#บทที่ 7 นัด
เข้าฤดูฝนได้ไม่นานก็ถึงช่วงเดือนกรกฎาคมทางอำเภอก็มีงานกาชาดและงานแห่เทียนอยู่ทุกปี ทั้งอำเภอมีตำบลอยู่แค่ 5 ตำบลนายอำเภอมอบคำสั่งออกไปให้แต่ละตำบลแกะสลักต้นเทียนเข้าร่วมประกวด รวมถึงขบวนแห่นางเทียน นางรำ เพื่อสร้างสีสันให้กับงานกาชาดอำเภอ
คุณหมอนวดไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมใด ๆ เห็นว่าเป็นผู้ชายหนุ่มนุ่มนิ่มตัวบางร่างน้อยแต่วันจันทร์ไม่เคยอยากแต่งตัวเป็นผู้หญิง ขอนั่งรอหน้าร้านกาแฟคอยดูแห่ต้นเทียน ขบวนนางเทียน ขบวนเซิ้งของแต่ละตำบลดีกว่า
ถึงวันจันทร์จะชอบค่อนขอดความบ้านนอกไกลปืนเที่ยงของอำเภอตัวเองบ่อย ๆ แต่ก็ไปร่วมบริจาคเงินสมทบทุนกับมอบน้ำดื่มในนามร้านวันจันทร์นวดแผนไทยตอนหอกระจายข่าวหมู่บ้านเปิดรับบริจาคตั้งแต่ต้นเดือน
ถึงวันแห่พื้นที่บริเวณร้านสะอาดมีทางเข้าหน้าร้านกว้างหลายสิบเมตรจึงมีชาวบ้านมาขอจอดรถอาศัยหลบแดดคอยดูขบวนเทียนเยอะพอสมควร เสียงคนจ้อกแจ้กหน้าร้าน เด็กเล็กยืนเกาะกลุ่มยืดคอรอดูขบวนแห่ รถเร่แผงลอยมาจอดขายน้ำขายขนมกินเล่น ทางเข้าร้านนวดแผนไทยกลายเป็นตลาดคลองถมขนาดย่อมไปแล้ว
"ปกติตอนกลางวันตัวอำเภอดูเงียบ ๆ ไม่คิดว่าพออำเภอจัดงานจะมีคนเยอะเหมือนกันนะ"
เสียงทุ้มดังขึ้นข้างตัวทำวันจันทร์สะดุ้งโหยง "เหี้ย! คุณ" หันไปเห็นคนมาใหม่
"พี่เอง ไม่ใช่เหี้ย" คนที่โผล่มาเงียบ ๆ ยังกับผียักคิ้วส่งยิ้มบาง
"มาเงียบ ๆ ตกใจหมด แล้วรอง ผบ.กองร้อยไม่ต้องร่วมขบวนพาเหรดของอำเภอเหรอ" วันจันทร์ถาม วันนี้ชายหนุ่มใส่ฟอร์มเป็นชุดฟาติกส์สีเขียวเข้มพับแขนกับกางเกงกระชับพอดีกับช่วงขาเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ ทำให้ ตชด.หนุ่มดูหล่อสะอาดยิ่งกว่าเดิมดูไม่เข้ากับอำเภอบ้านนอกขนาดเล็กติดชายแดนสักนิด
สายใจกับลูกจ้างร้านนวดมองตชด.หนุ่มแล้วยิ้มอย่างรู้กัน เจ้าของร้านพวกตนเสน่ห์แรงอีกแล้ว ช่วงนี้แทบจะสับรางไม่ทันบางวันรถไฟก็มานั่งกินกาแฟด้วยกันก็มี วันนั้นร้านกาแฟจะขายดีเป็นพิเศษ
"มองทำไม หรือเปลี่ยนใจมีคิวนวดน้ำมันตอนเย็นว่างให้พี่แล้ว"
หลังจากวันนั้นก็ผ่านมาเกือบเดือนชายหนุ่มก็แวะมากินกาแฟตอนเช้าทุกวัน ช่วงเย็นก็มานวดแก้ปวดเมื่อยที่ร้านบ่อย ๆ แต่เป็นการนวดคอ บ่า ไหล่ นวดประคบทั่วไปเท่านั้น เจ้าของร้านไม่ยอมล็อกคิวนวดน้ำมันหอมระเหยส่วนตัวให้เขา
ผู้กองหนุ่มเคยทำท่ารีรอนวดคลายเส้นเสร็จไม่กลับกองร้อยทันที จึงเห็นว่าลูกค้าที่จองคิวนวดน้ำมันช่วงเย็นของคุณเจ้าของร้านได้ คือ ปลัดมาวิน ปลัดสำนักทะเบียนอำเภอ
"พูดไปเรื่อย ผมก็ไม่ได้ลงนวดทุกวันเสียหน่อย"
"จันทร์..."
"ก็มันชินปากนี่ ขืนใครมาก็จองนวดกับหมอวันจันทร์หมด จันทร์ก็เหนื่อยตายพอดี ไม่ได้ว่างขนาดนั้นด้วย" คนตัวเล็กว่า
ตามจริงอาทิตย์หนึ่งตนได้ลงนวดน้ำมันแค่คิวสองคิว เนื่องจากต้องแบ่งเวลาไปช่วยงานหมอแช่มคนพ่อที่บ้านหลังใหญ่มีชาวบ้านมารอรักษาช่วงเย็นวันละหลายราย
ในฐานะคนคุย ๆ กันอยู่ ปลัดมาวินขอร้องไม่ให้เขารับคิวนวดน้ำมันให้คนอื่นบอกว่าหวง ถ้าแค่นวดกดจุดคลายเส้นทั่วไปในห้องเตียงรวมก็พอรับได้ สถานะของพวกเขานอกจากลูกจ้างในร้านคนนอกไม่มีใครรู้
นอกจากท่าทีของปลัดมาวินที่แสดงออกว่ารักใคร่เวลาอยู่ใกล้ชิดกัน ตอนพบกันข้างนอกก็แสดงออกเหมือนคนรู้จักทั่วไปไม่เคยจับมือถือแขนต่อหน้าคนอื่น วันจันทร์เคยบอกว่าค่อย ๆ คุยกันไปก็จริงแต่ไม่ได้หมายความว่าเขาจะรอได้ตลอดไป
"คนมาทีหลังก็งี้ ถ้าจันทร์ยอมเปิดคิวนวดน้ำมันให้พี่ พี่จะไม่ให้จันทร์เหนื่อยเลย"
"อยากให้จันทร์นวด ไม่ออกแรงแล้วจะนวดยังไง"
"พี่จะเป็นคนนวดให้คุณหมอนวดเอง พี่นวดเก่งนะ แต่ก่อนนวดให้คุณแม่บ่อย ๆ จันทร์ได้ลองแล้วจะติดใจ"
"ขี้โม้หรือเปล่าเหอะ กลัวแต่นวดเสร็จได้ไปใส่เฝือกดามกระดูกต่อน่ะสิ"
"ขบวนกองร้อยพี่เดินพ้นแล้ว ไม่ต้องรีบตามไปรึไง" มองเห็นขบวนของกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนเดินผ่านหน้าร้านไปได้สักพัก ขบวนแห่เทียนตำบลสุดท้ายสุดก็พ้นหน้าร้านไปแล้ว คนมารอดูขบวนเทียนเริ่มขับรถตามไปสนามหน้าอำเภอ แต่รอง ผบ.กองร้อยยังนั่งหยอดเขาอยู่นี่อยู่เลย
"เดี๋ยวให้ลูกน้องเอารถเครื่องมารับ คุยเรื่องสำคัญกับพี่ก่อน"
"เรื่องสำคัญอะไร"
"คืนนี้ไปเดินเที่ยวงานกาชาดกับพี่นะ พี่ไม่มีเพื่อนเดินเลย" พูดแล้วทำหน้าตาเรียกคะแนนสงสารจากคนตัวบาง
"เอ้า แล้วลูกน้องในกองร้อยนั่นล่ะ"
"เลิกงานแล้วเขาก็พาลูกเมีย นัดแฟนเดินเที่ยวกันทั้งนั้น มีแต่พี่โสดคนเดียวทั้งกองร้อย"
"พูดซะเวอร์"
"เอ้า ไม่เชื่อ ไปถามใครในกองร้อยดูก็ได้ คุณหมอนวดจะให้พี่นอนโสดเฝ้ากองร้อยคนเดียว ไม่สงสารพี่เหรอ"
งานกาชาดเริ่มก่อนวันแห่เทียนมาหลายคืน วันจันทร์แอบหวังลึก ๆ ว่าปลัดมาวินจะเอ่ยชวนเขาไปเดินเที่ยวเล่นสองคน แต่หลายวันแล้วปลัดมาวินไม่ได้แวะมาหาตนที่ร้าน วันจันทร์ก็ไม่เคยโทรไปจุกจิกกวนใจคนไม่ได้ใช้ชีวิตร่วมกันควรมีพื้นที่ส่วนตัว
"โอ๊ย การละครจริง ๆ ไปก็ได้"
ความสัมพันธ์พวกเขาก็คลุมเครือตั้งแต่ต้น เขาไม่ควรจะคาดหวังมากเกินไป และไม่ควรตีกรอบจนทำให้ตัวเองเหนื่อยอยู่คนเดียว
"เยส! อาบน้ำแต่งตัวน่ารัก ๆ รอเป็นตุ๊กตาหน้ารถพี่นะ เดี๋ยวพี่รีบกลับเข้าขบวนก่อนป่านนี้น่าจะใกล้ถึงสนามหน้าอำเภอแล้ว" ว่าแล้วก็ผลุนผลันลุกขึ้น
"แล้วก็ทำเล่นอยู่ได้ รีบไปซะที"
"ไปแล้ว ๆ อย่าลืมนะ พี่มารับตอนหนึ่งทุ่ม"
อำเภอจัดงานกาชาดลูกค้าคิวนวดช่วงหัวค่ำจึงว่าง ร้านสภากาแฟของเขาก็ปิดเร็วมาหลายวัน คนส่วนมากเลิกงานมาก็รีบเข้าบ้านอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่พาครอบครัว พาแฟนมาเดินเที่ยว
งานกาชาดอำเภอมีสวนสนุก ชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน จับสลากกาชาดชิงโชค และรายการสุดท้ายของทุกคืนก็คือมีคอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่งที่เคยเห็นหน้าแค่ในทีวี บางคนมาเดินเที่ยวตั้งแต่ 5 โมงเย็นนั่งยาวจนคอนเสิร์ตเลิกกลับถึงบ้านตี 1ตี 2ก็มี เนื่องจากอำเภอจัดงานกาชาดแค่ปีละครั้ง
"แม่ ตอนค่ำหนูไปเที่ยวงานกาชาดอำเภอนะ ถ้ามีอะไรด่วนก็โทรเอา"
หลังชาวบ้านที่มารักษากระดูกหักคนสุดท้ายกลับไป ล้างมือเก็บพานขันธ์ ๕ กับตะกร้าเชี่ยนหมากคู่ใจของตาแช่มเสร็จ วันจันทร์นึกขึ้นมาได้เลยบอกแม่เอาไว้ก่อน ลูกชายอายุจะ 30 อยู่แล้วแต่จะไปไหนมาไหนก็ต้องบอก จะไปเที่ยวผับเที่ยวบาร์ในตัวเมืองก็ต้องขออนุญาตพ่อแม่เหมือนยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมต้น
ตามจริงตาแช่มกับคุณนายเพ็ญศรีไม่เคยห้ามลูกชายแค่เป็นห่วง ก็ดูลูกชายบ้านพวกตนสิตัวก็บางถ้ามีลมพัดแรงยังกลัวว่าจะปลิวหาย ออกไปเที่ยวนอกบ้านเจอพวกวัยรุ่นไล่ตีกันจะหนีทันคนอื่นรึเปล่าก็ไม่รู้ คนไม่เป็นพ่อแม่ไม่รู้หรอก
"เออ อย่ากลับให้มันดึกมากนักล่ะ ในงานคนเยอะมันก็ดูคึกคักไม่น่ากลัว แต่ทางกลับบ้านเราเลยโค้งโรงบาลทั้งเปลี่ยวทั้งมืด"
"รู้แล้วน่า" เกือบจะหลุดปากว่ามีผู้ชายมาส่ง เห็นตาแช่มหายไปแป๊บเดียวกลับออกมาอีกทีอาบน้ำผลัดชุดเหมือนจะออกไปข้างนอก
"พ่อ จะไปไหนอีกล่ะ เย็นแล้ว"
"ไปเยี่ยมป้าช้อยน่ะสิ เห็นพี่ชดเอ็งบอกว่าปวดท้อง พาไปหาหมอเลยได้นอนโรงบาลเมื่อวาน"
"เอ้า หนูไม่เห็นรู้เรื่องเลยไม่ได้ไปเยี่ยมด้วย"
พ่อกับแม่เปลี่ยนชุดพร้อมออก ตนจะวิ่งไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าไปเยี่ยมป้าด้วยก็จะสาย เดี๋ยวหมดเวลาเยี่ยมไข้
"ไม่เป็นไร แกออกมาแล้วค่อยไปเยี่ยมกับแม่ก็ได้"
สองตายายขับรถกระบะคันเก่าของครอบครัวออกไป วันจันทร์ล็อกประตูปิดหน้าต่างบ้านใหญ่เรียบร้อยก็เดินลัดสวนกลับไปที่พักส่วนตัวเพื่ออาบน้ำเปลี่ยนชุดรอคนมารับ