เล่นได้
“อ้าว จีอา” และระหว่างที่เรากำลังเดินไปเรียนกันสองคน ก็มีหญิงสาวกลุ่มนึงกล่าวทักทายจีอาทำให้เราพวกหยุดเดินและหันไปมอง
“กิ่งง” จีอาลากเสียงก่อนจะเดินไปกอดเพื่อนสาวอย่างสนิทสนม ราวกับทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาก่อนจากมัธยม ซึ่งก็น่าจะใช่จริงๆ เพราะอีกฝ่ายเขาไม่ได้เรียนคณะบริหาร แต่เรียนเภสัช และเมื่อผมเห็นว่าทั้งสองกำลังพูดคุยกัน ก็เลยเดินนำไปก่อน โดยระหว่างทางก็มีผู้คนจ้องมองผมมากมายจนผมได้มาถึงห้องเรียน และผมก็ขึ้นไปนั่งชั้นบนสุดเหมือนเดิม นั่งอยู่คนเดียว
“ทำไมมานั่งข้างบนล่ะ?” จีอาเดินเข้ามาแล้วกล่าวถามผม ซึ่งเธอก็มานั่งข้างผมด้วย เพราะตั้งแต่เธอโดนบูลลี่มา ก็ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหาเธอ เพราะคนที่ทำกับเธอแบบนี้เป็นถึงแฟนของหัวหน้าแก็งค์ A5 ที่เป็นบุคคลชั้นสูงในมหาวิทยาลัย มีดีไปหมดทุกอย่าง
“ฉันไม่รู้จักใคร” ผมกล่าว แต่ที่จริงแล้วผมไม่กล้าเข้าหาใครต่างหาก ความคิดของเราน่าจะไม่เหมือนกัน
“แล้วงานที่นายจะให้ฉันทำ ดูแลน้องของนาย”
“ฉันต้องทำยังไง?” จีอากล่าวถามเมื่อเห็นว่าผมไม่ใช่คนเล่นๆ ถึงขั้นขนาดโค่น ดาวรุ่ง MMA ลงได้อย่างง่ายดาย มีอาวุธปืนในครอบครอง หลี่ไป๋ครอบครัวมาเฟียยังให้ความเคารพ และอื่นๆอีกมากมาย เธอจึงคิดว่าผมคงจะให้เงินเธอได้มากตามต้องการแน่ๆ
“นั่นเป็นเรื่องของเธอ ฉันบอกไปแล้วว่าดูแลน้องของฉัน” ผมกล่าวก่อนที่อาจารย์จะเริ่มสอน ซึ่งมันเป็นวิชาวิเคราะห์การตลาด
และระหว่างที่อาจารย์สอน เขาก็กล่าวถึงงานกลุ่มที่จะให้ทำส่งภายในวันพรุ่งนี้ด้วย เมื่อได้โจทย์มาผมก็ไม่รอช้าที่จะรีบทำในทันที ซึ่งมันเป็นงานวิเคราะห์การตลาดของแบรนด์อะไรก็ได้ ผมก็เลยวิเคราะห์แบรนด์ที่ผมเป็นที่ปรึกษา แบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำที่ดังไปทั่วเอเชีย และจะไปถึงทั่วโลกในไม่นานนี้
“อาจารย์จะปล่อยก่อนครึ่งชั่วโมง พอดีอาจารย์มีประชุมด่วน”
“นักศึกษามีคำถามอะไรไหม?” อาจารย์กล่าวถาม ซึ่งทุกคนก็นั่งเงียบ
“งานกลุ่มกลุ่มละ 6 คนได้ไหมครับ?” นักศึกษาคนนึงยกมือขึ้นกล่าว เดาว่าเขาน่าจะเป็นเพื่อนกันหกคนและอยากทำร่วมกันไม่อยากแยกกลุ่ม โดยอาจารย์ได้จำกัดคนต่อกลุ่มไว้ที่ 5 คน ที่จริงมันเป็นงานง่ายมากเลยนะ ทำคนเดียวก็ได้ อย่างเช่นผม
“ไม่ได้ครับ งานไม่ได้ยากครับไม่อย่างนั้นแบ่งเป็น สามคนต่อกลุ่มก็ได้ครับ” อาจารย์กล่าวก่อนจะปิดไมค์เมื่อไม่มีนักศึกษาคนอื่นกล่าวถามอะไรแล้ว
“เสร็จแล้ว Airdrop ส่งให้อาจารย์เลยได้ไหมครับ?” ผมยกมือขึ้นกล่าวถามทำให้เพื่อนทั้งห้องหันมามองผมเป็นตาเดียว
“ไม่ต้องห่วงฉันเขียนชื่อเธอใส่ไว้ในงานแล้ว” ผมหันไปกล่าวกับจีอา
“นักศึกษา ตรวจเช็คข้อมูลละเอียดแล้วใช่ไหมครับ?” อาจารย์กดเปิดไมค์อีกครั้งแล้วกล่าวถามผม
“ครับ” ผมตอบกลับไปอย่างมั่นใจ
“ส่งไว้ในเว็บได้เลยครับอาจารย์ต้องรีบไป” อาจารย์กล่าวก่อนที่จะเก็บของและออกไปจากห้องเรียนทันที ซึ่งผมก็ทำตามที่อาจารย์บอก ก็คือส่งงานลงในเว็บของมหาลัย
“เจเค…เอ่อ…จะให้เรียกพี่ไหม?” จีอากล่าวถาม
“ไม่ต้อง เรียกเจเคได้เลย” ผมกล่าวก่อนจะปิดไอแพด
“คืนนี้เพื่อนฉันที่เจอกันเมื่อกี้ชวนไปร้านเหล้า ไปด้วยกันไหม?” จีอากล่าว ซึ่งผมคิดว่าในสถานการณ์ตอนนี้สำหรับเธอไม่ควรไป เพราะเธอยังมีภาระต้องแบกรับ และไหนจะเรื่องเงินอีก แต่ถ้ามองอีกมุมนึง เธอน่าจะเครียดมากๆ อยากผ่อนคลายบ้าง และเธอก็ได้รับโอกาสจากผมแล้ว มันก็เป็นเรื่องดีเหมือนกันที่ผมจะทำความรู้จักกับคนที่จะมาดูแลน้องของผมเพิ่มเติม
“ได้สิ แต่ว่าอย่าลืมน้องฉันล่ะ” ผมกล่าวซึ่งจีอาก็พยักหน้า และหลังจากนั้นผมก็ได้ขับรถไปส่งเธอที่หอพักและนัดแนะเรื่องเวลาไปร้านเหล้ากัน เพราะผมจะมารับเธอไปอีกครั้ง และผมก็ได้ขับรถกลับคอนโดทันที
“ชุดไหนดีแมว?” ผมกล่าวถามเลขาของผม ซึ่งในตอนนี้ผมได้มาอยู่หอพักใหม่แถวๆมหาลัยแล้ว เพื่อทำตัวเป็นนักศึกษาที่แท้จริง โดยชุดที่ผมเลือกมาก็มีสูทสองสี สีฟ้ากับสีน้ำเงินคราม
“ท่านจะไปร้านเหล้าใช่ไหมคะ?” แมวกล่าวถาม
“ใช่” ผมตอบกลับทำให้แมวยื่นมือออกมาขอชุดสูททั้งสองคืนและไปเตรียมชุดใหม่ให้
“โดยปกติแล้วร้านเหล้าไม่ใช่ผับหรือบาร์ค่ะ”
“แต่เป็นร้านที่นักศึกษาไปเที่ยวกับสนุกๆปล่อยจอยเฮฮากัน”
“เพราะฉะนั้นการแต่งตัวไม่ต้องดูหรูค่ะ เป็นแค่แฟชั่นก็พอค่ะ” แมวกล่าวพร้อมกับจัดชุดใหม่ให้ผม เป็นเสื้อโอเวอร์ไซส์ขาวแบรนด์หลุยส์ และกางเกงทรงกระบอกสีฟ้าแบรนด์หลุยส์อีกเช่นเคย ส่วนรองเท้าเธอให้ผมเลือกว่าอยากใส่รองเท้าอะไรไป
“ที่ร้านเหล้าเขาใส่รองเท้าแตะกันเหรอ?” ผมกล่าวถามเมื่อเธอนำรองแท้าแตะมาให้ผมสามคู่ และรองเท้าผ้าใบสองคู่ เป็นโทนสีขาวและดำเหลือง
“ได้ค่ะ ดิฉันไม่ทราบว่าที่ร้านเหล้าที่ท่านจะไปมันคับแคบหรือเปล่า”
“เพราะถ้าแคบดิฉันแนะนำให้ใส่แตะค่ะ จะเดินสะดวกสบายกว่ามาก” แมวกล่าว ซึ่งผมก็เชื่อเธอ ซึ่งไหนๆชุดที่ผมใส่มันก็แบรนด์หลุยส์ทั้งตัวแล้ว รองเท้าผมก็ใส่หลุยส์อีกล่ะกัน
“ส่วนเรื่องเครื่องประดับดิฉันเลือกไว้ให้แล้วค่ะ” แมวกล่าวพร้อมกับพาผมไปที่โซนเครื่องประดับ ซึ่งมันก็มีสร้อยคอของ Dior แหวน Dior สร้อยข้อมือเป็นเลสของ Pandora
“เอ่อ นาฬิกาดิฉันอยากให้ท่านเลือกเองค่ะ” แมวกล่าวพร้อมกับยกนาฬิกาหรูขึ้นมาห้าเรือน และทุกเรือนจะเป็นแนวเหล็กทั้งนั้น แต่ทุกเรือนที่เธอหยิบมา มันเรือนละล้านบาทขึ้นไปทั้งนั้นเลยนี่สิ
“ถ้าจำไม่ผิดเอ็กเซลเคยให้นาฬิกา Omega มาเรือนนึง”
“เอาเรือนนั้นมาให้ผมหน่อย” ผมกล่าวและทำให้แมวไปค้นหานาฬิกาเรือนนั้นทันที ซึ่งนาฬิกาเรือนนี้ก็ราคาเพียงแค่สองแสนบาทเอง มันต่ำที่สุดแล้วล่ะสำหรับทุกเรือนที่ผมมี
“นี่ด้วยค่ะท่าน” เมื่อผมแต่งตัวเสร็จเรียบร้อย แมวก็มอบเสื้อคลุม versace ให้กับผมอีกตัวด้วยเหตุผลว่าไม่แน่ใจว่าที่ร้านหนาวขนาดไหน แต่ควรเตรียมไปไว้ก่อนดีกว่าไม่มี
“แล้วก็ดิฉันได้ประสานกับคุณจอร์นซื้อรถ Audi ให้แล้วนะคะ”
“หลังจากนี้ท่านใช้รถคันนี้ได้เลยค่ะ”
“ได้ยินมาว่าในหมู่นักศึกษามี 70% ที่ชอบแบรนด์ Audi ค่ะ” แมวกล่าวพร้อมกับมอบกุญแจรถให้ผม
ณ รัชโย
ร้านเล่นได้
“จีอา ลงหน้าร้านก่อนเดี๋ยวจะขับรถไปจอด” ผมกล่าวเมื่อเรามาถึงหน้าร้าน ซึ่งร้านมันก็อยู่ติดถนนเลย และการขับรถ Audi ป้ายแดงมาทำให้ทุกคนจ้องมองกันมาเป็นตาเดียว และจีอาก็ได้ทำตามที่ผมบอก เธอลงจากรถไป และเดินไปหากลุ่มเพื่อนๆของเธอที่ยืนรอเข้าร้านพร้อมกัน ซึ่งเหล่าบอดี้การ์ดของร้านก็ได้มาเดินนำหน้ารถของผมไปที่จอดอย่างดี
“ขอบคุณครับ” ผมลงมาจากรถแล้วกล่าวเมื่อการ์ดมาเดินเปิดทางให้รถผมเข้าไปจอดอย่างสบายๆ ผมก็เลยมอบแบงค์เทาให้เขาไปใบนึง
“ขอบคุณครับๆ” เขาถึงกับยกมือไหว้ผมรัวๆ
“โน่นไงมาแล้ว” จีอากล่าวเมื่อผมเดินมาหน้าร้าน ซึ่งจากตอนแรกที่ทุกคนมองรถของผม ตอนนี้กลายเป็นมองตามผมกันหมด ซึ่งพวกเรามาดื่มกันแค่ห้าคนเท่านั้น รวมผม และในกลุ่มก็เป็นผู้หญิงทุกคน
“สวัสดี” พวกเธอกล่าวทักทายผมและยิ้มให้
“สวัสดีครับ” ผมกล่าวทักทายกลับไปและยิ้มให้พวกเธอ
“รอพี่ก้านแปปนึงนะคะ” หญิงสาวที่ชื่อกิ่งกล่าวกับผม ซึ่งคนชื่อก้านน่าจะเป็นพี่ของพวกเธอ และเพื่อให้พวกเธอที่อายุสิบเก้าเข้าร้านได้น่าจะต้องพึ่งพาพี่ชายของเธอคนนี้ และผมก็ฟังพวกเธอคุยไปเรื่อยๆเกี่ยวกับคนที่ชื่อก้าน เขาเป็นหุ้นส่วนของร้านเล่นได้ ก็เลยพาพวกเธอเข้าร้านได้
“โต๊ะจะหลุดแล้วอ่า พี่ก้านยังไม่มาเลย” กิ่งกล่าว ซึ่งพวกเธอดูมีสีหน้าที่เป็นกังวลอย่างมาก
“เดี๋ยวเราเข้าร้านก่อนก็ได้นะ อายุเราถึง” ผมกล่าวเพราะนี่มันก็เกือบสองทุ่มแล้วด้วย จะถึงเวลาโต๊ะจองหลุด
“ได้ค่ะ ไปสั่งเหล้าไว้เลยนะคะเดี๋ยวหารกันทีหลัง” กิ่งกล่าว ซึ่งจีอาก็พยักหน้าให้ผม
“ครับ” ผมกล่าวจบก็เดินไปตรวจบัตรกับการ์ดหน้าร้านและเข้าไปนั่งตามโต๊ะที่กิ่งได้จองเอาไว้
“รับเป็นโปรอะไรดีครับ?” พนักงานในร้านเดินมากล่าวถามผม
“ขอเมนูด้วยครับ” ผมกล่าว เพราะคิดว่าควรจะสั่งอะไรมากินหน่อยนอกจากเหล้า ซึ่งในร้านก็ดูธรรมดามากเลยถ้าเทียบกับบาร์หรือผับที่ผมไป โต๊ะก็เป็นโต๊ะไม้ เก้าอี้เป็นพลาสติกราวกับงานวัด
“มีเหล้าแค่นี้เองเหรอครับ?” ผมกล่าวถาม เพราะในร้านมีเหล้าแค่ 285 แสงโสม หงษ์ทอง ราคาสูงขึ้นหน่อยก็จะเป็น รีเจนซี่ Red และ แบล็ค ซึ่งผมเคยกินแบล็คแค่สองครั้งเอง ผมนับได้เลย ส่วนอันอื่นไม่เคยกิน แบล็คคือเหล้าราคาถูกที่สุดที่ผมกิน
“เราจะมี Hennessy vsop อยู่ครับ”
“แต่ว่ายังไม่ได้เพิ่มเข้าเมนู”
“ลูกค้าจะรับไหมครับเดี๋ยวจะให้ผู้จัดการมาแนะนำโปรโมชั่นให้” พนักงานกล่าว ซึ่งผมก็พยักหน้าและเขาก็ได้ไปที่บาร์เพื่อพาผู้จัดการร้านมา
“ก่อนอื่นเราต้องขอโทษด้วยครับที่ยังไม่ได้นำเพิ่มเข้าเมนู”
“เป็นความผิดพลาดของเราเองครับ”
“เพราะฉะนั้นถ้าลูกค้าสั่งหนึ่งโปรเราจะแถมมิกเซอร์ให้สิบขวดครับ” ผู้จัดการกล่าวด้วยท่าทางสุภาพ และมันทำให้ผมรู้สึกดี แต่ว่าเรื่องความผิดพลาดมันก็ทำให้ผมส่ายหน้าเล็กน้อย
“สองโปรครับ มิกซ์เซอร์…” ผมกล่าวแต่เมื่อนึกถึงมิกเซอร์ผมก็นิ่งไปนิดนึง จึงมองโต๊ะข้างๆและเห็นว่าพวกเด็กๆกินกับโค๊กกัน
“โซดากับน้ำเปล่าอย่างละสามขวดที่เหลือเป็นโค๊กครับ” ผมกล่าวก่อนจะหยิบแบงค์พันออกมาจากกระเป๋าตังแปดใบ
“ทั้งหมด 7,318 บาทครับ”
“ผมลดให้เหลือ 7,000 บาทถ้วนครับ”
“เดี๋ยวจะแถมน้ำแข็งให้สองถังครับ” เขากล่าว ซึ่งผมก็ชอบนะการดูแลแบบ VIP จนผมได้เหลือบไปเห็นเหล้าช็อตที่วางอยู่บนชิงช้าขนาดเล็ก
“อันนั้นราคาเท่าไหร่?” ผมกล่าวถาม
“ชิงช้าตอนนี้ราคา 555 บาทครับ”
“ถ้าคุณลูกค้าสั่งสองชิงช้า 1,000 บาทครับ” ผู้จัดการร้านกล่าว และมันทำให้ผมยิ้มออกมา นี่มันการตลาดชัดๆ เห็นว่าผมมีเงินก็เลยจะสูบผมเยอะๆสินะ
“งั้นก็แปดพันบาทครับ” ผมยื่นแบงค์พันไปแบดให้ให้กับเขา และมันทำให้ผู้จัดการร้านยิ้มออกมาทันที
“วันนี้ในโต๊ะมีวันเกิดเหรอครับ?”
“ถ้ามีวันเกิด เรามีโปรสำหรับวันเกิดอยู่นะครับถ้าวันเกิดตรงกับบัตรประชาชน” ผู้จัดการร้านกล่าว ครั้งนี้ผมยิ้มออกมาทันที
“ไม่มีครับ ขอบคุณครับ” ผมกล่าวก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่บาร์
10 นาทีผ่านไป
“เจเค สั่งอะไรไปอะ?” เมื่อกลุ่มของจีอาเข้าร้านมาได้ เธอก็มานั่งข้างผมแล้วกล่าวถามทันที
แต่
“ห้ะ!?” เมื่อพนักงานเสิร์ฟยกเหล้ามาวาง พวกเธอทุกคนตกใจกันมากและหันหน้ามองกัน
ทำให้ผมเกิดความสับสนขึ้นทันที เพราะอะไรพวกเธอถึงตกใจกันนะ?
“สองขวดเลยเหรอ!?” และเมื่อพนักงานเสิร์ฟอีกคนเดินมา มันยิ่งทำให้พวกเธอตกใจมากกว่าเดิม รวมถึงโต๊ะข้างๆด้วยเช่นกัน เพราะจากที่ผมดู พวกเขาสั่งกันเพียงแค่เหล้า 285 หรือเบียร์ 4 ขวดเป็นโปรเท่านั้น
“เอ่อ…” กิ่งถึงกับนิ่งค้างไปเลย ทำให้ผมหันไปมองจีอา
“โดยปกติแล้วเราไม่สั่งเหล้าแพงกันขนาดนี้นะ”
“แล้วเราก็ไม่ได้มีเงินเยอะถึงขนาดจะสั่งเหล้าแพงได้ด้วย” จีอากล่าว ผมจึงถอนหายใจออกมา