่งปีได้ไหม จะได้อ้างไปด้วยเลยว่าที่ต้องอย่าเพราะอัยย์เป็นหมันเลยมีลูกให้พี่ไม่ได้”
“ทำไมคนที่เป็นหมันต้องเป็นอัยย์ด้วยล่ะคะ”
“ก็มันฟังดูดีกว่า”
“ดูดีกว่าตรงไหน ถ้าเกินอัยย์เลิกกับพี่แล้วไปท้องกับคนอื่น พ่อกับแม่ของพี่ก็รู้สิว่าพี่โกหก พี่นั่นแหละต้องเป็นหมัน ถ้าไม่ตกลงก็เลิกทั้งหมดที่พูดมาเมื่อกี้” ยิ่งได้คุยกับอติรุจน์ไอรดาก็รู้สึกว่าที่ผ่านมาเธอแทบไม่รู้จักตัวตนของเขาเลย เขากลายเป็นคนเห็นแก่ตัวคิดถึงแต่ประโยชน์ของตัวเองมากกว่าที่เธอจะนึกออก
“ก็ได้ แล้วเรื่องฮันนีมูนจะเอายังไง”
“ใครจะไปก็ไปอัยย์ไม่ไป”
“แล้วเรื่องรูปถ่าย”
“ก็บอกไปสิ กล้องโดยขโมยหรือเอารูปที่เคยไปเที่ยวทำPhotoshop เอาก็ได้ อ้อ ขากลับอย่าลืมของฝากด้วยเดี๋ยวอัยย์จะส่งรายการไปให้ว่าต้องซื้ออะไรฝากใครบ้าง”
“แล้วช่วงนี้อัยย์จะไปอยู่ที่ไหน”
“คอนโดใหม่ไงคะ ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เวลาอัยย์ออกไปไหนจะแต่งตัวให้ต่างจากเดิมรับรองว่าไม่เจอคนรู้จักแน่ๆ”
“ถ้าแผนแตก เรื่องทุกอย่างเป็นอันยกเลิกนะ”
“อัยย์ไม่ทำแผนแตกหรอกค่ะ เพราะอัยย์มีเพื่อนไม่เยอะเหมือน พี่เองก็ระวังหน่อยแล้วกัน ไปต่างประเทศก็ใช่ว่าจะไม่เจอคนรู้จัก”
“ครับ”
พอตกลงกันได้ทั้งสองคนก็ไปยังสำนักงานเขตเพื่อทำการหย่าให้เรียบร้อยก่อนจะพากันกลับมาที่บ้านของอติรุจน์อีกครั้ง
“ถ้าไม่มีอะไรแล้วอัยย์ขอเก็บของไปคอนโดเลยนะคะ”
“ให้พี่ไปส่งไหม”
“ไม่เป็นไรอัยย์นั่งแท็กซี่เองได้”
“แล้วระหว่างนี้จะออกไปไหนก็ระวังตัวด้วย นั่งแท็กซี่ไปก่อนเดี๋ยวคนอื่นจะรู้”
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่าอัยย์ไปยืมรถหมอริตาก็ได้”
“ไม่ได้นะ เดี๋ยวริตารู้”
“พี่จะให้อัยย์เก็บเป็นความลับคนเดียวเหรอคะ อัยย์ได้อกแตกตายกันพอดี”
“แล้วริตาไว้ใจได้เหรอ”
“แน่นอนสิคะ พี่ไว้ใจคุณพนาได้มากแค่ไหน อัยย์ก็ได้มากเท่าๆ กับพี่นั่นแหละค่ะ”
หลังจากไอรดาขึ้นรถไปแล้วอติรุจน์ก็โทรศัพท์ให้พนามาที่บ้านของเขาทันที
“ผมขอโทษนะครับคุณติ ถ้าเมื่อคืนผมยอมกลับแต่โดยดีคุณก็คงไม่ต้องเสียเงินมากขนาดนี้”
“ไม่เป็นไรหรอกเงินแค่นี้ไม่ได้มากมาอะไร ภายในหนึ่งปีนี้พ่อกับแม่จะไม่มาวุ่นวายกับผมอีก”
“แล้วถ้าครบหนึ่งปีละครับ”
“ผมก็จะบอกท่านว่าที่ผ่านมาผมผิดหวังกับความรักมาแล้วก็เลยไม่อยากจะแต่งงานอีก และคิดว่าจะอยู่เป็นโสด อย่างน้อยก็คงทำให้เขาเลิกคิดจับคู่ผมอีกนาน”
“แล้วเรื่องฮันนีมูนล่ะครับ คุณอัยย์เธอจะไปกับเราไหม”
“ไม่ครับ เราจะไปกันแค่สองคน คุณจัดกระเป๋าเรียบร้อยแล้วใช่ไหม”
“ครับ เดี๋ยวเราออกไปหาของอร่อยๆ กินแล้วค่อยไปสนามบินกันดีไหมครับ”
“ได้สิ ผมตามใจพนาอยู่แล้ว”