ตอนที่ 3
“มึงเองก็อย่าไปทำอะไรเมียใหม่พ่อมึงละ เดี๋ยวก็มีปัญหากับเขาอีก” เพียงพูดเตือน เมื่อเข้ามาอยู่ในห้องของเพื่อนแล้ว
“มึงอย่ามาปกป้องมัน” รินหันไปมองขวางเพียงนิดๆ
“กูปกป้องเขาที่ไหนละ กูปกป้องมึงนั่นแหละ มึงเป็นลูกเขามึงก็น่าจะรู้ว่าพ่อมึงเป็นคนยังไง ขนาดกูพึ่งเคยเจอพ่อมึงกูยังรู้เลยว่าพ่อมึงอ่ะเป็นคนยังไง” เพียงพูดบอก
“ละมึงว่าพ่อกูเป็นคนยังไง” รินขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนยิ้มๆ เพราะเท่าที่เธอฟังน้ำเสียงของเพียงที่พูดมา เธอเริ่มรู้สึกถึงความไม่พอใจและหมั่นไส้อะไรบางอย่างในนั้น
“พ่อมึงน่ะหรอ เท่าที่กูมองนะ กูว่าพ่อมึงเป็นคนขี้เก๊ก ปากจัด ทำเป็นวางมาดเข้มแต่จริงๆแล้วไม่ใช่ หน้าตานี่ก็โคตรกวนตีน เวลาที่มองคนอื่นนะ..หื้มมโคตรเหยียดหยามเลย นี่ไม่รู้ว่าเขาไปเอาความมั่นใจผิดๆแบบนี้มาจากไหนนะ ว่าทำแบบนี้แล้วจะให้คนกลัว กูว่านะมันจะยิ่งทำให้เขายิ่งดูน่าหมั่นไส้มากเลยด้วยซ้ำ นี่ก็ไม่รู้ว่าทำให้ใครเกลียดไปแล้วกี่คน แต่กูว่าหนึ่งในนั้นแม่งอาจจะมีกูด้วยก็ได้ ถ้าเขายังวางมาดขี้เก๊กไม่เลิกเนี้ย คิดว่าทำแบบนี้แล้วเท่ห์มากมั้ง เหอะ!กูจะอ้วก” เพียงถอนหายใจทันทีเมื่อพูดจบ เขาหันไปมองหน้ารินนิดๆแต่ก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรอยยิ้มของเพื่อนที่มองมา
“อะไรของมึงวะ มองกูไมเนี้ย” เพียงมองหน้ารินด้วยความระแวง
“กูก็มองมึงด่าพ่อกูอยู่ไง” รินพูดอย่างขำๆ เธอไม่ได้โกรธเพียงเลยที่ด่าพ่อของเธอขนาดนั้น กลับกันเธอดันรู้สึกว่ามันตลกมากกว่า
“เชี้ยยยย กูลืมไปว่านั่นพ่อมึง” เพียงเบิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะเขามัวแต่นึกถึงภาพของร่างสูงที่เขาเห็น จนลืมคิดไปว่าคนที่เขากำลังต่อว่าอยู่นั่นเป็นพ่อของเพื่อน
“หึหึหึ นี่ถ้าพ่อกูได้ยินนะ มีหวังส่งคนมาจับมึงไปถ่วงน้ำแน่” รินแกล้งพูดขู่ยิ้มๆ เพียงเชิดหน้าขึ้นนิดๆ
“คิดว่ากูจะกลัวพ่อมึงรึไง โถ่! เดี๋ยวกูให้รุ่นน้องกูมาดักตีหัวพ่อมึงเอาก็ได้” เพียงแบะปากใส่รินด้วยความหมั่นไส้ ซึ่งรุ่นน้องที่เพียงพูดถึงก็เป็นรุ่นน้องที่อยู่วิทยาลัยเดียวกัน เรียนสาขาช่างยนต์เหมือนกัน
“มึงคิดว่ามึงจำร้ายพ่อกูได้ง่ายๆเลยรึไง ฮ่าๆๆๆ ถ้ามึงทำให้พ่อกูเลือดออกได้นะ คนที่อิตาลีคงได้มายิงหัวมึงกระจุยแน่” รินพูดบอกเพียงอย่างขำๆ เพราะเธอเองก็รู้ดีว่าพ่อทำงานอะไรและมีเป็นเส้นสายให้ใครบ้าง
“ชิ!” เพียงสะบัดหน้าไปอีกทางอย่างงอนๆ
“ปัญญาอ่อนสัสเพียง” รินส่ายหน้าเล็กน้อย
“เออแล้วกระเป๋าเสื้อผ้ากูอ่ะ” เพียงถามเมื่อนึกขึ้นได้ เพราะเขาไม่เห็นกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองอยู่ในห้องรินเลยแม้แต่น้อย
“น่าจะอยู่อีกห้องนึงละมั้ง” รินบอก
“เดี๋ยวกูไปเอาเอง อยู่ไหนวะ” เพียงถาม
“มึงเดินตรงไปนะ ห้องจะอยู่ทางซ้ายมือ นับจากห้องกูไปอีกสองห้อง” รินชี้ไปที่ประตู เพียงพยักหน้าและเดินออกไปจากห้องของรินทันที หารู้ไม่ว่ารอยยิ้มร้ายๆของเพื่อนสนิทอย่างรินได้ปรากฎขึ้นแล้ว
เพียงเดินตามที่รินบอกเรื่อยๆ
“ห้องอะไรมันจะเยอะแยะขนาดนี้วะ” เพียงบ่นออกมาเล็กน้อย พอเขาลองมองย้อนกลับไปจากห้องของเพื่อนก็เจอเข้ากับห้องที่รินบอกพอดี เพียงยิ้มออกมาเล็กน้อยและเปิดประตูเข้าไปทันที
พรึบ!
“กรี๊ดดดดดด”
“เหี้ยยยย!!!”
ทั้งเพียงและหญิงสาวต่างร้องกรี๊ดออกมาดังลั่น เมื่อเพียงเปิดประตูไปเจอกับหญิงสาวที่กำลังถอดเสื้อผ้าอยู่ โดยมีร่างสูงนั่งอยู่บนเตียง
“นายเข้ามาได้ยังไงอ่ะ!” แพรถามเสียงสั่น พร้อมกับรีบใส่เสื้อผ้าด้วยความตกใจ
เพียงหันหลังทันทีเมื่อตั้งสติได้ ถึงแม้ว่าเขาจะเห็นร่างที่เปลือยเปล่าของหญิงสาวบ้าง แต่ด้วยความตกใจ มันเลยทำให้เขาไม่ได้โฟกัสกับเรือนร่างของเธอมากนัก
“เข้ามาที่นี่ได้ยังไง ทำไมไม่เคาะประตูก่อน” เสียงเข้มของร่างสูงถามเพียงพร้อมกับเดินเข้ามาใกล้
“พวกคุณนั่นแหละมาห้องผมได้ไงเนี้ย” เพียงโวยวายโดยไม่หันไปมอง
“ห้องผม?” น้ำเสียงที่แปลกใจของคิง ทำให้เพียงเริ่มเอะใจ และมันก็ทำให้เขาก็รู้ได้ทันทีว่าตอนนี้เขาถูกไอเพื่อนรักมันหลอกเข้าให้แล้ว
“ไอเหี้ยรินนนน!!”
“คะ..คือผมเข้าห้องผิดอ่ะ กะจะมาเอากระเป๋าเสื้อผ้าของผม แต่ดันมา..เปิดห้องคุณ” เพียงบอกคิงอย่างรนๆ
“ฉันอายุมากกว่านาย จะพูดจะจาอะไรให้มันดีดีหน่อย มีหางเสียงบ้างก็ดี” คิงปรามออกมาดุดุ
“โทษที พอดีชินปาก” เพียงพูดพร้อมกับกรอกตามองบนด้วยความหมั่นไส้
ร่างสูงของคิงเดินมาข้างหน้าเพียง พร้อมกับมองด้วยความไม่พอใจ
“นายควรจะขอโทษเธอด้วย เพราะนายเองก็พูดกับเธอไม่ดีเหมือนกัน” คิงพูดเสียงเข้ม เพียงถอนหายใจออกมานิดๆ
“โทษ” เพียงหันไปพูดกับหญิงสาวสั้นๆ และหันหน้ามามองร่างสูงต่อด้วยสีหน้าที่ดูกวนไม่น้อย
“ขอโทษครับ” คิงจ้องหน้าเพียงอย่างดุดุ และบังคับให้อีกฝ่ายพูดตามที่เขาพูดเมื่อกี้
“ก็พูดไปแล้วจะอะไรอีกวะ” เพียงถามอีกฝ่ายอย่างหาเรื่อง
“พูดดีดี” เสียงเข้มของคิงพูดขึ้นอีกครั้ง
“ดีดี” เพียงตอบอย่างกวนๆ
“อย่ามากวนประสาทฉัน” คิงมองหน้าเพียงดุดุ
“นี่จะอะไรนักหนาวะ ให้พูดดีดีก็พูดแล้วนี่ไง จะเอาไรอีก” เพียงใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มตัวเองนิดๆ
“ฉันบอกให้พูดขอโทษเธอดีดี ไม่ได้ให้นายมาพูดกวนประสาทฉันแบบนี้”
“โว๊ะ!” เพียงขมวดคิ้วมองหน้าคิงด้วยความไม่พอใจ
“คุณคิงคะ แพรไม่เป็นไรค่ะ” หญิงสาวเดินเข้ามาหาคิงแล้วพูดขึ้น เพราะเธอไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอะไรเพียงเลยแม้แต่น้อย
“ได้ยินแล้วนะครับคุณพ่อ ยังไงกระผมขอตัวก่อนละกันนะครับ” เพียงพูดจบก็หันหลังเดินกลับไปทันที แต่มือของคิงมาดึงแขนของเพียงเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยว!”
“โอ๊ยยยยอะไรของมึงวะ” เพียงเผลอหลุดพูดคำว่ามึงออกมา ด้วยความที่เขาโมโห มันเลยทำให้เขาไม่ทันคิด แต่พอคิดได้ว่าไม่ควรพูด..มันก็ไม่ทันแล้ว
“เมื่อกี้นายพูดว่าอะไรนะ” คิงจ้องมองหน้าของเพียงดุดุ ความโกรธของเขาทวีคูณขึ้น
“เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจ โทษทีละกัน” เพียงน้ำเสียงอ่อนลงเล็กน้อย เพราะเขาเองก็แอบรู้สึกผิดที่พูดแบบนั้นออกไปเหมือนกัน
“คุณคิงคะ เพียงเขาคงไม่ได้ตั้งใจหรอกค่ะ” แพรพยายามที่จะพูดแก้ตัวให้เด็กหนุ่ม เพราะเธอรู้ว่าเพียงคงไม่ได้ตั้งใจที่จะหลุดพูดคำหยาบออกมาจริงๆ
“เลิกเข้าข้างไอเด็กนี่สักทีแพร เมื่อกี้คุณเองก็ได้ยินเหมือนที่ผมได้ยินไม่ใช่หรอ” คิงหันไปมองหน้าหญิงสาวด้วยความขุ่นเคืองไม่น้อย
“แต่ว่า..”
“พอเหอะ เอาเป็นว่าผมขอโทษละกันนะ จบเนอะ..ผมจะได้ขอตัว” เพียงพูดจบก็สะบัดแขนออกจากมือคิงทันทีและเดินกลับเข้าไปในห้องของริน