สมัคร IG
“ฮ่าๆ” เมื่อผมเข้ามาในห้องมืด ที่มีแสงไฟส่องสว่างเพียงแค่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ เขาถูกมัดและซ้อมไปหนักพอสมควร แต่ก็ยังหัวเราะออกมาได้หน้าตาเฉย
“มึงพลาดแล้ว พวกมึงพลาดกันแล้ว!" มันกล่าวด้วยความสะใจ ซึ่งทำให้มันโดนเอ็กเซลหวดเข้าหน้าไปอีกหมัด
“เจเค มึงคิดเหรอว่าการที่มึงทำแบบนี้มึงจะมีชีวิตรอด” จัสตินกล่าวท้าทายผม ผมจึงเดินไปหยิบเก้าอี้มานั่งตรงข้ามมัน
“มึงคิดว่ากูกลัวตายเหรอ?” ผมกล่าวถามมันกลับ โดยที่เราคุยกันเป็นภาษาอังกฤษ
“ไม่เลย ไม่ใช่ กูรู้มึงมันเป็นปีศาจ”
“เป็นเงา แต่มึงโดนฉายแสงแล้วนะ” จัสตินกล่าว ทำให้ผมนึกคิด เพราะเอ็กเซลมารับผมหน้าร้านเหล้าติดถนน และยังพาคนมามากมาย ต้องมีคนถ่ายลงโซเชียลแน่ๆ แต่น่าจะไม่ใช่เรื่องนั้นเพียงอย่างเดียว
“หึ” และเมื่อมันเห็นผมกำลังครุ่นคิด มันจึงยกยิ้มมุมปากออกมา ซึ่งเรื่องต่อไปน่าจะเป็นเรื่องที่เหมืองขุดบิตคอยน์ของผมถูกตัดไฟ รวมถึงเรือล่มไปสองลำ มันก็น่าจะเป็นข่าวอีก แต่ผมเชื่อว่าจิมมี่จะจัดการปิดข่าวได้แน่นอน เพราะเรามีบริษัทใหญ่ยักษ์เรื่องสื่อออนไลน์อยู่ และจิมมี่ต้องสั่งควบคุมสื่อเกี่ยวกับเรื่องของพวกเราแน่ๆ แถมเรายังเป็นผู้ถือหุ้นของแอปพลิเคชั่นสื่อออนไลน์อื่นๆอีก เราจะปิดข่าวได้แน่นอน
“ไม่ว่ามึงจะเป็นสัตว์ประหลาดมาจากไหน”
“ความตั้งใจของกูก็สำเร็จแล้ว”
“เงา คำนี้อีกไม่นานหรอก” จัสตินกล่าวก่อนจะหัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง ซึ่งก่อนหน้าที่ผมจะเข้าห้องมาผมก็ได้รับข้อมูลมาว่ามันเล่นยาไปด้วย นี่น่าจะเป็นอาการหลอนๆของมันแหละ
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย…กูก็เริ่มเบื่อๆคำว่าเงาอยู่เหมือนกัน”
“กูรู้สึกว่าได้ลองใช้ชีวิตปกติมันก็ดีนะ” ผมกล่าวและมันทำให้จัสตินสีหน้าเปลี่ยน
“แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น รอบก่อนๆกูปล่อยผ่านเพราะกูเห็นแก่หน้าพ่อของมึง”
“แต่ในตอนนี้มึงล้ำเส้นมากเกินไปแล้ว” ผมกล่าวจบเอ็กเซลก็หยิบปืนขึ้นมาจ่อหัวจัสตินทันที
“แล้วมึงจะเสียใจ” จัสตินกล่าว มันรู้อยู่แล้วว่าถ้าทำแบบนี้กับผม ผมต้องฆ่ามันแน่ๆ แต่มันก็ยังทำ มันคงคิดว่าพ่อของมันจะคุ้มกะลาหัวไปได้ตลอดชีวิต
แต่มันผิด
ผมไม่กลัวพ่อของมันเลยแม้แต่น้อย
“มึงคิดว่าพ่อของมึงจะมาเล่นกูกลับงั้นเหรอ?”
“สมองมึงคิดได้แค่นี้จริงดิ?”
“สั่งหน่วยลับทำลายแก็งค์ของมันซะ” ผมหันไปกล่าวกับฮิว ซึ่งฮิวก็ได้ไปตามเก็บคนของเอ็กเซลมาหมดแล้ว พวกที่เหลือก็น่าจะรายงานไปถึงพ่อของมัน แต่ก่อนที่พ่อของมันจะได้ทำอะไร หรือรู้เรื่องว่าลูกชายตัวเองตาย เขาอาจจะตายก่อน
“กูล่ะไม่เข้าใจจริงๆ ไม่มีใครกล้างัดกับกูสักคนเพราะรู้ว่าจุดจบจะเป็นยังไง”
“แต่ทำไมมึงถึงกล้า?” ผมกล่าวถามพร้อมกับหยิบแก้ววิสกี้ที่เอ็กเซลมันเอาไว้ลาดแผลของจัสติสมาดื่ม
“เพราะกูกล้าไง กูกล้าลอง กล้าเสี่ยง เพราะถ้ากูทำสำเร็จ กูก็จะได้สิ่งนั้นมาครอบครอง”
“ที่มึงมีทุกอย่างอะ” จัสตินกล่าว ผมก็ยังคิดแบบเดิมว่ามันคิดแบบนี้จริงๆเหรอ หรือมันไม่รู้ว่าผมมีไพ่อะไรในมือบ้าง? มันเข้าถึงตัวผมไม่ได้สักครั้ง แต่ก็ยังสะกิดผมแบบนี้ไปเรื่อยๆ
“แต่สุดท้ายมึงก็ไม่ได้ครอบครองมันอยู่ดี” ผมกล่าวก่อนจะใช้วิสกี้ในแก้วลาดแผลมันบนขาข้างซ้ายทำให้มันเกร็งด้วยความเจ็บปวด และพยายามกั้นเสียงร้องสุดๆ แต่ก็โดนเอ็กเซลซัดหน้าเข้าไปอีกหมัด
“ไร้สาระ ทำเหมือนเดิมล่ะกัน” ผมกล่าวก่อนจะวางแก้ววิสกี้ไว้ที่เดิมและเดินออกไปจากห้อง ซึ่งการทำเหมือนเดิมนั่นก็คือการฆ่าแบบอุบัติเหตุ แต่ครั้งนี้คงต้องเป็นอุบัติเหตุที่เกี่ยวกับสัตว์ซะหน่อย เพราะมันโดนซ้อมไปเยอะอยู่ หรือไม่ก็ทำลายร่างมันทิ้งไปเลย อะไรอีกเยอะแยะที่วินเซนต์มันชอบพาศพไปเล่น
หลังจากนั้นผมก็กลับหอพักไปนอนพักผ่อนและไม่คิดอะไรอีก เพราะโดยปกติแล้วจัสตินมันก็เป็นคนแบบนี้แหละ ถึงมันจะคิดเก่ง ทำเก่ง มีความสามารถ แต่มันก็ยังไม่ละเอียดพอ ก็ถ้ามองในมุมของมัน มันอาจจะรู้เรื่องราวของผมไม่ถึงครึ่งด้วยซ้ำแต่คงคิดว่ารู้เยอะแล้ว อย่างเช่นเหมืองที่มันเพิ่งจะตัดไฟไป ผมมีอีกเจ็ดเหมือง เรือที่มันเผาไปสองลำ ผมมีอีกเป็นสิบ
และใช่ ผมให้เอ็กเซลตรวจสอบดูแล้วด้วยว่ามันรู้อะไรบ้าง และฝีมือการตรวจสอบของเอ็กเซลผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งเลย มันฉลาดมากจริงๆ แต่ก็นั้นแหละ ไอเวรนี่มันก็แค่กบตัวนึงที่อยู่ในบ่อของผม คิดจะเหลี่ยมก็โดนย่างไปซะ
วันถัดไป
ณ คาเฟ่แห่งหนึ่ง
“เมื่อคืนขอบคุณมากนะคะพี่เจเค” กิ่งยกมือขึ้นมาไหว้ผม ซึ่งทุกคนก็ทำแบบเดียวกัน หลังจากที่ได้รู้เหตุการณ์เมื่อคืนที่ผมโทรกริ้งเดียวตำรวจก็ออกไปกันหมด แถมยังมีข่าวลือว่าหน้าร้านยังเต็มไปด้วยชายสูทดำราวกับมารับหัวหน้าใหญ่ และพวกเธอก็คิดว่าเป็นผมที่เป็นหัวหน้าของคนเหล่านั้น
“ขอบคุณอะไรล่ะ ไม่ต้องเลย”
“แล้วก็ไม่ต้องเรียกพี่ด้วย” ผมกล่าวก่อนจะหยิบแก้วชาเขียวขึ้นมาดื่ม ผมรู้สึกว่าดื่มชาเขียวแล้วมันสดชื่นดี ส่วนพวกกาแฟผมไม่ชอบเพราะมันขม ไม่รู้สิ อาจจะเป็นความชอบของแต่ละคนละมั้ง
“ว่าแต่ทำไมพี่เจเคถึงไม่เล่นไอจีเหรอคะ?” กิ่งกล่าวถาม ซึ่งคำถามนี้ทุกคนล้วนหันมาสนใจผม โดยที่โต๊ะของเรานี่มีคนมองทั้งร้าน หญิงสาวห้าคนทั้งสวยและน่ารัก ส่วนผมก็ดูหล่อเข้มสุดๆทั้งยังสักที่คออีกด้วย นี่มันกลุ่มไอดอลชัดๆ แต่นั่นมันก็แค่พวกเธอในโต๊ะแหละนะ
เพราะแต่ละคนมียอดฟอลไอจีหลักหมื่นทั้งนั้น ยิ่งกิ่งนี่เป็นอินฟลู มียอดติดตามเกือบแสน ในติ๊กต๊อกอีกล้านกว่าคน พวกเธอทำแก็งทำคอนเทนต์ดีๆนี่เอง และพวกเธอก็สงสัยว่าเพราะอะไรผมถึงไม่เล่นโซเชียล
“ไม่รู้สิ แต่หยุดเรียกว่าพี่ด้วย” ผมกล่าวย้ำ
“หรือว่านายสมัครไอจีไม่เป็น?” จีอาหันมากล่าวถามผม
“เป็นสิ ไม่ยาก” ผมกล่าวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
“เดี๋ยวทำให้” จีอากล่าวพร้อมกับหยิบโทรศัพท์ของผมไป และเธอก็จัดการสมัครไอจีให้ผมพร้อมกับให้ผมตั้งรหัสเอง และถ่ายรูปผมเป็นโปรไฟล์ ส่วนอีกสามรูปก็เป็นรูปที่จะเอาไว้โพส
“อะไรเนี่ย?” จีอากล่าวเมื่อโพสรูปลงไปก็มีผู้คนเข้ามาให้ความสนใจในทันที และส่วนใหญ่คิดว่ารูปนี้ถูกสร้างขึ้นโดย AI
“ฮิฮิ จริงๆเหรอ” ทำให้พวกสาวๆขำกันยกใหญ่
“เดี๋ยวพวกเราช่วยเอง” กิ่งกล่าวก่อนที่พวกเธอจะยกโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาถ่ายและแท็กผมลงไปด้วย เป็นการยืนยันตัวว่าผมไม่ใช่ AI ซึ่งพวกเธอก็ได้ขอติดตามผมมา และผมก็รับคำขอพร้อมกับติดตามพวกเธอกลับ ซึ่งเมื่อสตอรี่นั่นขึ้นโพส ยอดฟอลของผมก็พุ่งขึ้นทันที จากหลักสิบเป็นหลักร้อยขึ้นเป็นหลักพันในไม่กี่นาที
“ทำไมไม่ดึงเจเคเข้ากลุ่มไลน์ล่ะ?” กิ่งกล่าวถาม ซึ่งผมพอใจมากที่เธอเรียกชื่อผมโดยไม่มีคำนำหน้า
“อ่อใช่ค่าเหล้าเมื่อคืนเราขอบคุณมากเลยนะ”
“แต่คราวหลังอยากให้หารกันมากกว่า” กิ่งกล่าวก่อนจะขอไลน์ผมและดึงผมเข้ากลุ่มไลน์ที่มีเพียงพวกเธอห้าคน ซึ่งผมก็ได้เห็นประวัติการหารจ่ายเป็นฟังก์ชั่นในกลุ่มไลน์
“พวกเธอใช้ฟังก์ชั่นนี้เป็นด้วยเหรอ?” ผมกล่าวถาม
“ใช่สิ มันไม่ยากเลย เราต้องตามเทคโนโลยีให้ทันนะรู้ไหม?” กิ่งกล่าวก่อนจะหัวเราะคิกๆออกมา ซึ่งผลการตอบรับของฟังก์ชั่นนี้มันไม่ค่อยโดดเด่นสักเท่าไหร่ ที่จริงผมเป็นคนคิดขึ้นมาเองแหละ แต่ก็ไม่ค่อยมีคนใช้อยู่ดี การที่ผมเห็นลูกค้ามาใช้ต่อหน้ามันรู้สึกดีจริงๆ
“แล้วเป็นยังไงบ้าง ใช้ดีไหม?” ผมกล่าวถามด้วยรอยยิ้ม
“ดีมากเลย” กิ่งกล่าวและยกนิ้วให้ผมก่อนจะเปิดฟังก์ชั่นนี้ขึ้นมาและตั้งหัวข้อใหม่คือเก็บเงินไปพูลวิลล่าที่พัทยากัน
“จะไม่ถามกันหน่อยเหรอว่าไปไหม?” ผมกล่าวถามก่อนจะหัวเราะหึหึ ออกมา
“ไปสิ เราก็ไปด้วยกันหมดทั้งกลุ่มนี่แหละ สนุกจะตาย” กิ่งกล่าว ดูเหมือนกิ่งจะเข้าหาคนเก่งสุดๆ ไม่แปลกที่จะเป็นอินฟลู
“ฟังก์ชั่นนี้มันสะดวกขนาดนี้เลยเหรอ” ผมกล่าวถามอีก
“เจเคถามมากจริง" จีอาจิ๊ปาก
“แหม ก็ถามลูกค้าไง” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบกระเป๋าตังขึ้นมาและวางนามบัตรของตัวเองไว้บนโต๊ะ
“ห้ะ! ที่ปรึกษาไลน์กรุ๊ปจำกัด!?” พวกเธอตกใจมากที่ผมมีนามบัตร
“ระบบนี้เราเป็นคนคิดขึ้นเองแหละ ได้เห็นพวกเธอใช้งานแบบนี้รู้สึกดีมาก”
“คิดว่าจะไม่ค่อยมีคนใช้ซะอีก” ผมกล่าวส่วนพวกเธอยังคงตกใจกันอยู่
“เอ่อ แล้วเรื่องเงินเป็นไงบ้าง”
“มึงยืมกูก่อนได้นะถ้าไม่ทัน” กิ่งกล่าวถามจีอา
“ไม่เป็นไรแล้วล่ะ เจเคหางานมาให้ทำแล้ว” จีอากล่าวและยิ้มออกมา ดูเหมือนเธอจะผ่อนคลายแล้วจริงๆ
“งานอะไรเหรอ?” เพื่อนๆกล่าวถาม ซึ่งอีกสามคนพวกเธอเป็นนักเทรด แถมยังเอาตังไปทบต่อที่หุ้นด้วย แต่พวกเธอก็ยังอยู่ในขั้นเริ่มต้นเท่านั้น ถือว่าเยี่ยมเลยทีเดียวที่คิดกันได้แบบนี้
“ดูแลน้องของเจเคน่ะ” เมื่อจีอากล่าวออกมาทำให้เพื่อนๆถึงกับแสดงสีหน้าสับสนกันทันที
“เธอต้องใช้เงินจำนวนมากเลยไม่ใช่เหรอ?” กิ่งกล่าวถาม เพราะการดูแลน้องนี่มันงานง่ายๆเลยหนิ คงจะได้ไม่กี่พัน
“อ่อใช่ ถ้าเรื่องนั้น” ผมกล่าวก่อนจะเปิดโทรศัพท์ขึ้นมาและโอนเงินให้กับจีอา
“ห้ะ!?” จีอาถึงกับตกใจมาก เพราะจำนวนเงินมันไม่ใช่หลักพัน หลักหมื่น แต่เป็นหลักแสน!
“ดูแลน้องชายของเรามันไม่ใช่งานที่ใครก็จะทำได้นะ”
“นี่แหละเงินเดือนจ่ายให้ก่อนเลย" ผมกล่าวก่อนจะมองจำนวนเงินที่ลดลงไป ที่จริงผมแทบมองไม่ออกเลยว่ามันลด เพราะเลขมันเยอะเกิน
“แล้วก็บัตรนี้เอาไปใช้จ่ายเกี่ยวกับน้องชายฉันได้เลย” ผมกล่าวพร้อมกับหยิบบัตรสีฟ้าให้กับจีอา
“บัตรนี้เป็นชื่อของเธอ กดใช้ได้ตามสบายเลยไม่จำกัดวงเงิน” ผมกล่าวทำให้ทุกคนอึ้งกันไปหมด
“บ้านผลิตเงินเหรอเจเค” กิ่งกล่าวแซวทำให้ผมอมยิ้มออกมาหน่อยๆ
แต่เดี๋ยวก่อน
นี่ผมมีอารมณ์ขำงั้นเหรอ?
“ไม่ได้ผลิตเงินหรอก แต่ให้เงินมันทำงานน่ะ” ผมกล่าวพร้อมกับเปิดพอร์ตการลงทุนของ MT5 และวางโทรศัพท์ไว้บนโต๊ะ
“เอาจริงดิ!” สาวนักเทรดทั้งสามตกใจมากกับจำนวนเงินที่มันขึ้นลงไม่หยุด แถมมันยังอยู่ในหลักล้านด้วย และไม่ใช่แค่รายการเดียว แต่มีเป็นสิบรายการ ซึ่งหลักล้านนั้นก็ไม่ใช่ล้านบาท แต่เป็นล้านดอลล่าร์!
“เจเค นายเป็นใครกันแน่เนี่ย!?” พวกเธอสับสนเกี่ยวกับตัวตนของผม หนึ่งก็เป็นคนที่ลึกลับมีลูกน้องเดินตาม เคลียร์กับตำรวจได้ หนึ่งก็มีตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาของไลน์ และนี่ยังเป็นนักลงทุนอีก ไม่แปลกใจเลยที่เขาจะสั่งเหล้าแพงกิน มันคงเป็นแค่เศษเงินของผมแหละ
“ตามเทคโนโลยีให้ทันนะ เพราะมันจะเปลี่ยนชีวิตพวกเธอได้เลย” ผมกล่าวและยักคิ้วข้างเดียวให้กับกิ่ง
“อี๋ หมั่นไส้” กิ่งกล่าวก่อนจะเบะปากออกมาทำให้พวกเราหัวเราะกัน
และหลังจากนั้นนักเทรดทั้งสามก็เริ่มพูดคุยการลงทุนกัน ซึ่งจีอาก็เคยลงทุน แต่ในตอนนี้เธอไม่มีงบแล้ว ซึ่งที่พวกเธอตัดสินใจลงทุนในสินทรัพย์อะไรพวกนี้กันเพราะคิดว่ามันจะเป็นหนทางหาเงินให้พวกเธอได้แม้พวกเธอจะนอนหลับหรือเรียนอยู่ คล้ายกับงานอดิเรกนั่นแหละ แต่เมื่อได้เห็นการลงทุนของผม ความคิดของพวกเธอก็เปลี่ยนไป