#บทที่ 8 เจอ
วันจันทร์ขึ้นไปอาบบนชั้นสองของร้านกาแฟแต่งตัวเสร็จลงมาด้านล่างก็ทุ่มกว่า คืนนี้คุณหมอนวดใส่เสื้อเชิ้ตคอปกแขนสั้นสีฟ้าอ่อนกับกางเกงสั้นเหนือเข่าสีน้ำเงินเข้มใส่รองเท้าผ้าใบคู่ใจ ดูเผิน ๆ เหมือนหนุ่มน้อยหน้าใสวัยกำลังเรียนมอปลาย นั่งรอคนจะพาไปเที่ยวงานหน้าร้านกาแฟสักพักก็เห็นไฟหน้ารถเครื่องวิ่งตรงมาหน้าร้าน
"อ้าว ทำไมได้มาคันนี้?" วันจันทร์มองคนอายุมากกว่าจอดรถถอดหมวกกันน็อกเสยผมแบบรีบ ๆ
"ขอโทษที่มาสายนะ รถเก๋งพี่ จู่ๆ ก็เกเรสตาร์ทไม่ติดซะงั้น น่าจะแบตหมดต้องรอไปซื้อใหม่พรุ่งนี้" ถ้าจะถอดแบตไปชาร์ตก็ต้องรอนานหลายชั่วโมงอีก
"แล้วพี่อาทิตย์ไปเอารถใครมาใช้"
คนตัวบางหยิบขวดน้ำกับทิชชูยื่นให้คนที่มีเหงื่อผุดเต็มกรอบหน้า คงร้อนใจกลัวมารับตนสาย
คนพี่ผงกหัวยิ้มรับ "ขอบคุณครับ รถจ่ากองร้อยแกให้ยืมขับก่อน แกเอาซาเล้งพาลูกเมียไปเที่ยวงานแล้ว"
"รถเสียโทรมาบอกก็ได้ เดี๋ยวจันทร์ขับรถไปรับที่กองร้อยเอง"
วันจันทร์มีรถเก๋งคันเล็กอยู่คันหนึ่งแต่ไม่ค่อยได้ใช้ชอบใช้รถเครื่องคล่องตัวกว่า ฐานกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 690 อยู่ก่อนถึงที่ว่าการอำเภอประมาณ 500 เมตร
แต่ห่างจากบ้านโนนเจริญหนึ่งกิโลเมตรกว่า วันจันทร์จะไปเที่ยวงานกาชาดอำเภอก็ต้องผ่านแค่ต้องยูเทิร์นรถกลับเนื่องจากเป็นถนนสี่เลน
"ไม่เอา มันไม่เท่" อีกคนว่าทำหน้ายุ่ง คิ้วเข้มขมวด "จะให้จันทร์เป็นฝ่ายไปรับได้ไง จะพาคนสวยไปเดตครั้งแรก"
"พูดอะไร ใครไปเดตกับพี่! จันทร์แค่จะไปเดินเที่ยวงานกาชาดอำเภอ" คนตัวบางร้องเสียงสูง ใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมา เพิ่งคิดได้ว่ากับปลัดมาวินเองเขายังไม่ได้ไปเที่ยวข้างนอกด้วยกันเลย
เห็นคุณหมอนวดเสียอาการคนตัวสูงก็ยิ้มร่าอารมณ์ดีขึ้นมาทันที จากตอนแรกกำลังหงุดหงิดเรื่องรถยนต์ดันมาเสียวันนี้ "ก็นี่แหละ เดตแรกของเรา ก็จันทร์เพิ่งยอมไปเที่ยวข้างนอกกับพี่ครั้งแรกไง"
"เอ๊ะ พี่เรียกใครว่าคนสวย จันทร์เป็นผู้ชายนะ"
"ไม่เกี่ยวว่าต้องเป็นผู้หญิงแล้วถึงจะเรียกว่าคนสวยได้ สำหรับพี่วันจันทร์เป็นคนสวยของพี่"
"หยุด เลิกพูดเรื่องนี้" คนตัวเล็กยกมือปางท่าห้ามญาติตัดสินใจยุติบทสนทนาที่ตัวเองถูกต้อนเข้ามุม
เดินไปหยิบหมวกกันน็อกแล้วเดินนำไปที่รถเครื่องจอดอยู่ "รีบไปเที่ยวงานเถอะเดี๋ยวจะดึก"
ผู้กองหนุ่มจากกองร้อยตำรวจ ตชด. มองตามเจ้าของร้านนวดยกยิ้มอย่างได้ใจ เดินตามไปขึ้นรถขับพาคนสวยไปเดตตามคำสั่ง เขาไม่ใจร้อนยังมีเวลาให้ทำคะแนน ตามที่สอบถามคนอื่นวันจันทร์ยังไม่คบใครออกหน้าออกตา
ยังไม่เคยควงใครไปไหนมาไหนอย่างเปิดเผยรวมถึงปลัดมาวิน คืนนี้วันจันทร์ยอมไปเที่ยวกับเขาแสดงว่าเริ่มไว้ใจตนมากขึ้นแล้ว ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี
ขับรถมาถึงงานกาชาดสนามหน้าอำเภอขับรถก็สองทุ่มพอดี วนหาที่จอดออกมาไกลกว่าจุดจัดงานพอสมควร มองเห็นแต่หัวคนดำเต็มสนาม คนตัวเล็กนับถือคนอำเภอเขาจริง ๆ ปีหนึ่งอำเภอมีงานใหญ่ประจำอำเภอครั้งเดียว ฝนจะตกแดดจะออกก็ไม่หวั่นพร้อมสู้ตายมาก ปกติตอนกลางวันตลาดสดกับที่ว่าอำเภอยังกะเมืองร้าง มีแค่ช่วงเช้ากับเย็นที่พ่อแม่มารับส่งลูกที่โรงเรียนประจำอำเภอนั่นแหละถึงจะมีคนพลุกพล่านหน่อย
"เสร็จแล้ว ไปกัน" จอดรถล็อกคอเก็บหมวกกันน็อกเรียบร้อยคนตัวสูงพยักหน้าเรียกคุณหมอนวดยืนทำแก้มป่องรอ เห็นแล้วมันเขี้ยวอย่างไม่มีเหตุผลผู้กองซันยืนมือไปบีบแก้มคนสวยเร็ว ๆ ทีหนึ่ง
"โอ๊ย มันเจ็บนะ! บีบแก้มผมทำไม"
"ไม่มีเหตุผล อยากบีบ พูดผมอีกแล้วฟังดูเป็นผู้ชายแมน ๆ จังนะ" เห็นคนตัวเล็กลูบแก้มตัวเองเบา ๆ ยิ่งอยากทำให้เจ็บแรง ๆ ถ้าคุณหมอได้ยินความคิดของอาทิตย์ต้องอยากทุบคนแน่
"ผมก็เป็นผู้ชายนะ"
"ครับ ๆ ผู้ชายสูง 168 หนัก 60 ตัวเท่าลูกแมว"
ล้อเลียนเรื่องอะไรก็ไม่เคืองเท่าถูกบูลลี่ความสูง 168 ซม. ของตน คุณหมอนวดยืนเท้าสะเอวจ้องคนตัวสูงตาเขียว
"จะเที่ยวไหมคืนนี้ จันทร์จะกลับบ้านแล้วนะ"
"เที่ยวครับเที่ยว โอ๋ ๆ คนสวยอย่าทิ้งพี่อาทิตย์นะครับ พี่อาทิตย์เพิ่งเคยเที่ยวงานกาชาดครั้งแรกในชีวิต"
"เรียกพี่จันทร์ก่อนแล้วจะหายโกรธ เร็ว ๆ"
"ครับ พี่จันทร์ครับ หายโกรธน้องอาทิตย์นะ พาน้องอาทิตย์เดินเที่ยวหน่อยนะ"
เจ้าของร้านนวดพยักหน้าพอใจ "โอเค พี่จันทร์เป็นผู้ใหญ่ ไม่ถือสาเด็กหรอก ปะ พี่จันทร์จะพาน้องอาทิตย์เที่ยวงานกาชาดอำเภอโนนสวรรค์เอง ตามมาเลย"
ว่าแล้วคนก็หัวเราะอย่างถูกใจเดินนำเข้างานอย่างคึกคัก อาทิตย์ยิ้มตาพราวระยับรีบเดินตีคู่คนตัวเล็ก
คนเดินเที่ยวงานแน่นทุกซุ้ม ตักไข่ปลา ปาโป่ง ยิงปืน ม้าหมุน แผงปลาหมึกย่าง วันจันทร์พาตำรวจหนุ่มแวะลองหมดทุกอย่าง สลากกาชาดก็ช่วยอุดหนุนซื้อเป็นสิบใบประกาศผลรางวัลงานวันสุดท้าย ร่างบางพยายามสอดส่ายมองหาใครบางคนอย่างมีความหวัง หากจนใจคนแน่นมากมองจนตาลายวันจันทร์ก็ยังไม่เจอคนรู้จักหรือคนบ้านเดียวกันเลย
"อร่อยนะ ลองกินดูสิ" วันจันทร์ยื่นปลาหมึกแห้งย่างที่ซื้อมาสองไม้ให้อาทิตย์ลองกิน
อีกฝ่ายเม้มริมฝีปาก ปิดจมูกส่ายหน้าหนีลูกเดียว "อั้ยเอา เอ๊นอ้าก อัน"
ได้แกล้งเอาคืนอีกฝ่ายวันจันทร์หัวเราะจนตาหยี ไม่คิดว่าผู้กองหนุ่มจะเหม็นปลาหมึกแห้งจนทำหน้าอี๋หมดมาด อาทิตย์บอกว่าแค่ได้กลิ่นก็รู้สึกคันคะเยอทั้งตัว ได้กลิ่นปลาเค็มเหม็นมาแต่ไกล
คืนนี้มีคอนเสิร์ตนักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังคนเลยมาเที่ยวงานเยอะกว่าปกติ วันจันทร์ไม่สนใจแนวนี้คนไม่ได้พูดอีสานแค่โตมาพอฟังออกก็ดีเท่าไหร่แล้ว จะให้ไปนั่งฟังหมอลำก็เตรียมเสื่อกับหมอนผ้าห่มอีกผืนให้เขาได้เลย หลับจนคอนเสิร์ตจบ...
อันนี้คือเรื่องจริงที่เคยเกิดขึ้น คุณนายเพ็ญศรีเคยพาเขาไปงานฉลองอุโบสถก์ที่ตัวเองร่วมเป็นประธานผ้าป่าหาทุนสร้าง ทางวัดจ้างคณะหมอลำกับนักร้องลูกทุ่งมาวันจันทร์นอนหลับตั้งแต่หมอลำขึ้นเวทีจนเขาเก็บเวทีแม่ปลุกกลับบ้านพอดี ตั้งแต่นั้นคุณนายเพ็ญศรีไม่พาลูกชายไปดูหมอลำอีกเลย
"พี่อาทิตย์ นั่น ๆ เหลืออีกอย่าง จันทร์อยากไปขึ้นอันนั้น"
คนตัวเล็กชี้ใส่วงล้อขนาดใหญ่ประดับไฟหลากหลายสีกำลังหมุนขึ้นลงช้า ๆ
"ชิงช้าสวรรค์? ไหนบอกว่ากลัวความสูงไง ไหวแน่นะ" ตอนเดินเข้างานเขาก็เคยเสนอว่าอยากขึ้นชิงช้าสวรรค์ดูวิวตอนกลางคืน แต่คนตัวเล็กส่ายหน้าหวือบอกไม่เอาบอกว่ากลัวความสูง
"กลัวขึ้นแล้วขาสั่นไม่มีแรงเดินเที่ยวอย่างอื่นไง ตอนนี้เดินเที่ยวทั่วแล้ว ลองขึ้นท้าทายความกลัวตัวเองบ้างก็เข้าท่าดี ลูกผู้ชายอกสามศอกต้องทำได้" พูดแล้วก็ตบอกตัวเองหน้าตาขึงขัง
"ฮ่า ๆๆๆ ไหนลูกผู้ชายอกสามศอกขอพี่จับดูหน่อยว่าถึงสามศอกจริงไหม"
"พี่อาทิตย์!" ทุบหลังคนชอบล้อเลียนดังตุ๊บตั๊บ
"โอ๊ย ล้อเล่น ๆ ไป อยากขึ้นก็ไปลองดู"
บัตรชิงช้าสวรรค์สำหรับผู้ชายตัวโตสองคนคนละ 60 บาท ระหว่างยืนรอคิวให้ชิงช้าหมุนลงมาคนตัวบางเงยหน้ามองไปรอบตัวสีหน้าลุ้นใจเต้นตึกตัก สายตาของเขาไปหยุดที่กระเช้าด้านบนอยู่นาน หน้าอกด้านซ้ายเต้นรัวเร็วก่อนจะค่อย ๆ เต้นช้าลงเหลือไว้แต่อาการปวดหนึบ ชิงช้าหมุนลงกระเช้าตัวนั้นหยุดอยู่ตรงหน้าและเปิดออก
สีหน้าวันจันทร์นิ่งค้างแม้แต่รอยยิ้มบนหน้าก็ไม่สามารถรักษาไว้ได้ ความจริงมันเต็มตาขนาดนี้ คนตัวเล็กถอยหลังแตะแขนคนมาด้วยกัน
"พี่อาทิตย์ ผมไม่อยากเล่นแล้ว เอาตั๋วให้เด็กแถวนี้เถอะ"
ชายหนุ่มตัวสูงหันซ้ายขวาดูบรรยากาศงาน เสียงประกาศพนักงานจัดรอบคิวดังขึ้นพอดีเขาได้ยินไม่ชัดว่าคนตัวเล็กพูดอะไรจึงก้มไปถาม "หืม จันทร์ว่าไงนะ?"
"ผมไม่อยากเล่นแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะ"
"ไหนตอนแรกจันทร์บอกว่าอยากลองเล่น"
"ผมเปลี่ยนใจแล้วใจไม่แข็งพอน่ะ"
วันจันทร์ก้มหน้าหันหลังเดินออกไปจากซุ้มชิงช้าสวรรค์อย่างรวดเร็ว
"วันจันทร์ เดี๋ยวก่อน!"
"จันทร์ รอพี่ด้วย" ผู้กองซันร้องเรียกร่างบางรีบไปยัดตั๋วให้เด็กวัยรุ่นสองคนที่มารอซื้อบัตร ได้ยินเสียงคนเรียกชื่อคนตัวเล็กพร้อมกับตนจึงหันไปตามเสียง
'ปลัดมาวิน' รีบร้อนสะบัดมือหญิงสาวที่เพิ่งลงมาจากกระเช้าชิงช้าสวรรค์ด้วยกัน อีกฝ่ายพยายามจะยื้อไว้
"พี่วิน จะไปไหน ห้ามไปนะ!"
"ปล่อย!"
ผู้กองอาทิตย์รีบตามวันจันทร์ไป อีกฝ่ายน่าจะกลับไปที่จอดรถเครื่อง เสียงฝีเท้าวิ่งตามมาด้านหลัง คนตัวเล็กมารอที่ลานจอดรถจริง ๆ ด้วย ตัวคนแค่มีสีหน้าขรึมกว่าปกติไม่ได้กำลังร้องไห้ฟูมฟายอย่างที่ตนนึกกังวลชายหนุ่มก็โล่งใจ
"วันจันทร์ อยากกลับบ้านเหรอ"
"อืม.."
"ปะ พี่จะไปส่ง" ตำรวจหนุ่มจะเข้าไปประคองร่างบางให้ลุกขึ้นจากพื้น
"ปล่อยวันจันทร์!" แต่ถูกผลักออกอย่างรุนแรงจนเซออกไปด้านข้าง
"วันจันทร์ ทำไมถึงมาเที่ยวกับมัน!"
"คุณทำอะไร ปลัดมาวิน" ผู้กองหนุ่มขยับเข้ามาขวางเมื่อเห็นอีกฝ่ายพยายามจะเข้ามาฉุดกระชากคนตัวเล็ก
"ผมจะไปเที่ยวกับใคร ต้องขออนุญาตปลัดมาวินด้วยรึไง"
"อย่ามาประชด พี่ไม่ชอบ วันจันทร์แอบคุยกับมันใช่ไหม!"
"ผมกับวันจันทร์ไม่เคยต้องแอบ เราเดินคุยกันอย่างเปิดเผย คนทั้งงานเห็นหมด"
"ใช่ ผมกับพี่อาทิตย์ไม่เคยแอบลักลอบทำอะไร เราทำอย่างเปิดเผยเสมอ แล้วปลัดมาวินล่ะ เคยทำอะไรเปิดเผยบ้างรึเปล่า รึถนัดแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ"
"วันจันทร์!"
"กลับกันเถอะพี่อาทิตย์ ดึกแล้ว"
"วันจันทร์ กับผู้หญิงคนนั้นไม่ได้มีความหมายอะไร ก็แค่คนรู้จักธรรมดา" ปลัดมาวินพยายามอธิบายเสียงอ่อนลง
"บนกระเช้านั่น ผม เห็น มันทั้งหมด ผม เห็น ว่าคุณ ทำ อะไรไม่ต้องเสียเวลาแก้ตัวกับผมหรอก ความจริงเราก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน"
วันจันทร์มองเห็นเต็มตาว่าปลัดมาวินกอดจูบกับผู้หญิงคนนั้นอย่างดูดดื่ม คนคุยกันมาหลายเดือนมองเห็นแค่เงาไกล ๆ เขาก็จำได้ ไม่ต้องพูดถึงตัวเขาเองนั่งรอให้อีกฝ่ายแวะไปหาตลอดทั้งอาทิตย์ รอให้โทรไปบอกว่าจะพาไปเดินงานกาชาดแต่ก็ไม่มี ต้องปลอบตัวเองว่าอำเภอมีจัดงานประจำปีเขาเป็นปลัดคงงานยุ่งมากกว่าปกติ
ปลัดมาวินยืนบื้อใบ้ทันที พูดแล้ววันจันทร์ก้าวขึ้นนั่งเบาะหลังรถเครื่องที่ตชด.หนุ่มสตาร์ทรอ
"ก็เพราะวันจันทร์เป็นแบบนี้ไง! วันจันทร์ไม่ยอมพี่สักที พี่ก็เป็นผู้ชาย มีเลือดเนื้อมีความรู้สึก!"
"ก็ดีแล้ว ไปทำอย่างที่ปลัดชอบเถอะผมไม่มีสิทธิ์โกรธคุณหรอก แต่ว่า ที่ร้านวันจันทร์นวดแผนไทยของผมไม่มีคิวว่างให้คุณอีกต่อไป" เจ้าของร้านนวดแผนไทยเอ่ยทิ้งท้ายก่อนพลขับรถเครื่องจะบิดรถวิ่งออกไปจากบริเวณสนามหน้าอำเภอ
รถวิ่งเรื่อย ๆ จนผ่านหน้ากองร้อยไฟไลน์ทางไม่มีแล้ว บนถนนเงียบและมืดสนิทมีแค่เสียงท่อจากรถเครื่องที่พวกเขาขับอยู่ ตำรวจตชด.หนุ่มเพิ่งสังเกตเห็นว่าไม่มีรถสวนกับพวกเขาสักคน ด้านหลังก็ไม่มีรถคันไหนขับตามมา
"5 ทุ่มกว่าเอง ทำไมถนนเงียบจัง ไม่มีรถวิ่งกลับบ้านเหมือนเราเลย" คนตัวสูงยกนาฬิกาข้อมือมาดู พยายามชวนคนตัวเล็กคุยเพื่อให้อีกฝ่ายเงียบจมกับความเศร้าเกินไป
"ตอนเราออกมาเมื่อกี้คนยังเต็มสนามอำเภออยู่เลย คงจะอยู่ดูคอนเสิร์ตจนจบน่ะ เห็นว่าคืนนี้มีนักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดังมา"
รถวิ่งผ่านหน้าโรงพยาบาลที่อยู่ถนนฝั่งตรงข้ามเหลืออีกราว 500 เมตรจะถึงบ้านโนนเจริญ วิ่งเข้าทางเส้นคู่ขนานได้เลยเพราะวันจันทร์นอนบนชั้นสองของร้านกาแฟ
"เอ๊ะ จันทร์ เรามีเพื่อนแล้ว พี่มองเห็นไฟรถวิ่งอยู่ข้างหน้าเรานี่เอง"
"หือ ไหน?"
คนตัวเล็กเอนตัวพยายามยืดคอดูแต่ผู้กองอาทิตย์ตัวสูงไหล่กว้างบังซะมิดหัว
"นั่นไง ไฟหน้ารถเขาสว่างมาก เราจะไล่ทันแล้วเดี๋ยวพี่จะขับไปตีคู่ใกล้ ๆ จะได้วิ่งเป็นเพื่อนกัน น่าจะเป็นคนโนนเจริญเหมือนจันทร์นะวิ่งเข้าทางคู่ขนานเหมือนพวกเรา"
"เอ๊ะ พี่อาทิตย์ อย่า!" วันจันทร์ตาเหลือกจิกเล็บเข้าต้นแขน ตชด.หนุ่มสุดแรง
"ปี๊ด ๆ... คุณครับ เข้าบ้านโนนเจริญด้วยกันมะ... เหวออ!"
สิ่งที่อยู่ตรงหน้าเป็นสิ่งที่ผู้กองอาทิตย์ไม่เคยเห็นมาก่อนในชีวิต ไม่มีคน ไม่มีรถเครื่อง มีแค่ลูกไฟสีแดงลูกใหญ่เท่าลูกฟุตบอลย่อม ๆ ลุกโชนลอยสูงจากพื้นถนนราว 2 เมตร
"ผีโพงงง!"
"พี่บิดเร็ว ไปเดี๋ยวนี้!"
ถูกผู้ชายหลอก ผู้แอบคบซ้อนอะไรลืมไปแล้ว ลืมว่าพ่อเป็นหมอผี ลืมแม้กระทั่งคาถาอาคมวิชาไล่ผีที่ได้ร่ำเรียนมาจากผู้เป็นพ่อ
"แง้นนนนนนน!"
ยังดีพลขับถึงจะตกใจแทบหัวใจวายแต่ยังจำทางกลับร้านนวดแผนไทยได้